tag:blogger.com,1999:blog-90186188971112387332024-03-13T20:07:55.970-07:00@..New TOYOTA 2012-2013..@New TOYOTA 2012,TOYOTA Etios,Toyota Camry 2.0G,Toyota hybrid,Toyota Corolla Altis TRD Sportivo,Toyota NewYaris,New Toyota Prius,New TOYOTA 2013newtoyotahttp://www.blogger.com/profile/13151539341201504178noreply@blogger.comBlogger176125tag:blogger.com,1999:blog-9018618897111238733.post-44807087108299126702012-06-24T10:58:00.000-07:002012-06-24T10:58:51.344-07:00รถต้นแบบแนวคิด สนุกๆซนๆ จากโตโยต้า<a href="http://4.bp.blogspot.com/-js3bJrzJ1M4/T-dUtkOQ16I/AAAAAAAABmI/dlHpUJRqB7U/s1600/1.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="215" src="http://4.bp.blogspot.com/-js3bJrzJ1M4/T-dUtkOQ16I/AAAAAAAABmI/dlHpUJRqB7U/s400/1.jpg" width="400" /></a><br />
รถต้นแบบแนวคิด สนุกๆซนๆ จากโตโยต้า ปัจจุบันนี้หากให้เรานิยามบุคลิกภาพของโตโยต้า เราอาจจะนึกได้ถึงคำว่า “เชื่อถือได้” “ประหยัด” ฯลฯ แต่คำว่า “เร้าใจ” หรือ “สนุก”อาจจะเป็นคำที่หลาย ๆ คนไม่ได้นึกถึงเลยก็เป็นได้ และโตโยต้าเองก็รู้สึกถึงเรื่องนี้ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน <br />
<a name='more'></a>แต่เชื่อว่านับแต่บัดนี้ไปเราคงจะได้เห็นอะไร “สดใหม่และเร้าใจ” จากโตโยต้ามากขึ้นจากนโยบาย วากุ วากุ โดกิ โดกิ หรือ“หัวใจที่ตื่นเต้นไปกับสิ่งที่ท้าทาย” และการมาถึงของโทคุโอะ ฟุคุอิจิ มือเก๋าวัย 60 ปี ผู้มากไปด้วยความคิดสร้างสรรค์และเข้ามากุมบังเหียนและวางนโยบายการออกแบบของโตโยต้าทั่วโลก ด้วยประสบการณ์ที่ได้จากการทำงานกับโตโยต้าในอเมริกาเหนือมายาวนาน<br />
<br />
ทำให้วิสัยทัศน์ของเขาแตกต่างจากธรรมเนียมญี่ปุ่นแบบเดิม ๆ ไปมาก เห็นได้ชัดเจนจากรูปแบบการแต่งตัวและความกระฉับกระเฉงที่ดูหนุ่มกว่าวัยไม่บอกก็ไม่รู้ว่านี่คือคนวัยหกสิบ<br />
<a href="http://3.bp.blogspot.com/-CTtTu7J0Kh4/T-dUuCEJOaI/AAAAAAAABmg/iafONv2fTWs/s1600/3.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="266" src="http://3.bp.blogspot.com/-CTtTu7J0Kh4/T-dUuCEJOaI/AAAAAAAABmg/iafONv2fTWs/s400/3.jpg" width="400" /></a><br />
นโยบายแรกของเขาคือการจัดทัพใหม่ โดยเขาอุปมาทีมออกแบบของโตโยต้าในอดีตว่าเป็นเหมือนสโมสรฟุตบอลอ่อนหัด ที่ทุก ๆ คนจ้องมองแต่ลูกฟุตบอลแต่ไม่มีแผนการเล่น จริงอยู่ว่าทุกคนขยันวิ่งก็เลยเอาตัวรอดพอได้ แต่เขาในฐานะโค้ชก็ขอจัดกลยุทธ์ใหม่โดยแบ่งให้ทีมออกแบบของโตโยต้าในแต่ละมุมโลกทำหน้าที่ต่างกัน ทีมใหญ่ของโตโยต้าที่อยู่ในประเทศญี่ปุ่นนั้นให้ทำหน้าที่เป็นเหมือน “ผู้รักษาประตู กองหลัง และกองกลาง” ทำหน้าที่จ่ายงานและดูแลคุณภาพการออกแบบไม่ให้ใครมาหักเหลี่ยมได้ ส่วนทีมของสำนัก “คาลตี้” ในแคลิฟอร์เนียและ ED2 ในฝรั่งเศสอันเป็นทีมที่อยู่ในบรรยากาศที่สร้างสรรค์ ก็จะให้ทำหน้าที่เป็นหัวหมู่ทะลวงฟันในบทบาท “กองหน้า” ส่วนสำนักเทคโน อาร์ตและคันโต ออโต้ เวิร์คส<br />
<br />
ซึ่งเป็นบริษัทลูกของโตโยต้าที่ชำนาญด้านการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่นั้น ให้ทำหน้าที่เป็น “ปีก” เล่นลูกริมเส้น ป้อนลูกเจ๋ง ๆ ให้กองหน้าเข้าไปทำประตู และเขายังได้ปฏิวัติรูปแบบของคณะกรรมการพิจารณาแบบเสียใหม่ จากแต่เดิมที่ให้ผู้อาวุโสทั้งหลายเข้ามามีส่วนในการพิจารณาแบบ ก็ปรับใหม่ให้ผู้ที่เข้ามาเป็นคณะกรรมการต้อง “อิน” กับเรื่องนั้นจริง ๆ อาทิ หากเป็นรถสปอร์ต ก็ต้องเป็นคนที่ชื่นชอบการขับรถแบบสปอร์ตจริง ๆ เพื่อให้ข้อมูลที่ได้กลับมานั้น “ตรงประเด็น” ไม่ใช่สิ่งที่มีรสชาติกลาง ๆ<br />
เหมือนที่เป็นมา<br />
<a href="http://4.bp.blogspot.com/-HMu3HJ6w5oA/T-dUt1NrKFI/AAAAAAAABmU/8QJ3SWS3EF0/s1600/2.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="300" src="http://4.bp.blogspot.com/-HMu3HJ6w5oA/T-dUt1NrKFI/AAAAAAAABmU/8QJ3SWS3EF0/s400/2.jpg" width="400" /></a><br />
ผลลัพธ์? สิ่งล่าสุดที่เห็นได้จากการปรับโครงสร้างองค์กรนี้ก็คือรถต้นแบบ “คาร์เม็ท” (น่าจะพ้องกับเสียง คาร์เมท ที่แปลได้ว่ารถ-เพื่อน) รถต้นแบบที่มีแนวคิดน่าสนใจในการเป็นรถที่ “ง่าย ๆ” แต่สนุกสนานสำหรับการสร้างความสัมพันธ์แบบพ่อแม่ลูกของครอบครัวขนาดเล็ก แต่ความเก๋ก็คือการที่เลือกเปิดตัวได้แปลก เพราะไม่ได้เปิดตัวในงานแสดงรถยนต์ แต่กลับเปิดตัวในงานแสดง “ของเล่น” โตเกียว ทอย โชว์! ด้วยแนวคิดของรถคันนี้ก็คือรถยนต์แบบ “ง่าย ๆ”<br />
<br />
ที่สมาชิกในครอบครัวสามารถเล่นได้ด้วยกัน สามารถถอดชิ้นส่วนต่าง ๆ ของรถและประกอบได้ใหม่ให้เหมาะสมกับกิจกรรม ทั้งแบบแนวเก๋ ๆ<br />
<br />
อย่างคาร์เม็ท โซร่า หรือแนวลุย ๆ ของคาร์เม็ท ไดชิ โดยสไตล์การออกแบบนั้นก็ได้แรงบันดาลใจมาจากยุคทศวรรษ 1950-1960 ยุคสมัยที่รถยนต์ยังเป็นสิ่งที่ไม่สลับซับซ้อน เรายังสามารถดูแลและซ่อมบำรุงรถได้ด้วยตัวเอง<br />
<br />
แต่อีกจุดหนึ่งที่เป็นความเด่นของรถคันนี้ก็คือการเป็นรถ 3 ที่นั่ง ที่คนขับอยู่ในตำแหน่งกลาง แต่สามารถควบคุมได้จากที่นั่งหลังได้ เพราะรถคันนี้ถูกออกแบบให้สามารถใช้สอนให้เด็กหัดขับรถได้อีกด้วย!<br />
<br />
เรียกได้ว่าแปลกใหม่และซุกซนกันตั้งแต่ตัวผลิตภัณฑ์ สถานที่เปิดตัว ไปจนถึงผู้บริหารเลยก็ว่าได้ จนทำให้อยากจะรอดูจริง ๆว่าต่อไปเราจะได้เห็นอะไรสนุก ๆ จากค่าย<br />
โตโยต้าอีกบ้างหนอ.<br />
<br />
ภัทรกิติ์ โกมลกิติ<br />
ที่มา เดลินิวส์<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<center><br />
<script type="text/javascript">
<!--
google_ad_client = "ca-pub-8193718851842932";
google_ad_host = "pub-1556223355139109";
/* tv/10/54 */
google_ad_slot = "3288802929";
google_ad_width = 336;
google_ad_height = 280;
//-->
</script><br />
<script src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type="text/javascript">
</script><br />
</center>newtoyotahttp://www.blogger.com/profile/13151539341201504178noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-9018618897111238733.post-90835024678562697422012-06-15T02:47:00.001-07:002012-06-15T02:47:54.236-07:00“โตโยต้า พริอุส 2012 ใหม่” เติมหรู-รักษ์โลกยิ่งขึ้น<a href="http://3.bp.blogspot.com/-K8VdknfMn9M/T9sDvRq4ycI/AAAAAAAABlI/x9_ed9i8pjQ/s1600/1.JPEG" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="267" src="http://3.bp.blogspot.com/-K8VdknfMn9M/T9sDvRq4ycI/AAAAAAAABlI/x9_ed9i8pjQ/s400/1.JPEG" width="400" /></a><br />
“โตโยต้า พริอุส 2012 ใหม่” เติมหรู-รักษ์โลกยิ่งขึ้น<br />
ต้องบอกว่า... ค่ายโตโยต้าจัดหนักรถไฮบริดจริงๆ เพราะมีการเปิดตัวโฉมใหม่ไล่ๆ กัน ไม่ว่าจะเป็นโตโยต้า คัมรี, พริอุส และรถนำเข้าโตโยต้า พริอุส ซี รวมถึงแบรนด์ในกลุ่มอย่างเลกซัส ซึ่งล่าสุดเพิ่งเปิดตัวรุ่นอาร์เอ็กซ์ใหม่ออกมา แต่ครั้งนี้ขอพาไปสัมผัสกับ “โตโยต้า พริอุส ใหม่” ต้นฉบับสร้างชื่อรถไฮบริดของโตโยต้า ว่าได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง?<br />
<a name='more'></a><br />
โตโยต้า พริอุส ใหม่ สิ่งแรกที่มองเห็นความเปลี่ยนแปลงได้ทันที คงต้องเป็นกันชนหน้าดีไซน์ใหม่ พร้อมกับไฟเลี้ยวด้านหน้าและไฟตัดหมอกทรงใหม่ ซึ่งโดยส่วนตัวชอบเวอร์ชั่นใหม่นี้มากกว่ารุ่นที่แล้ว เพราะนอกจากจะโฉบเฉี่ยวขึ้น ยังดูดุดันกว่าเดิม แต่กลมกลืนกับไฟหน้า LED ทรงเดิม เช่นเดียวกับไฟท้าย LED กรอบเดิม แต่เปลี่ยนลวดลายภายในใหม่ และเป็นธรรมดาของรุ่นไมเนอร์เชนจ์ หรือเวอร์ชั่นประจำปี แทบจะทุกยี่ห้อทุกรุ่น ที่จะต้องเปลี่ยนล้ออัลลอยลายใหม่<br />
<a href="http://2.bp.blogspot.com/-AeM5wWjzUO8/T9sDvlGKbDI/AAAAAAAABlU/IkxLYVcRiNE/s1600/2.JPEG" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="250" src="http://2.bp.blogspot.com/-AeM5wWjzUO8/T9sDvlGKbDI/AAAAAAAABlU/IkxLYVcRiNE/s400/2.JPEG" width="400" /></a><br />
โดยพริอุสใหม่ได้มีการปรับเพิ่มทางเลือกใหม่ ด้วยการเพิ่มรุ่น “ท็อปออปชั่น” เข้ามา จากเดิมที่จะมีแค่รุ่นสแตนดาร์ด และรุ่นท็อป ซึ่งถือเป็นอีกไฮไลต์ของการแนะนำพริอุสใหม่ครั้งนี้ และโตโยต้าได้นำรุ่นท็อปออปชั่นนี้มาให้กับสื่อมวลชนได้ลองขับกัน... <br />
