Toyota Highlander พลิกโฉมตัวลุย-เสริมไฮบริด

พูดถึงชื่อไฮแลนเดอร์ ตลาดพวงมาลัยขวาอย่างบ้านเรา, ญี่ปุ่น และออสเตรเลียอาจจไม่คุ้นหูมากนัก แต่ถ้าบอกชื่อคลูเกอร์ หรือคลูเกอร์ วี หลายคนคงร้องอ๋อ เพราะนี่คือผลผลิตเดียวกัน แต่เปลี่ยนชื่อเพื่อให้เกิดความแตกต่างในแต่ละตลาด
และในตอนนี้ ทางฝั่งอเมริกา ซึ่งขายด้วยชื่อไฮแลนเดอร์จัดการเดินตามรอยตลาดออสเตรเลียด้วยการปรับโฉม หรือไมเนอร์เชนจ์เพื่อเป็นการกระตุ้นตลาดครั้งใหม่

คลูเกอร์ หรือไฮแลนเดอร์ เป็นเอสยูวีที่เน้นความอเนกประสงค์ด้วยตัวถังทรงกล่อง ซึ่งได้รับการพัฒนาบนพื้นฐานเดียวกับรุ่นแฮร์ริเออร์และคัมรี่ โดยเปิดตัวรุ่นแรกในปี 2000 และมีการทำตลาดเรื่อยมาจนถึงรุ่นปัจจุบัน ซึ่งเป็นเจนเนอเรชันที่ 2 และเปิดตัวขายในปี 2007

ในเวอร์ชันนี้มีความเปลี่ยนแปลง เพราะว่าตลาดญี่ปุ่นไม่ได้มีขาย แต่จะมีขายในออสเตรเลียกับชื่อคลูเกอร์ต่อไป ส่วนสหรัฐอเมริกาและแคนาดายังใช้ชื่อไฮแลนเดอร์เหมือนเดิม โดยมีการเพิ่มรุ่นไฮบริดเข้ามาเป็นอีกทางเลือก และงานออกแบบทั้งหมดเป็นหน้าที่ของศูนย์ออกแบบของโตโยต้า CALTY Research เมืองนิวพอร์ต บีช มลรัฐแคลิฟอร์เนีย สำหรับไมเนอร์เชนจ์ครั้งนี้ มีการเพิ่มความสดในทุกรายละเอียดรอบคัน โดยเฉพาะด้านหน้าซึ่งมีการเปลี่ยนไฟหน้า กระจังหน้า กันชนหน้า และฝากระโปรงหน้าใหม่ ส่วนด้านท้ายเปลี่ยนแค่รายละเอียดที่อยู่ในโคมไฟ โดยใช้หลอด LED ในการส่องสว่าง พร้อมล้อแม็กขนาด 17 นิ้วสำหรับรุ่นธรรมดา และ 19 นิ้วสำหรับรุ่นท็อป SEในห้องโดยสารเพิ่มความหรูหราด้วยเบาะหนัง และตอบรับกับความอเนกประสงค์ด้วยเบาะนั่งแบบ 3 แถว ซึ่งสามารถเลือกพับได้หลากหลายรูปแบบเพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้ในการใช้สอย ขณะที่เวอร์ชันออสซี่ มีขายทั้งแบบ 2 แถว 5 ที่นั่ง และ 3 แถว 7 ที่นั่ง ในรุ่นธรรมดามาพร้อมกับทางเลือกของเครื่องยนต์ 2 แบบเป็นเบนซินล้วนๆ คือ 4 สูบในรหัส 1AR-FE บล็อกใหม่ 2,700 ซีซี พร้อมระบบ Dual VVT-I มีกำลังสูงสุด 187 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 25.7 กก.-ม. อีกรุ่นเป็นรหัส 2GR-FE แบบวี6 ทวินแคม 24 วาล์ว 3,500 ซีซี Dual VVT-I เช่นกัน มีกำลังสูงสุด 270 แรงม้า ที่ 6,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 34.2 กก.-ม. ที่ 4,700 รอบ/นาที มีให้เลือกทั้งแบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 4 ล้อตลอดเวลากับเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ

อีกรุ่นเป็นแบบไฮบริด ผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์ วี6 3,300 ซีซีกับมอเตอร์ไฟฟ้าเค้นกำลังออกมารวมกันได้ 280 แรงม้า และในการขับเคลื่อน 4 ล้อหน้าที่ในการขับเคลื่อนล้อหลังก็เป็นงานของมอเตอร์ไฟฟ้าอีกตัวหนึ่ง หรือเรียกว่า Hybrid 4WD-I และสามารถขับในโหมดไฟฟ้า หรือ EV Mode ได้ในระยะทางสั้นๆ เหมือนกับรถยนต์ไฮบริดรุ่นอื่นๆ ของโตโยต้า

ในสหรัฐอเมริกา เริ่มทำตลาดมาตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 27,500 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 825,000 บาท ส่วนบ้านเราท่าทางจะมีให้สัมผัสกันยาก เพราะในญี่ปุ่นเลิกขายไปแล้ว ถ้าอยากจะขับกันจริงๆ คงต้องพึ่งการนำเข้าจากออสเตรเลียแทน
Toyota Highlander พลิกโฉมตัวลุย-เสริมไฮบริด
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

ไม่มีความคิดเห็น:

รายการบล็อกของฉัน