<br />
แน่นอนรุ่นท็อปออปชั่นย่อมใส่อุปกรณ์ต่างๆ มาให้แบบจัดเต็ม แต่ที่เป็นความภาคภูมิใจของโตโยต้า เห็นจะเป็นเทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อม แผงโซลาร์บนหลังคารถแบบมูนรูฟ ซึ่งจะรับพลังงานแสงอาทิตย์มาเป็นพลังงานไฟฟ้า เพื่อใช้ในการทำงานของพัดลมระบายความร้อนออกจากห้องโดยสารขณะจอดกลางแดด ช่วยลดการทำงานของระบบปรับอากาศ ทำให้ประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น<br />
<a href="http://2.bp.blogspot.com/-BMtCdenq108/T9sDv3QFZcI/AAAAAAAABlg/ugGNSJUq5gs/s1600/3.JPEG" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="400" src="http://2.bp.blogspot.com/-BMtCdenq108/T9sDv3QFZcI/AAAAAAAABlg/ugGNSJUq5gs/s400/3.JPEG" width="267" /></a><br />
“โตโยต้า พริอุส 2012 ใหม่” เติมหรู-รักษ์โลกยิ่งขึ้น<br />
<a href="http://2.bp.blogspot.com/-czREiypwucU/T9sDwIMclLI/AAAAAAAABlo/2cEBYycEkgw/s1600/4.JPEG" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="400" src="http://2.bp.blogspot.com/-czREiypwucU/T9sDwIMclLI/AAAAAAAABlo/2cEBYycEkgw/s400/4.JPEG" width="267" /></a><br />
อีกจุดเด่นของพริอุสใหม่ในรุ่นท็อปออปชั่น เป็นระบบปรับอากาศเปิด-ปิดด้วยกุญแจรีโมท ซึ่งสามารถเปิดแอร์จากภายนอกรถได้ก่อนขึ้นรถ ช่วยให้ห้องโดยสารเย็นสบาย และไม่สิ้นเปลืองน้ำมัน เพราะใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ <br />
<br />
แต่ที่ทุกรุ่นทุกเกรดของพริอุสใหม่ ล้วนพกพาความทันสมัยมา ไม่แตกต่างจากเก๋งหรูระดับท็อปคลาสของเมอร์เซเดส-เบนซ์ หรือบีเอ็มดับเบิลยู เห็นจะเป็นข้อมูลการขับขี่และระบบนำทาง นอกจากแสดงผลที่จอ MID ยังแสดงบนบานกระจกหน้าตรงคนขับ แม้จะเป็นช่วงกลางวันก็มองเห็นชัดเจน แต่หากรู้สึกรบกวนสายตาก็สามารถปิดได้<br />
<a href="http://3.bp.blogspot.com/-07JneGDw7Qk/T9sDwU_0WTI/AAAAAAAABl4/x4sHeHM-FCQ/s1600/5.JPEG" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="267" src="http://3.bp.blogspot.com/-07JneGDw7Qk/T9sDwU_0WTI/AAAAAAAABl4/x4sHeHM-FCQ/s400/5.JPEG" width="400" /></a><br />
ในการให้สื่อมวลชนได้ลองขับพริอุส ใหม่ ทางโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ได้จัดเส้นทางครอบคลุมการใช้งาน ทั้งการขับขี่ในเมืองและไฮเวย์ โดยเริ่มจากโรงแรมเรเนซอง ถนนราชดำริ-พระราม4-สุขุมวิท71-รามคำแหง-ถนนนวมินทร์ รวมระยะทาง 27 กิโลเมตร <br />
<br />
ช่วงแรกของการทดลองขับ “ASTV ผู้จัดการมอเตอริ่ง” รับบทบาทเป็นผู้โดยสารเบาะหลัง ภายในห้องโดยสารกว้างขวางทีเดียว เบาะหลังมีระยะให้ยึดแข้งขาสบายๆ ช่องว่างหัวกับเพดานเหลือพื้นที่ให้ไม่อืดอัด ขนาดเบาะนั่งและความชันกำลังพอดีนั่งสบาย โดยในรุ่นท็อปออปชั่นมากับเบาะหนังสีดำ เช่นเดียวกับรุ่นท็อปเกรด และสิ่งที่เคยถูกต่อว่าในเรื่องเบาะนั่งคนขับปรับตำแหน่งด้วยก้านมือโยก คราวนี้โตโยต้าเปลี่ยนเป็นปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง ทำให้ดูสมน้ำสมเนื้อหน่อย <br />
<br />
คอนโซลหน้าและชิ้นส่วนบางชิ้นของพริอุสใหม่ ทำจากวัสดุรีไซเคิลจากพืช จึงเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และยังสะดวกสบายกับระบบนำทาง พร้อมดีวีดีหน้าจอแบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว(รุ่นท็อป 6.1 นิ้ว) และยังเป็นมอนิเตอร์ของกล้องหลัง ทำงานร่วมกับเกียร์ถอย ขณะที่เครื่องเล่นรองรับ CD 1 แผ่น/MP3, WMA ส่งความสุนทรีผ่านลำโพง JBL 8 จุด และยังรับอุปกรณ์ภายนอกกับช่อง AUX/USB และเชื่อมต่อโทรศัพท์ผ่านบลูทูธ ซึ่งทั้งหมดควบคุมบนพวงมาลัยได้<br />
<a href="http://2.bp.blogspot.com/-eLk8Uv5T0GY/T9sDNeBzddI/AAAAAAAABk8/nuLxxNjwMP8/s1600/6.JPEG" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="300" src="http://2.bp.blogspot.com/-eLk8Uv5T0GY/T9sDNeBzddI/AAAAAAAABk8/nuLxxNjwMP8/s400/6.JPEG" width="400" /></a><br />
“โตโยต้า พริอุส 2012 ใหม่” เติมหรู-รักษ์โลกยิ่งขึ้น<br />
<a href="http://4.bp.blogspot.com/-wOpC-x9hD5I/T9sDNP5-9bI/AAAAAAAABkw/dXwM4CdNQuQ/s1600/7.JPEG" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="295" src="http://4.bp.blogspot.com/-wOpC-x9hD5I/T9sDNP5-9bI/AAAAAAAABkw/dXwM4CdNQuQ/s400/7.JPEG" width="400" /></a><br />
โตโยต้า พริอุส ใหม่ ยังมากับโหมดขับขี่ 3 แบบเช่นเดิม เป็นปุ่มให้เลือกอยู่บริเวณเหนือคันเกียร์ แยกเป็นโหมด EV หรือระบบไฟฟ้า ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้า ในการใช้ที่ความเร็วต่ำไม่เกิน 50 กม./ชม. วิ่งได้ระยะทางประมาณ 2 กม. และอีกโหมดเรียกว่า ECO ซึ่งระบบจะเลือกใช้กำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์อย่างเหมาะสม เพื่อความประหยัดสูงสุด สุดท้ายเป็นโหมดทรงพลัง หรือ PWR ที่ระบบจะผสานกำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์อย่างเต็มพิกัด เพื่อตอบสนองการขับขี่อย่างทันใจ <br />
<br />
ขุมพลังของโตโยต้า พริอุส ใหม่ ยังคงเป็นเครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร Atkinson Cycle 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว VVT-i ให้กำลัง 99 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 142 นิวตัน-เมตร โดยทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 82 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 207 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติไฟฟ้า E-CVT เมื่อผสานกำลังกันจึงรีดแรงม้าได้สูงสุด 136 ตัว<br />
<a href="http://1.bp.blogspot.com/-bCfDlQhSf3Y/T9sDM18cygI/AAAAAAAABko/pzi4a54fCsM/s1600/8.JPEG" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="267" src="http://1.bp.blogspot.com/-bCfDlQhSf3Y/T9sDM18cygI/AAAAAAAABko/pzi4a54fCsM/s400/8.JPEG" width="400" /></a><br />
ช่วงทดลองขับในเมือง ด้วยโหมด ECO พบว่าอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันบนจอ MID อยู่ที่ 5.0 ลิตร ต่อระยะทาง 100 กม. หรือเฉลี่ยอยู่ที่ 20 กม./ลิตร <br />
<br />
หลังจากนั้นใช้เส้นทางไฮเวย์มุ่งสู่พัทยา โดยได้แวะพักดื่มน้ำ-ชา-กาแฟที่จุดพักทางของมอเตอร์เวย์ และเมื่อกลับมาบนรถท่ามกลางแดดร้อนเปรี้ยง ภายในห้องโดยสารไม่ได้รู้สึกร้อนมากนัก แม้จะไม่ใช้รีโมทเปิดเครื่องปรับอากาศจากภายนอกรถ นั่นน่าจะเป็นผลมาจากระบบระบายอากาศอัตโนมัติจากพลังงานแสดงอาทิตย์ <br />
<br />
ในการขับช่วงนี้มีการสลับมาใช้โหมดพาวเวอร์ด้วย โดยขับในแบบของผู้ใช้รถทั่วไป หรือเฉลี่ยความเร็วอยู่ที่ประมาณ 120 กม./ชม. จนถึงพัทยาเมื่อดูอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยจากจอ MID อยู่ที่ 5.2 ลิตร ต่อระยะทาง 100 กม. หรืออยู่ที่ 19.23 กม./ลิตร<br />
<a href="http://4.bp.blogspot.com/-h6juCTm53ck/T9sDMVgVorI/AAAAAAAABkY/TzrmefpBIlI/s1600/9.JPEG" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="267" src="http://4.bp.blogspot.com/-h6juCTm53ck/T9sDMVgVorI/AAAAAAAABkY/TzrmefpBIlI/s400/9.JPEG" width="400" /></a><br />
เช้าของอีกวันขากลับ “ASTV ผู้จัดการมอเตอริ่ง” รับหน้าที่เป็นโชเฟอร์ตลอดการเดินทาง โดยใช้เส้นทางสุขุมวิทผ่านตลาดหนองมน ขึ้นทางด่วนชลบุรี-บางนากลับโรงแรมเรเนซองเช่นเดิม ช่วงแรกใช้โหมด ECO รู้สึกไม่ค่อยได้ดังใจเท่าไหร่ ซึ่งน่าจะเป็นผลมาจากการเลือกใช้กำลังของระบบ โดยนึกถึงความประหยัดไว้ก่อน แต่ถ้าขับสบายๆ ไม่ได้เร่งแซง หรือให้ปรู๊ดปร๊าดมากนัก นับว่าใช้ได้ไม่ถึงกับน่าเกลียด ความเร็วที่วิ่งในช่วงนี้อยู่ที่ 100-120 กม./ชม. จอแสดงอัตราสิ้นเปลืองตลอดการเดินทางแต่แรก อยู่ที่ประมาณ 5.2 ลิตร ต่อระยะทาง 100 กม.<br />
<br />
จากนั้นลองเข้าสู่โหมดใช้พลังบ้าง ระบบตอบสนองตามความต้องการทันที ความเร็วไหลลื่นดีขึ้นชัดเจน และการเร่งแซงทันใจ เกียร์ไฟฟ้าทำงานสัมพันธ์กันดี และให้ความนุ่มนวลไม่กระตุก จากการจับเวลา 0-100 กม./ชม. อยู่ที่ประมาณ 11 วินาที ใกล้เคียงกับข้อมูลของโตโยต้า 10 วินาทีเศษๆ และทำความไหลขึ้นไป 140 กม./ชม.ได้แบบเนียนๆ ก่อนจะถูกเตือนอย่าให้เกินความเร็วกฎหมายนัก จึงลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 120 กม./ชม.<br />
<br />
สิ่งที่ชอบในพริอุสอีกอย่าง เห็นจะเป็นเรื่องพวงมาลัย ซึ่งตอนแรกคิดว่าจะเบาและไว แต่พบว่าน้ำหนักกำลังดี และแม่นยำ ยิ่งสะท้อนผ่านช่วงล่างที่หนึบและเสถียร ทำให้พวงมาลัยนิ่งอยู่ภายใต้การควบคุมอย่างดี ส่วนระบบความปลอดภัยมีมาให้ครบไม่ต่างจากรถหรูทั่วไป<br />
<a href="http://3.bp.blogspot.com/-cDL1Uu-5yTE/T9sDMLBVU_I/AAAAAAAABkM/1cPydoXmvJo/s1600/10.JPEG" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="267" src="http://3.bp.blogspot.com/-cDL1Uu-5yTE/T9sDMLBVU_I/AAAAAAAABkM/1cPydoXmvJo/s400/10.JPEG" width="400" /></a><br />
เมื่อจบการทดลองขับ ปรากฏว่าอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยบนหน้าจอ 4.9 ลิตร ต่อระยะทาง 100 กิโลเมตร หรือ 20.40 กม./ลิตร โดยข้อมูลของโตโยต้าระบุว่าพริอุสใหม่ ทำอัตราสิ้นเปลืองอยู่ที่ 22 กม./ลิตร<br />
<br />
สรุป โตโยต้า พริอุส เป็นรถที่เหมาะกับการใช้งานในเมืองและวิ่งทางไกลทีเดียว ที่สำคัญยังรักษ์โลกมากยิ่งขึ้น กับเทคโนโลยีเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่ใส่เพิ่มเข้ามา แต่นั่นต้องแลกกับค่าตัวในรุ่นท็อปออปชั่น 1.369 ล้านบาท ขณะที่รุ่นท็อปมีค่าตัว 1.299 ล้านบาท และรุ่นสแตนดาร์ด 1.199 ล้านบาท<br />
ที่มา manager.co.th<br />
<br />
<br />
<br />
<center><br />
<script type="text/javascript"><!--
google_ad_client = "ca-pub-8193718851842932";
google_ad_host = "pub-1556223355139109";
/* tv/10/54 */
google_ad_slot = "3288802929";
google_ad_width = 336;
google_ad_height = 280;
//-->
</script><br />
<script type="text/javascript"
src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js">
</script><br />
</center>newtoyotahttp://www.blogger.com/profile/13151539341201504178noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-9018618897111238733.post-22449887466561072642012-06-02T00:20:00.000-07:002012-06-02T00:20:32.871-07:00toyota เล็งผลิตรถยนต์เล็กในไทย<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://2.bp.blogspot.com/-Dri-Ca27NX0/T8m97Gv-ruI/AAAAAAAABj8/bDJpfmP0U7I/s1600/01.JPEG" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img alt="toyota" border="0" height="250" src="http://2.bp.blogspot.com/-Dri-Ca27NX0/T8m97Gv-ruI/AAAAAAAABj8/bDJpfmP0U7I/s400/01.JPEG" title="โตโยต้า" width="400" /></a></div>toyotaเล็งผลิตรถยนต์เล็กในไทย<br />
บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ประกาศมีแผนเพิ่มการผลิตรถยนต์ในไทยภายในปีนี้(2555) ตามแผนของบริษัทที่ต้องการขยายการผลิตให้กับประเทศในตลาดเกิดใหม่ เทียบเท่ากับจำนวนการผลิตในประเทศญี่ปุ่น<br />
<br />
ยูกิโตชิ ฟูโนะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า โตโยต้าเตรียมผลิตรถยนต์ขนาดเล็กรุ่นใหม่จำนวน 8 รุ่น <br />
<a name='more'></a>ซึ่งมีราคาเริ่มต้นที่ 12,500 เหรียญสหรัฐ หรือ ประมาณ 380,000 บาท เพื่อจำหน่ายในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ รวมถึงประเทศไทยด้วย ภายในอีก 3 ปีข้างหน้านี้ และตั้งเป้าจำหน่ายปีละ 1 ล้านคันขึ้นไป<br />
<br />
ค่ายรถยนต์รายใหญ่ที่สุดอันดับ 1 ของญี่ปุ่น ระบุว่า รถยนต์ขนาดเล็กทั้ง 8 รุ่นนี้จะผลิตในโรงงานที่ประเทศไทย อินโดนีเซีย อินเดีย และบราซิล โดยปัจจุบันชิ้นส่วนยานยนต์ กว่า 81% ของรถโตโยต้า ล้วนเป็นชิ้นส่วนที่ผลิตในประเทศไทย ขณะที่อันดับ 2 เป็นชิ้นส่วนจากโรงงานในประเทศอินโดนีเซีย ขณะที่บริษัทตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนการใช้ชิ้นส่วนรถยนต์ที่ผลิตในตลาดเกิดใหม่ให้ได้สมบูรณ์แบบ ภายในอีก 2-3 ปีข้างหน้า เพื่อเป็นการลดต้นทุนของบริษัท<br />
<br />
โตโยต้า เปิดเผยว่า ตลาดรถยนต์เกิดใหม่เป็นกลุ่มที่น่าจับตามอง เพราะว่ามีอัตราการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งในตอนนี้มีข่าวยืนยันแล้วว่าโฟล์คสวาเกนกำลังจะเข้ามาสร้างยอดขายในภูมิภาคนี้ด้วยรถยนต์ราคาประหยัด ส่วนกำลังการผลิตรถยนต์ในปลุ่มประเทศเกิดใหม่ของโตโยต้านั้น จากเดิมในปี 2010 อยู่ที่ 2.38 ล้านคัน เมื่อถึงปี 2013 ตัวเลขจะเพิ่มขึ้นเป็น 3.1 ล้านคัน<br />
<br />
ทั้งนี้ โตโยต้าได้จำหน่ายรถยนต์ขนาดเล็กรุ่นเอทิออสในอินเดีย เมื่อเดือนธันวาคม 2010 ซึ่งแม้จะมีราคาสูงกว่ารถยนต์รุ่นนาโนจากค่ายทาทา มอเตอร์ส กว่า 3 เท่าตัว แต่เอทิออสในราคาเริ่มต้น 1 หมื่นเหรียญสหรัฐ หรือ ประมาณ 315,000 บาท มียอดขายแล้วกว่า 1 แสนคัน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้โตโยต้าเตรียมขยายตลาดในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ และตั้งเป้าจะจำหน่ายให้ได้เกิน 50% ของยอดขายทั่วโลก จากเดิมในปี 2011ซึ่งขายได้ 45%<br />
ที่มา manager.co.th<br />
<br />
<br />
<br />
<center><br />
<script type="text/javascript"><!--
google_ad_client = "ca-pub-8193718851842932";
google_ad_host = "pub-1556223355139109";
/* tv/10/54 */
google_ad_slot = "3288802929";
google_ad_width = 336;
google_ad_height = 280;
//-->
</script><br />
<script type="text/javascript"
src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js">
</script><br />
</center>newtoyotahttp://www.blogger.com/profile/13151539341201504178noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-9018618897111238733.post-89309406446882642532012-05-13T21:38:00.000-07:002012-05-13T21:38:53.199-07:00บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ฯ ปลื้มโปรเจกต์ IMV ขายครบ 5 ล้านคันทั่วโลก<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://2.bp.blogspot.com/-d_vPObpN_6c/T7CLVfde1xI/AAAAAAAABjg/k4qAx-UvLxY/s1600/1.JPEG" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="224" src="http://2.bp.blogspot.com/-d_vPObpN_6c/T7CLVfde1xI/AAAAAAAABjg/k4qAx-UvLxY/s400/1.JPEG" width="400" /></a></div>บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์เปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น (TMC) ประกาศความสำเร็จยอดขายรถยนต์ในโครงการ IMV ทั่วโลก ครบ 5 ล้านคัน เมื่อเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา<br />
<a name='more'></a><br />
โครงการ IMV (Innovative International Multi-purpose Vehicle) เริ่มขึ้นในปี 2545 ภายใต้วัตถุประสงค์ที่จะผลิตรถยนต์ที่มีคุณภาพสูง สามารถตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภค รถยนต์ในโครงการดังกล่าว ประกอบด้วย รถกระบะ ไฮลักซ์ วีโก้ รถมินิแวน อินโนวา และรถยนต์อเนกประสงค์ ฟอร์จูนเนอร์<br />
<br />
ปัจจุบันประเทศที่ผลิตรถในโครงการ IMV มีทั้งสิ้น 11 ประเทศ ผลิตรถยนต์และส่งออกชิ้นส่วนรถยนต์โครงการ IMV ไปกว่า 140 ประเทศทั่วโลก ทั้งในยุโรป เอเชีย โอเชียเนีย แอฟริกา อเมริกากลาง อเมริกาใต้ และตะวันออกกลาง จนประสบความสำเร็จสามารถสร้างยอดขายหลังจากการเปิดตัวได้ถึง 1 ล้านคัน ในปี 2549 และเพิ่มความสำเร็จด้วยยอดขายครบ 5 ล้านคัน ในเดือนมีนาคม พ.ศ 2555 ที่ผ่านมา<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://4.bp.blogspot.com/-cEC1n2Ui3EA/T7CLVgerIoI/AAAAAAAABjs/FmW780-eqbI/s1600/2.JPEG" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="295" src="http://4.bp.blogspot.com/-cEC1n2Ui3EA/T7CLVgerIoI/AAAAAAAABjs/FmW780-eqbI/s400/2.JPEG" width="400" /></a></div>บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด 1 ใน 4 ฐานการผลิตใหญ่ของโตโยต้าทั่วโลก ได้เริ่มโครงการ IMV ในเดือนกันยายน ปี 2545 ด้วยมูลค่าการลงทุนทั้งสิ้น 30,000 ล้านบาท พร้อมแนะนำรถยนต์จากโครงการ IMV เข้าสู่ตลาดในประเทศ เมื่อปี 2547 ภายใต้ชื่อ “ไฮลักซ์ วีโก้” และ “ฟอร์จูนเนอร์” ซึ่งได้รับการตอบรับจากลูกค้าอย่างดีเยี่ยม สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับตลาดรถยนต์ มียอดการจำหน่ายสูงสุดในประเทศไทยถึง 6 ปี ซ้อน นับจากปี 2548 จนถึงปี 2554<br />
<br />
ปัจจุบัน ไฮลักซ์ วีโก้ มียอดการจำหน่ายภายในประเทศสูงถึง 1,025,458 คัน และฟอร์จูนเนอร์ถึง 129,939 คัน ที่สำคัญยังได้รับรางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมจากสถาบันต่างๆ ที่สามารถยืนยันคุณภาพของรถยนต์ ไฮลักซ์ วีโก้ และฟอร์จูนเนอร์ ได้เป็นอย่างดี<br />
ที่มา manager.co.th<br />
<br />
<br />
<center><br />
<script type="text/javascript"><!--
google_ad_client = "ca-pub-8193718851842932";
google_ad_host = "pub-1556223355139109";
/* tv/10/54 */
google_ad_slot = "3288802929";
google_ad_width = 336;
google_ad_height = 280;
//-->
</script><br />
<script type="text/javascript"
src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js">
</script><br />
</center>newtoyotahttp://www.blogger.com/profile/13151539341201504178noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-9018618897111238733.post-55352816427987680752012-04-02T22:31:00.000-07:002012-04-02T22:31:21.024-07:00“โตโยต้า คัมรี ใหม่ 2012” นั่งสบาย-ขับดีแต่มี “กั๊ก”<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://4.bp.blogspot.com/-4AkZB3Kd750/T3qJR_jMs9I/AAAAAAAABf4/61YpnV9i6LQ/s1600/1.JPEG" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="284" src="http://4.bp.blogspot.com/-4AkZB3Kd750/T3qJR_jMs9I/AAAAAAAABf4/61YpnV9i6LQ/s400/1.JPEG" width="400" /></a></div>“โตโยต้า คัมรี ใหม่ 2012” นั่งสบาย-ขับดีแต่มี “กั๊ก” การพัฒนาของ“โตโยต้า คัมรี”นับว่าสร้างความปั่นป่วนให้พวกแบรนด์หรูจากยุโรปพอสมควร ยิ่งในระยะหลังเสริมเทคโนโลยีการขับเคลื่อนอันทันสมัย พร้อมความสะดวกสบายและมาตรฐานความปลอดภัย แถมราคาขายยังถูกกว่า ก็ส่งผลให้ผู้บริโภคจำนวนไม่น้อยเบี่ยงใจ หันมาคบรถยนต์นั่งขนาดกลางรุ่นนี้มากขึ้นเรื่อยๆ<br />
<a name='more'></a><br />
ยิ่งคัมรีโฉมเก่า เจนเนอเรชันที่ 4 (ของเมืองไทย) เสริมรุ่นไฮบริดเข้ามาเป็นทางเลือก โดยโตโยต้าปูพรมวางแผน ประกอบในประเทศ และจัดการเรื่องสิทธิพิเศษต่างๆ พร้อมเสียภาษีสรรพสามิตเพียง 10% (ถือว่าเป็นอัตราที่น้อยที่สุดในบรรดารถยนต์นั่ง) ยิ่งทำราคาได้น่าจูงใจ จนทำให้ค่ายยุโรปที่มีเครื่องยนต์ดีเซลเป็นทีเด็ด มึนไปตามๆกัน<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://2.bp.blogspot.com/-02bjz9QDKwo/T3qJSHPx1MI/AAAAAAAABgA/fuDS1poQvCI/s1600/2.JPEG" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="268" src="http://2.bp.blogspot.com/-02bjz9QDKwo/T3qJSHPx1MI/AAAAAAAABgA/fuDS1poQvCI/s400/2.JPEG" width="400" /></a></div>ถึงวันนี้โตโยต้ายังรุกตลาดไฮบริดต่อเนื่อง อันสอดคล้องกับนโยบายของบริษัทแม่ประเทศญี่ปุ่น ชัดๆก็มีทั้ง “คัมรี” และ “พริอุส” ที่ตั้งหน้าตั้งตาผลิตที่โรงงานเกตเวย์ จังหวัดฉะเชิงเทรา แถมมี “พริอุส ซี” ที่นำเข้ามาเสริมทัพอีกรุ่น และเชื่อว่าในอนาคตจะมีตามมาอีกแน่นอน (ถ้าคุยเรื่องโครงสร้างภาษีกับรัฐบาลรู้เรื่อง?)<br />
<br />
เช่นเดียวกับ“คัมรี โฉมใหม่” ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยโตโยต้าปรับไลน์อัพการขายเหลือเพียง 5 รุ่นย่อย ในจำนวนนี้ 3 รุ่นเป็นไฮบริด และ2 รุ่นที่เหลือเป็นเครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตรใหม่ และ 2.0 ลิตรบล็อกเดิม<br />
<br />
ดังนั้นคนที่ยังก้าวไปไม่ถึงไฮบริด จะเหลือทางเลือกอยู่เพียง 2 รุ่นนี่ละครับ ทั้งนี้ในรุ่น 2.0 เห็นสเปกแล้วเศร้าใจเพราะยังใช้เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ประกบเกียร์อัตโนมัติแบบ 4 สปีด (แต่ผ่านมาตรฐานไอเสียยูโร 4 และรองรับแก๊สโซฮอล์ E20) ผิดกับรุ่น2.4ที่เดิมเป็นขุมพลังขนาด2,362 ซีซี ประกบเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด แต่โฉมใหม่เปลี่ยนมาใช้เครื่องยนต์ 2AR-FE DOHC 16 วาล์ว Dual VVT-i ขนาด2,494 ซีซี ให้กำลังสูงสุด181 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 231 นิวตัน-เมตรที่ 4,100 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ซึ่งขายในรุ่นย่อยเดียวคือ2.5Gราคา 1.499 ล้านบาท<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://1.bp.blogspot.com/-OGcAx1ScHOk/T3qJSb8349I/AAAAAAAABgQ/hXWIF4Fa-Yc/s1600/3.JPEG" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="268" src="http://1.bp.blogspot.com/-OGcAx1ScHOk/T3qJSb8349I/AAAAAAAABgQ/hXWIF4Fa-Yc/s400/3.JPEG" width="400" /></a></div>มีโอกาสได้ลองขับ โตโยต้า คัมรี 2.5G โดยเริ่มวิ่งออกจากใจกลางเมืองการจราจรหนาแน่น แล้ววนขึ้นทางด่วนไปลงพระรามสอง ยาวต่อเนื่องถึงหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์<br />
<br />
...ขับกันเส้นทางเดิมๆสถานการณ์คุ้นเคย บนระยะทางกว่า 200 กิโลเมตร คัมรี 2.5G สร้างความประทับใจให้ผู้เขียนในหลายๆจุด หรือจะกล่าวง่ายๆคือสมรรถนะการขับขี่โดยรวมดีกว่า คัมรี่ 2.4 โฉมเก่า<br />
<br />
แน่นอนว่าเครื่องยนต์ใหม่ เรี่ยวแรงมากขึ้นการตอบสนองดีกว่าเดิม หรือดูจากอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.ทำได้ 9.7 วินาที ขณะที่รุ่นเก่า 11 วินาที<br />
<br />
พลังมาตามแรงกดของเท้าขวาอย่างต่อเนื่องและนุ่มนวล ยิ่งเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดชุดนี้ช่วยได้มาก โดยถ่ายกำลังลงสู่ล้อคู่หน้าอย่างฉับไวและไหลลื่น โดยอยากจะเร่งแซงย่านความเร็วต่ำ หรือบี้บดส่งความเร็วขึ้นไปถึง 120-140 กม./ชม. คัมรี 2.5G มีพลังให้เหลือเฟือ ใช้วิ่งทางต่างจังหวัดขับสนุกจริงๆครับ<br />
<br />
เมื่อเครื่องยนต์และเกียร์ทำงานอย่างขยันขันแข็ง บวกกับช่วงล่างที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ โดยด้านหน้าแมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง หลังแบบดูอัลลิงค์สตรัท พร้อมล้ออัลลัอยขนาด 17 นิ้ว ประกบยางขนาด 215/55 R17 ส่วนตัวผู้เขียนรู้สึกว่าหนึบหนับกว่ารุ่นเดิม ขณะเดียวกันการเก็บเสียงภายในห้องโดยสารค่อนข้างดี แถมโตโยต้ายังเพิ่มแผ่นพลาสติกจัดการอากาศใต้ท้องรถ ทั้งหลายทั้งปวงจึงส่งผลให้การขับขี่ความเร็วสูง คัมรี 2.5G นิ่งและมีเสถียรภาพการทรงตัวยอดเยี่ยม <br />
<br />
แม้พวงมาลัยแร็คแอนด์พิเนียนผ่อนแรงด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าจะเบาตามสไตล์รถยนต์รุ่นใหม่ แต่ในภาพรวมของการขับความเร็วสูง (เกิน 140 กม./ชม)ถือว่าไม่เป็นรองคู่แข่งระดับเดียวกัน เรียกว่าจังหวะแกว่ง หรืออาการยวบยาบสัมผัสได้น้อยมาก<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://1.bp.blogspot.com/-WHgBmCWDcys/T3qJSvC-iXI/AAAAAAAABgc/Qe9Q2ACthrA/s1600/4.JPEG" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="400" src="http://1.bp.blogspot.com/-WHgBmCWDcys/T3qJSvC-iXI/AAAAAAAABgc/Qe9Q2ACthrA/s400/4.JPEG" width="268" /></a></div>อย่างไรก็ตาม คัมรี 2.5 G ยึดแพลตฟอร์มเดิมในการพัฒนา หรือเห็นมิติความยาวและระยะฐานล้อก็เท่ากับรุ่นเดิมคือ 4,825 มม.และ2,775 มม. ตามลำดับ แต่กระนั้นวิศวกรโตโยต้าบอกว่า เลจรูม (Leg room)พื้นที่ผู้โดยสารด้านหลังยาวขึ้น 50มม. แถมเฮดรูม (Head room)ก็เพิ่มขึ้นจากโครงสร้างตัวถังใหม่ สังเกตได้จากระดับความชันของเสา-ซีพิลลาร์ลากต่อขึ้นไปถึงบานหลังคาด้านท้ายที่ยกสูงขึ้น<br />
<br />
การเข้าไปลองนั่งจริงๆในตำแหน่งผู้โดยสารด้านหลัง ก็กว้างขวางนั่งสบาย แถมออกแบบเบาะรองนั่งยาวรับช่วงก้นและน่องขา ขณะที่พนักพิงหลังนุ่มพร้อมองศาเอนกำลังดี ที่สำคัญยังมีความเย็นส่วนตัวกับแอร์สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง <br />
<br />
อย่างไรก็ตามแม้รวมๆจะนั่งสบายด้วยการออกแบบโครงสร้างและจัดวางพื้นที่อย่างลงตัว แต่กระนั้นคนนั่งหลังอาจจะรู้สึกถึงอาการสะเทือนจากช่วงล่าง มากกว่าการนั่งด้านหน้าอยู่นิดๆ<br />
<br />
ด้านระบบความปลอดภัย มีเบรกป้องกันล้อล็อก ABS ระบบกระจายแรงเบรก EBD ระบบเสริมแรงเบรก BA ที่ช่วยเพิ่มแรงดันน้ำมันเบรกอัตโนมัติในภาวะฉุกเฉิน พร้อมถุงลมนิรภัยคู่หน้า (คนขับ-ผู้โดยสาร) โดยคัมรี 2.5G ใหม่ ตัดมาตรฐานเดิมอย่างระบบควบคุมการทรงตัว (VSC) และถุงลมนิรภัยด้านข้างออกไป<br />
<br />
ปิดท้ายด้วยอัตราบริโภคน้ำมัน ที่โตโยต้าเคลมว่าประหยัดกว่ารุ่น 2.4 เดิมถึง 24% และแจ้งตัวเลขเฉลี่ยรุ่นใหม่ไว้ 12.7 กม./ลิตร ส่วนการขับจริงของผู้เขียนตลอดระยะทางมีทั้งเร่งแรง แซงตะบันอย่างที่กล่าวมาข้างต้น หรือขับนิ่งๆอยู่แถว 120-140 กม./ชม.เป็นหลัก ยังเห็นตัวเลขระดับ 9.5 กม./ลิตร<br />
<br />
รวบรัดตัดความ...หน้าตาสดใหม่มาพร้อมระบบขับเคลื่อนที่พัฒนาขึ้น โดยพละกำลังมาแบบ “สมูท” นุ่มนวลต่อเนื่อง ด้านการทรงตัวและการเก็บเสียงในห้องโดยสารนิ่งเนียนกว่าเดิม แต่เมื่อดูการแบ่งรุ่นย่อยและการให้ออปชันแบบ “กั๊ก กั๊ก” เสมือนโตโยต้าอยากให้เซลส์ที่โชว์รูม 332 แห่ง บอกลูกค้าว่า เพิ่มเงินอีกหน่อย (150,000 บาท) ได้ “คัมรีไฮบริด”เลยนะพี่!?<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://2.bp.blogspot.com/-TlfYs0RYgP0/T3qJS3l2hAI/AAAAAAAABgo/6FSvlxDX8HI/s1600/5.JPEG" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="400" src="http://2.bp.blogspot.com/-TlfYs0RYgP0/T3qJS3l2hAI/AAAAAAAABgo/6FSvlxDX8HI/s400/5.JPEG" width="268" /></a></div>ราคา โตโยต้า คัมรี ใหม่ 2012 แต่ละรุ่น<br />
โตโยต้า คัมรี ใหม่ 2012 รุ่น Camry 2.0G ราคา/บาท 1,299,000<br />
โตโยต้า คัมรี ใหม่ 2012 รุ่น Camry 2.5G ราคา/บาท 1,499,000<br />
โตโยต้า คัมรี ใหม่ 2012 รุ่น Camry Hybrid CD2.5 ราคา/บาท 1,649,000<br />
โตโยต้า คัมรี ใหม่ 2012 รุ่น Camry Hybrid 2.5 DVD ราคา/บาท 1,699,000<br />
โตโยต้า คัมรี ใหม่ 2012 รุ่น Camry Hybrid 2.5 Navigator ราคา/บาท 1,869,000<br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://1.bp.blogspot.com/-CtouAi2Dav8/T3qJgMTw4xI/AAAAAAAABg0/FGoBN2vUOcI/s1600/6.JPEG" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="400" src="http://1.bp.blogspot.com/-CtouAi2Dav8/T3qJgMTw4xI/AAAAAAAABg0/FGoBN2vUOcI/s400/6.JPEG" width="268" /></a></div>โตโยต้า คัมรี ใหม่ 2012 - แอร์ที่นั่งหลัง และที่ปรับเบาะนั้งแบบ Auto<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://4.bp.blogspot.com/-fnpbuSropgw/T3qJgClbDMI/AAAAAAAABg8/jidW7Y3nFKM/s1600/7.JPEG" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="268" src="http://4.bp.blogspot.com/-fnpbuSropgw/T3qJgClbDMI/AAAAAAAABg8/jidW7Y3nFKM/s400/7.JPEG" width="400" /></a></div>โตโยต้า คัมรี ใหม่ 2012 <br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://2.bp.blogspot.com/-YxPdySnUYiQ/T3qJgYdgZ2I/AAAAAAAABhM/v71fJ9YHzVQ/s1600/8.JPEG" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="268" src="http://2.bp.blogspot.com/-YxPdySnUYiQ/T3qJgYdgZ2I/AAAAAAAABhM/v71fJ9YHzVQ/s400/8.JPEG" width="400" /></a></div>โตโยต้า คัมรี ใหม่ 2012 <br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://3.bp.blogspot.com/-xHCIFUGstw4/T3qJgv_cYUI/AAAAAAAABhY/CthKDpVK10o/s1600/9.JPEG" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="268" src="http://3.bp.blogspot.com/-xHCIFUGstw4/T3qJgv_cYUI/AAAAAAAABhY/CthKDpVK10o/s400/9.JPEG" width="400" /></a></div>โตโยต้า คัมรี ใหม่ 2012 <br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://4.bp.blogspot.com/-TFNdjdSXDr8/T3qJg6oQdQI/AAAAAAAABhg/BYwvvIP6HJs/s1600/10.JPEG" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="400" src="http://4.bp.blogspot.com/-TFNdjdSXDr8/T3qJg6oQdQI/AAAAAAAABhg/BYwvvIP6HJs/s400/10.JPEG" width="268" /></a></div>โตโยต้า คัมรี ใหม่ 2012 <br />
ที่มา http://www.manager.co.th<br />
<br />
<br />
<center><br />
<script type="text/javascript"><!--
google_ad_client = "ca-pub-8193718851842932";
google_ad_host = "pub-1556223355139109";
/* tv/10/54 */
google_ad_slot = "3288802929";
google_ad_width = 336;
google_ad_height = 280;
//-->
</script><br />
<script type="text/javascript"
src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js">
</script><br />
</center>newtoyotahttp://www.blogger.com/profile/13151539341201504178noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-9018618897111238733.post-20243785729256102392012-04-02T04:49:00.000-07:002012-04-02T04:49:17.970-07:00โตโยต้าเตรียมส่ง “อะวาลอน” ใหม่ กู้วิกฤตยอดขาย<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://3.bp.blogspot.com/-qw7i_OGndhk/T3mR3WDaNJI/AAAAAAAABfs/C4-jFQ1Fjjk/s1600/1.JPEG" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="271" src="http://3.bp.blogspot.com/-qw7i_OGndhk/T3mR3WDaNJI/AAAAAAAABfs/C4-jFQ1Fjjk/s400/1.JPEG" width="400" /></a></div>โตโยต้าเตรียมส่ง “อะวาลอน” ใหม่ กู้วิกฤตยอดขาย<br />
ข่าวต่างประเทศ - ในงานนิวยอร์ก มอเตอร์โชว์ 2012 ที่จะเริ่มในเดือนเมษายนนี้ โตโยต้าเตรียมเปิดตัวรถยนต์ซีดานรุ่นใหม่ โดยคาดว่าน่าจะเป็นรุ่นเปลี่ยนโฉมของอะวาลอน ซึ่งยังไม่มีการคอนเฟิร์มว่าสุดท้ายแล้วจะมีการเปลี่ยนชื่อรุ่นในการทำตลาดหรือไม่<br />
<a name='more'></a><br />
จากภาพที่มีการเปิดเผยออกมา ทางโตโยต้ายืนยันว่าตัวแทนของอะวาลอนจะมาพร้อมกับรูปทรงที่สวยสปอร์ตและเน้นความเร้าใจ พร้อมกับวางเป้าหมายในการประชันกับโฟล์คสวาเกน CC หรือพาสสาท CC โดยสไตล์และแนวทางการออกแบบมาในชื่อที่เรียกว่า “elegant yet athletic.”<br />
<br />
แหล่งข่าวภายในของโตโยต้ายืนยันว่า รถยนต์ใหม่รุ่นนี้จะเป็น 1 ใน 19 รถยนต์ใหม่ทั้งในแบบโมเดลเชนจ์ และไมเนอร์เชนจ์ที่ทางโตโยต้าจะเปิดตัวออกสู่ตลาดผ่านทางแบรนด์ของตัวเองและแบรนด์ในเครืออย่างเล็กซัส และไซออนในปีนี้ โดยรถยนต์ทั้ง 19 รุ่นจะมีหน้าที่หลักในการช่วยผลักดันยอดขายของโตโยต้าในสหรัฐอเมริกา ซึ่งประสบปัญหายอดขายลดลงตลอดช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เพราะเจอทั้งปัญหาการเรียกรถยนต์กลับคืนมาซ่อมในปี 2010 และเหตุการณ์สึนามิในปี 2011<br />
<br />
อะวาลอนเป็นรถยนต์ที่มีระดับทางการตลาดสูงกว่าคัมรี่ และเน้นการทำตลาดในสหรัฐอเมริกา และออสเตรเลีย เปิดตัวรุ่นแรกในปี 1995 เพื่อแทนที่รุ่นเครสซิด้า แต่ในรุ่นที่ผ่านมาไม่ค่อยประสบความสำเร็จในด้านยอดขาย จึงทำให้มีแนวโน้มว่าอาจจะถูกถอดออกจากตลาด<br />
<br />
ในปีที่แล้ว อะวาลอนมียอดขายในสหรัฐอเมริกาเพียงแค่ 28,935 คัน ส่วนปีที่มียอดขายสูงสุดคือ ปี 2000 ด้วยตัวเลข 104,078 คัน<br />
ที่มา www.manager.co.th<br />
<br />
<br />
<center><br />
<script type="text/javascript"><!--
google_ad_client = "ca-pub-8193718851842932";
google_ad_host = "pub-1556223355139109";
/* tv/10/54 */
google_ad_slot = "3288802929";
google_ad_width = 336;
google_ad_height = 280;
//-->
</script><br />
<script type="text/javascript"
src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js">
</script><br />
</center>newtoyotahttp://www.blogger.com/profile/13151539341201504178noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-9018618897111238733.post-32347390714790999082012-04-01T08:10:00.000-07:002012-04-01T08:10:47.107-07:00New Toyota Prius 2012 ใหม่โตโยต้า“พริอุส 2012”ตอบโจทย์ความล้ำสมัย ด้วยหัวใจรักษ์โลกยิ่งขึ้น...<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://2.bp.blogspot.com/-A0yomi2YfKM/T3hvRlGZUiI/AAAAAAAABfg/tYf3DSdJTIo/s1600/1.JPEG" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="271" src="http://2.bp.blogspot.com/-A0yomi2YfKM/T3hvRlGZUiI/AAAAAAAABfg/tYf3DSdJTIo/s400/1.JPEG" width="400" /></a></div>New Toyota Prius 2012 ใหม่โตโยต้า“พริอุส 2012”ตอบโจทย์ความล้ำสมัย ด้วยหัวใจรักษ์โลกยิ่งขึ้น...<br />
NEW TOYOTA PRIUS โตโยต้า รุกตลาดยานยนต์ล้ำอนาคตส่ง โตโยต้า พริอุส ใหม่สู่ตลาดรถยนต์ไทยแล้ววันนี้...<br />
บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดจากโตโยต้า New Toyota PRIUS แล้ววันนี้...<br />
ด้วยยอดขายทั่วโลกมากกว่า 2,500,000 คัน พริอุส ใหม่ <br />
<a name='more'></a>ได้เติมความเป็นรถยนต์ล้ำยุคในหลากหลายสิ่ง อาทิ ระบบระบายอากาศอัตโนมัติด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Ventilation System) ด้วยแผงโซลาร์เซลส์บนหลังคารถ ที่เปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานไฟฟ้า เพื่อใช้ในการทำงานของพัดลมสำหรับระบายความร้อนออกจากห้องโดยสารขณะจอดกลางแดด เพื่อลดอุณหภูมิห้องโดยสาร ช่วยลดการทำงานของระบบปรับอากาศ ทำให้ประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นครั้งแรกที่โตโยต้า นำมาใช้กับรถยนต์ พร้อมระบบปรับอากาศ เปิด-ปิดด้วยกุญแจรีโมท (Remote Air-Conditioning System) สามารถควบคุมการทำงานของระบบปรับอากาศจากภายนอกห้องโดยสาร เพื่อเปิดแอร์ก่อนขึ้นรถ ช่วยให้ห้องโดยสารเย็นสบาย โดยไม่สิ้นเปลืองน้ำมันเพราะใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรีไฮบริด ล้ำสมัยด้วย ระบบนำทางบนกระจกหน้า (Head-up Display) ที่จอแสดงผลอัจฉริยะบนกระจกหน้า สามารถเลือกแสดงผลได้หลากหลาย เช่นแสดงทิศทางการเดินทางตามข้อมูลจากระบบนำทาง (Navigator) แสดงมาตรวัดความเร็ว หรือแสดงผลการขับขี่ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม<br />
ภายนอกดีไซน์ใหม่ ด้วยกระจกมองข้างปรับและพับเก็บด้วยไฟ กันชนหน้าไฟเลี้ยวด้านหน้าและไฟตัดหมอก ออกแบบใหม่ทันสมัยและปรับรูปลักษณ์ให้เท่ห์ยิ่งขึ้น ที่สำคัญ พริอุส ใหม่ ให้ไฟหน้าแบบ LED พร้อมระบบควบคุมการเปิด-ปิด อัตโนมัติ ระบบปรับสูง-ต่ำอัตโนมัติ พร้อมหัวฉีดล้างทำความสะอาดแบบครบครัน<br />
เครื่องยนต์แบบ 2ZR – FXE / 4 สูบแถวเรียง DOHC 16 วาล์ว VVT-I 73 กิโลวัตต์ (99 แรงม้า) ที่ 5,200 รอบต่อนาที 142 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที มอเตอร์ไฟฟ้า ใช้แบบมอเตอร์ซิงโครนัสแม่เหล็กถาวร แรงดันไฟ 650 โวลต์ 60 กิโลวัตต์ (82 แรงม้า) 207 นิวตัน-เมตร ราคาค่าตัวมี 3 รุ่นคือ 1.8 Top Option ราคา 1,369,000 บาท / 1.8 Top ราคา 1,299,00 บาท / 1.8 Standard ราคา 1,199,000 บาท<br />
พบกับ โตโยต้า พริอุส ใหม่ ได้ในงานบางกอกอินเตอร์เนชั่นแนลมอเตอร์โชว์ 2012 ณ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 28 มีนาคม ถึง 8 เมษายน 2555...<br />
อมร วรมาลี / autoweekvariety@gmail.com<br />
ที่มา http://www.bangkok-today.com<br />
<br />
<br />
<center><br />
<script type="text/javascript"><!--
google_ad_client = "ca-pub-8193718851842932";
google_ad_host = "pub-1556223355139109";
/* tv/10/54 */
google_ad_slot = "3288802929";
google_ad_width = 336;
google_ad_height = 280;
//-->
</script><br />
<script type="text/javascript"
src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js">
</script><br />
</center>newtoyotahttp://www.blogger.com/profile/13151539341201504178noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-9018618897111238733.post-28575905529542634782012-03-21T05:36:00.000-07:002012-03-21T05:36:51.290-07:00New Toyota Prius 2012 ใหม่โตโยต้า“พริอุส 2012”ปรับโฉมเสริมไลน์รุ่น“ซี”ขาย1.5ล้านบาท<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://2.bp.blogspot.com/-e102gDwrZUk/T2nJllNkgnI/AAAAAAAABdk/JA6nF3jtdB0/s1600/5.JPEG" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="284" src="http://2.bp.blogspot.com/-e102gDwrZUk/T2nJllNkgnI/AAAAAAAABdk/JA6nF3jtdB0/s400/5.JPEG" width="400" /></a></div>New Toyota Prius 2012 ใหม่โตโยต้า“พริอุส 2012”ปรับโฉมเสริมไลน์รุ่น“ซี”ขาย1.5ล้านบาท<br />
วันนี้ (21 มี.ค.) บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด แถลงข่าวเปิดตัว “โตโยต้า พริอุส ใหม่” ชูจุดขายระบบขับเคลื่อนแบบไฮบริด ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและการประหยัดเชื้อเพลิง เสริมความโดดเด่นด้วยเทคโนโลยีรอบคัน อาทิ ระบบระบายอากาศอัตโนมัติจากพลังงานแสงอาทิตย์ การเปิด-ปิดแอร์ก่อนขึ้นรถด้วยกุญแจรีโมท พร้อมระบบนำทางอัจฉริยะบนกระจกหน้า เปิดทางเลือก 3 รุ่นย่อย <br />
<a name='more'></a>สนนราคาตั้งแต่ 1.199- 1.369 ล้านบาท ขณะเดียวกันยังเตรียมนำเข้า"พริอุส ซี" ไฮบริดตัวถังแฮทซ์แบก เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร มาทำตลาดคาดตั้งราคาขายประมาณ 1.5 ล้านบาท<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://4.bp.blogspot.com/-qH_scwaQaqA/T2nJk97NjcI/AAAAAAAABc4/w9uI0m6kti8/s1600/1.JPEG" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="271" src="http://4.bp.blogspot.com/-qH_scwaQaqA/T2nJk97NjcI/AAAAAAAABc4/w9uI0m6kti8/s400/1.JPEG" width="400" /></a></div>สำหรับ โตโยต้า พริอุส ใหม่ ยังคงเป็นรถยนต์ที่มีรูปลักษณ์โฉบเฉี่ยว และมีเทคโนโลยีล้ำสมัยที่ช่วยลดการสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและประหยัดเชื้อเพลิง อาทิ ระบบขับเคลื่อนแบบไฮบริดที่สามารถขับเคลื่อนรถด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวหรือขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์โดยมีมอเตอร์ไฟฟ้ามาช่วยสนับสนุน กระบวนการผลิตที่มีการนำวัสดุที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่มาเป็นวัตถุดิบ ตลอดจนมีการนำเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยมาใช้มากขึ้นและยังคงไว้ซึ่งความสนุกสนานในการขับขี่<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://2.bp.blogspot.com/-ID8xS1qQVG0/T2nJk7NLk7I/AAAAAAAABdE/C6IHK1Awu3U/s1600/2.JPEG" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="249" src="http://2.bp.blogspot.com/-ID8xS1qQVG0/T2nJk7NLk7I/AAAAAAAABdE/C6IHK1Awu3U/s400/2.JPEG" width="400" /></a></div>เติมเต็มเทคโนโลยี อัจฉริยะรอบคัน นำโดยระบบระบายอากาศอัตโนมัติด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Ventilation System) ทำงานโดยแผงโซลาร์บนหลังคารถจะเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานไฟฟ้าเพื่อใช้ในการทำงานของพัดลมสำหรับระบายความร้อนออกจากห้องโดยสารขณะจอดกลางแดด ช่วยลดการทำงานของระบบปรับอากาศ ทำให้ประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น โดยเป็นครั้งแรกที่โตโยต้านำมาใช้กับรถยนต์ ระบบปรับอากาศ เปิด-ปิดด้วยกุญแจรีโมท (Remote Air-Conditioning System) สามารถควบคุมการทำงานของระบบปรับอากาศจากภายนอกห้องโดยสารเพื่อเปิดแอร์ก่อนขึ้นรถ ช่วยให้ห้องโดยสารเย็นสบาย โดยไม่สิ้นเปลืองน้ำมันเพราะใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรีไฮบริด และระบบนำทางบนกระจกหน้า (Head-up Display) จอแสดงผลอัจฉริยะบนกระจกหน้าสามารถเลือกแสดงผลได้หลากหลาย อาทิ แสดงทิศทางการเดินทางตามข้อมูลจากระบบนำทาง (Navigator) แสดงมาตรวัดความเร็ว หรือแสดงผลการขับขี่ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://1.bp.blogspot.com/-rVbpHV6ZIYQ/T2nJlFBZtRI/AAAAAAAABdQ/-F2MJimUsLU/s1600/3.JPEG" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="325" src="http://1.bp.blogspot.com/-rVbpHV6ZIYQ/T2nJlFBZtRI/AAAAAAAABdQ/-F2MJimUsLU/s400/3.JPEG" width="400" /></a></div>ด้านการออกแบบภายนอก กันชนหน้าดีไซน์ใหม่ ไฟหน้า(เฉพาะรุ่นท็อป-ท็อปออฟชัน) และหลังแบบ LED มาพร้อมหัวฉีดล้างทำความสะอาดโคมไฟหน้า และระบบควบคุมการเปิด-ปิด ปรับสูง-ต่ำ อัตโนมัติ กระจกมองข้างปรับและพับเก็บด้วยไฟฟ้า ล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้วน้ำหนักเบา ช่วยลดแรงเสียดทานในการหมุนวนของอากาศบริเวณซุ้มล้อ<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://2.bp.blogspot.com/-MapS24lk40M/T2nJlfSJqNI/AAAAAAAABdY/SmKY-1P-c94/s1600/4.JPEG" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="284" src="http://2.bp.blogspot.com/-MapS24lk40M/T2nJlfSJqNI/AAAAAAAABdY/SmKY-1P-c94/s400/4.JPEG" width="400" /></a></div>ส่วนภายใน เบาะคนขับปรับเลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า ปรับได้ 8 ทิศทาง แผงคอนโซลหน้า คอนโซลกลาง และพวงมาลัย เลือกใช้สีดำเข้มเติมอารมณ์สปอร์ต ติดตั้งระบบนำทาง พร้อมDVD หน้าจอแบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว 1CD/MP3, WMA ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์ไร้สาย Bluetooth พร้อมลำโพง 8 จุด และเพาเวอร์แอมป์จาก JBL (เฉพาะรุ่นท็อปออฟชัน) เสริมช่องต่อ USB/AUX (เฉพาะรุ่นท็อป-ท็อปออฟชัน)<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://3.bp.blogspot.com/-tyJYMUKR3d0/T2nJvyc8x1I/AAAAAAAABek/fcSlviJCjrU/s1600/10.JPEG" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="300" src="http://3.bp.blogspot.com/-tyJYMUKR3d0/T2nJvyc8x1I/AAAAAAAABek/fcSlviJCjrU/s400/10.JPEG" width="400" /></a></div>การขับเคลื่อนใช้เครื่องยนต์รหัส 2ZR - FXE 4 สูบแถวเรียง DOHC 16 วาล์ว VVT-i ความจุ 1797 ซีซี. ให้กำลังสูงสุด 99 แรงม้าที่ 5,200 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 142 นิวตัน-เมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที ผ่านมาตรฐานไอเสีย ยูโร 4 รองรับพลังงานทางเลือก E10 ประสานการทำงานด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ที่พัฒนาระบบเกียร์ทดกำลังให้มีขนาดเล็กลงและน้ำหนักเบายิ่งขึ้น ส่งกำลังสูงสุด 60 กิโลวัตต์ หรือ 82 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 207 นิวตัน-เมตร ใช้แบตเตอรีไฮบริด Ni-MH (Nickel-Metal Hydride) ที่มีน้ำหนักเบาและทนทานยิ่งขึ้น ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์ไฟฟ้าอัตโนมัติ (Electronic Gear Shift) พร้อมระบบคันเกียร์ที่กลับคืนสู่ตำแหน่งกลางโดยอัตโนมัติทุกครั้งหลังการเข้าเกียร์<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://4.bp.blogspot.com/-aAF_eofuqjI/T2nJu1QlYmI/AAAAAAAABd0/tcsuzZL7ddA/s1600/6.JPEG" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="256" src="http://4.bp.blogspot.com/-aAF_eofuqjI/T2nJu1QlYmI/AAAAAAAABd0/tcsuzZL7ddA/s400/6.JPEG" width="400" /></a></div>รูปแบบการขับขี่ตอบสนองได้ทุกอารมณ์ เริ่มจากโหมดการขับขี่ทรงพลัง (PWR Mode) ระบบจะผสานกำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์อย่างเต็มที่ เพื่อตอบสนองการขับขี่อย่างทันใจ, โหมดการขับขี่ประหยัดน้ำมัน (ECO Mode) ระบบจะเลือกใช้กำลังในการขับเคลื่อน จากมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์ให้เหมาะสม โดยคำนึงถึงการใช้พลังงานอย่างคุ้มค่า และโหมดการขับขี่เงียบสนิท (EV Mode) ระบบจะใช้กำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว ให้การขับขี่ที่เงียบสนิท เหมาะสำหรับการเดินทางในบริเวณที่ใช้ความเร็วต่ำ<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://3.bp.blogspot.com/-m3yuqvTHKLs/T2nJu4B4OuI/AAAAAAAABeA/-19yV3yb3Bg/s1600/7.JPEG" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="299" src="http://3.bp.blogspot.com/-m3yuqvTHKLs/T2nJu4B4OuI/AAAAAAAABeA/-19yV3yb3Bg/s400/7.JPEG" width="400" /></a></div>ขณะที่ความปลอดภัยติดตั้งมาครบครัน นำโดยกระจกมองข้างลดการเกาะตัวของหยดน้ำ, กระจกมองหลังปรับลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ , ระบบควบคุมการปัดน้ำฝนอัตโนมัติ , ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control, ระบบควบคุมการทรงตัว VSC ทำงานร่วมกับ EPS, ระบบกระจายแรงเบรก EBD, ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRCและระบบป้องกันล้อล็อก ABS เสริมการติดตั้งถุงลมนิรภัย 7 จุดรอบคัน ด้านหน้า 2 ด้านข้าง 2 ม่าน 2 และเข่าคนขับ 1 ตำแหน่ง<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://3.bp.blogspot.com/-3VHHuP-QlBc/T2nJvXYG-MI/AAAAAAAABeM/Zo-pydoFNZ4/s1600/8.JPEG" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="300" src="http://3.bp.blogspot.com/-3VHHuP-QlBc/T2nJvXYG-MI/AAAAAAAABeM/Zo-pydoFNZ4/s400/8.JPEG" width="400" /></a></div>โตโยต้า พริอุส ใหม่ มาพร้อม 5 สี 1. White Pearl Crystal (ราคาเพิ่ม 10,000 บาท) 2.True Blue Metallic 3.Silver Metallic 4.Attitude Black Mica และ5.Red Mica Metallicมีทางเลือก 3 รุ่นย่อย คือ รุ่นสแตนดาร์ด ราคาา1,199,000 บาท, รุ่นท็อป ราคา 1,299,000 บาท และรุ่นท็อปออฟชัน ราคา 1,369,000 บาท<br />
<br />
ทั้งนี้ โตโยต้า เตรียมนำ“พริอุส ซี” ตัวถังแฮทซ์แบก เครื่องยนต์ขนาด 1500 ซีซี (คลิ๊กอ่านรายละเอียด) จากญี่ปุ่นเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย พร้อมเปิืดตัวงานบางกอกมอเตอร์โชว์ 2012 ปลายเดือนนี้ คาดราคาขายแพงกว่าพริอุสรุ่นปกตินิดหน่อย หรือประมาณ 1.5 ล้านบาท<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://3.bp.blogspot.com/-D5xYnbLJBGY/T2nJvm3ZabI/AAAAAAAABeY/OvViaclh4tA/s1600/9.JPEG" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="300" src="http://3.bp.blogspot.com/-D5xYnbLJBGY/T2nJvm3ZabI/AAAAAAAABeY/OvViaclh4tA/s400/9.JPEG" width="400" /></a></div>New Toyota Prius 2012 ใหม่โตโยต้า“พริอุส 2012”<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://4.bp.blogspot.com/-GmETcPm3x4g/T2nJ48X1IuI/AAAAAAAABfU/wcg41byNclA/s1600/14.JPEG" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="255" src="http://4.bp.blogspot.com/-GmETcPm3x4g/T2nJ48X1IuI/AAAAAAAABfU/wcg41byNclA/s400/14.JPEG" width="400" /></a></div>New Toyota Prius 2012 ใหม่โตโยต้า“พริอุส 2012”<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://1.bp.blogspot.com/-ReNnz4imeYc/T2nJ4GC9-VI/AAAAAAAABew/SGN2lkZUeRg/s1600/11.JPEG" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="300" src="http://1.bp.blogspot.com/-ReNnz4imeYc/T2nJ4GC9-VI/AAAAAAAABew/SGN2lkZUeRg/s400/11.JPEG" width="400" /></a></div>New Toyota Prius 2012 ใหม่โตโยต้า“พริอุส 2012”<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://3.bp.blogspot.com/-UOneEUtAZUM/T2nJ4eXa7zI/AAAAAAAABfA/frcyPr7sxsU/s1600/12.JPEG" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="325" src="http://3.bp.blogspot.com/-UOneEUtAZUM/T2nJ4eXa7zI/AAAAAAAABfA/frcyPr7sxsU/s400/12.JPEG" width="400" /></a></div>New Toyota Prius 2012 ใหม่โตโยต้า“พริอุส 2012”<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://3.bp.blogspot.com/-JBfSpEThftY/T2nJ4ljlntI/AAAAAAAABfI/XKbawaSAWDI/s1600/13.JPEG" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="300" src="http://3.bp.blogspot.com/-JBfSpEThftY/T2nJ4ljlntI/AAAAAAAABfI/XKbawaSAWDI/s400/13.JPEG" width="400" /></a></div>New Toyota Prius 2012 ใหม่โตโยต้า“พริอุส 2012”<br />
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ <br />
<br />
<br />
<center><br />
<script type="text/javascript"><!--
google_ad_client = "ca-pub-8193718851842932";
google_ad_host = "pub-1556223355139109";
/* tv/10/54 */
google_ad_slot = "3288802929";
google_ad_width = 336;
google_ad_height = 280;
//-->
</script><br />
<script type="text/javascript"
src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js">
</script><br />
</center>newtoyotahttp://www.blogger.com/profile/13151539341201504178noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-9018618897111238733.post-28673639668280037402012-03-16T10:06:00.001-07:002012-03-16T10:07:05.158-07:00New Toyota Camry 2012 กับเคาะราคาเริ่มต้นที่ 1.29 ล้านบาท<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://2.bp.blogspot.com/-bNLCM6BlvAc/T2Nx1E6AF8I/AAAAAAAABbY/SemS872jOEk/s1600/1.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="209" src="http://2.bp.blogspot.com/-bNLCM6BlvAc/T2Nx1E6AF8I/AAAAAAAABbY/SemS872jOEk/s400/1.jpg" width="400" /></a></div>New Toyota Camry 2012 กับเคาะราคาเริ่มต้นที่ 1.29 ล้านบาท<br />
มีการเปิดเผยให้ทราบถึงราคาของรถสุดหรูของค่ายดังเมืองซามูไรอย่าง "โตโยต้า" (Toyota) ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับ "All New Camry A New Era of Prestige" รุ่นใหม่แกะกล่องที่แฟนคลับหลายคนตั้งหน้าตั้งตารอคอยกันมานาน ซึ่งเมื่อเห็นราคาพร้อมรุ่นต่าง ๆ บอกได้คำเดียวว่าสมกับที่รอคอยจริง ๆ <br />
<a name='more'></a><br />
สำหรับ All New Camry นี้มีจุดเด่นต่าง ๆ มากมายที่เห็นได้ชัด ทั้งเรื่องของเครื่องยนต์และการออกแบบที่ดูหรูหรา สง่างาม ทั้งภายนอกและภายใน ซึ่งกับภายในด้วยแล้ว ถือเป็นความตั้งใจของทางโตโยต้าที่จะนำเสนอองค์ประกอบใหม่ ๆ คือความหรูหรา คุณภาพชั้นเลิศ และความเป็นส่วนตัว ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้คือ ห้องโดยสารที่ลงตัวทั้งความสวยงามและความสะดวกสบาย ซึ่งบอกได้ถึงรสนิยมชั้นเลิศเป็นอย่างดี<br />
<br />
นอกจากนั้นแล้ว ยังมีระบบความปลอดภัยทั้งแบบ Active และ Passive โดยมีถุงลมนิรภัย 9 จุด ระบบไฟหน้าอัตโนมัติ ระบบช่วยจอด รวมถึงกล้องช่วยมองหลัง ที่คนขับไม่จำเป็นต้องคอยมองกระจก หรือชะโงกหัวให้มึนเล่นอีกต่อไป<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://3.bp.blogspot.com/-Hxu7p5IC_1g/T2Nx1a-U3bI/AAAAAAAABbk/PVDFMKjwrMs/s1600/2.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="209" src="http://3.bp.blogspot.com/-Hxu7p5IC_1g/T2Nx1a-U3bI/AAAAAAAABbk/PVDFMKjwrMs/s400/2.jpg" width="400" /></a></div>ในส่วนของเครื่องยนตร์นั้น All New Camry นี้ มีให้เลือกหลัก ๆ เลยคือ เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2 ขนาด ทั้ง 2.0 ลิตรและ 2.5 ลิตร โดยเครื่อง 2.0 ลิตรนั้น จะเป็นเครื่อง VVT-i 16 วาล์ว 148 แรงม้า 1,998 ซีซี พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด พวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า ล้อขนาด 16 นิ้ว วิทยุและเครื่องเล่น CD <br />
<br />
ขณะที่เครื่องยนต์ 2.5 ลิตร จะเป็นเครื่อง Dual VVT-i 16 วาล์ว 181 แรงม้า 2,494 ซีซี พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ล้อขนาด 17 นิ้ว และเครื่องเล่น DVD และนอกจากทั้ง 2 รุ่นที่ได้บอกกล่าวไปแล้วนั้น ยังมี All New Camry ให้เลือกกันอีก 3 รุ่นย่อย ได้แก่ 2.5L Hybrid CD, 2.5L Hybrid DVD และ 2.5L Hybrid NAVIGATOR<br />
<br />
ทั้งนี้ สำหรับใครที่อยากรู้เรื่องของราคา ทางโตโยต้าก็ประกาศออกมาอย่างเป็นทางการแล้วว่า จะเริ่มต้นที่รุ่น 2.0G ในราคา 1,290,000 บาท, 2.5G ราคา 1,490,000 บาท, 2.5L Hybrid CD ราคา 1,649,000 บาท, 2.5L Hybrid DVD ราคา 1,690,000 บาท และ 2.5L Hybrid NAVIGATOR ราคา 1,860,000 บาท ตามลำดับ แถมด้วยใครที่ชื่นชอบสีขาวมุกในรุ่น Hybrid ก็เพิ่มอีก 10,000 บาทก็ได้ไปครองสมใจแล้ว<br />
<br />
ที่สำคัญไปกว่านั้น อีกเพียงไม่กี่วัน ก็จะได้เห็น All New Camry กันแล้ว เพราะคุณเคียวอิจิ ทานาดะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เตรียมจัดงานเปิดตัว All New Camry ในวันพฤหัสบดีที่ 15 มีนาคมนี้ รอยัล พารากอน ฮอลล์ 2 - 3 สยามพารากอน ซึ่งใครอยากเห็นคันเป็น ๆ ก็ไปที่งานดังกล่าวได้ โดยงานจะเริ่มตั้งแต่เวลา 14.00 น. เป็นต้นไป<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://2.bp.blogspot.com/-kK5iffnIoXs/T2Nx1ydl9KI/AAAAAAAABbs/CJZbf2WRXgI/s1600/3.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="209" src="http://2.bp.blogspot.com/-kK5iffnIoXs/T2Nx1ydl9KI/AAAAAAAABbs/CJZbf2WRXgI/s400/3.jpg" width="400" /></a></div>New Toyota Camry 2012<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://2.bp.blogspot.com/-UE8atT_apX4/T2Nx17fpZEI/AAAAAAAABb8/G_c3mIyRfCI/s1600/4.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="209" src="http://2.bp.blogspot.com/-UE8atT_apX4/T2Nx17fpZEI/AAAAAAAABb8/G_c3mIyRfCI/s400/4.jpg" width="400" /></a></div>New Toyota Camry 2012<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://1.bp.blogspot.com/-qhka4QE-vd0/T2Nx2Rc-6-I/AAAAAAAABcI/KG2PPq2t8pc/s1600/5.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="209" src="http://1.bp.blogspot.com/-qhka4QE-vd0/T2Nx2Rc-6-I/AAAAAAAABcI/KG2PPq2t8pc/s400/5.jpg" width="400" /></a></div>New Toyota Camry 2012<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://4.bp.blogspot.com/-acU5lqD0RsY/T2NyA4qX76I/AAAAAAAABcs/FFlTWXukphc/s1600/8.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="209" src="http://4.bp.blogspot.com/-acU5lqD0RsY/T2NyA4qX76I/AAAAAAAABcs/FFlTWXukphc/s400/8.jpg" width="400" /></a></div>New Toyota Camry 2012<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://4.bp.blogspot.com/-dAyGVEeLMAM/T2NyAYCh-_I/AAAAAAAABcU/IRDpCretUmY/s1600/6.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="209" src="http://4.bp.blogspot.com/-dAyGVEeLMAM/T2NyAYCh-_I/AAAAAAAABcU/IRDpCretUmY/s400/6.jpg" width="400" /></a></div>New Toyota Camry 2012<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://4.bp.blogspot.com/-Mt7XB3_6ims/T2NyAmnskxI/AAAAAAAABcc/CK5ziYszoMc/s1600/7.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="209" src="http://4.bp.blogspot.com/-Mt7XB3_6ims/T2NyAmnskxI/AAAAAAAABcc/CK5ziYszoMc/s400/7.jpg" width="400" /></a></div>New Toyota Camry 2012<br />
ขอขอบคุณ<br />
ที่มาภาพประกอบจาก toyota.com<br />
ที่มา เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<center><br />
<script type="text/javascript">
<!--
google_ad_client = "ca-pub-8193718851842932";
google_ad_host = "pub-1556223355139109";
/* tv/10/54 */
google_ad_slot = "3288802929";
google_ad_width = 336;
google_ad_height = 280;
//-->
</script><br />
<script src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type="text/javascript">
</script><br />
</center>newtoyotahttp://www.blogger.com/profile/13151539341201504178noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-9018618897111238733.post-72368787825716064602012-03-14T08:13:00.000-07:002012-03-14T08:13:54.732-07:00โตโยต้าเปิด“คัมรี-พริอุส”ใหม่ รุกรถไฮบริด-เล็งขึ้นไลน์รถตู้<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://4.bp.blogspot.com/-sJTb-ImEKsY/T2C0XlZv63I/AAAAAAAABaQ/BRuLbgK1mHA/s1600/1.JPEG" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="263" src="http://4.bp.blogspot.com/-sJTb-ImEKsY/T2C0XlZv63I/AAAAAAAABaQ/BRuLbgK1mHA/s400/1.JPEG" width="400" /></a></div>รุ่นไฮบริด<br />
โตโยต้าเปิด“คัมรี-พริอุส”ใหม่ รุกรถไฮบริด-เล็งขึ้นไลน์รถตู้ ยักษ์ใหญ่ “โตโยต้า” เดินหน้าเขย่าตลาดรถไทย เร็วๆ นี้เตรียมเปิดตัวไฮไลต์ประจำปี “โตโยต้า คัมรี” โฉมใหม่ ชิงกวาดยอดขายจากคู่แข่ง “ฮอนด้า แอคคอร์ด” และ “นิสสัน เทียน่า” ที่อยู่ในช่วงปลายโมเดล ด้วยรูปลักษณ์ที่ยังคงความหรูหรา พร้อมวางเครื่องยนต์บล็อกใหม่ 2500 ซีซี 181 แรงม้า ทำตลาดแทนรุ่น 2400 ซีซี โดยควงคู่มากับรุ่น 2500 ซีซี แบบไฮบริด 205 แรงม้า ขณะรุ่น 2000 ซีซี <br />
<a name='more'></a>ยังคงมีมาให้เป็นอีกทางเลือกเช่นเดิม แต่ลดจำนวนรุ่นย่อยทำตลาดลง ตามกลยุทธ์การวางผลิตภัณฑ์ของโตโยต้า ที่มุ่งเน้นรถไฮบริดเป็นหลัก เผยราคาใหม่ปรับขึ้นประมาณ 2-6 หมื่นบาท เท่านั้นไม่พอยังปลุกกระแสรถไฮบริดซ้ำอีกระลอก ด้วยการส่ง “โตโยต้า พริอุส” ไมเนอร์เชนจ์ ลงสู่ตลาด 21 มีนาคมที่จะถึงนี้ ขณะที่ปิกอัพ “โตโยต้า วีโก้ แชมป์” เตรียมปรับเกียร์อัตโนมัติเป็นแบบ 5 จังหวะ สู้กับคู่แข่งที่เปลี่ยนเป็นแบบ 5 และ 6 จังหวะแล้ว ก่อนจะทุ่มเงิน 1.2 พันล้านบาท ปัดฝุ่นโรงงานทีเอดับเบิลยู (TAW) กลับมาเดินสายการผลิตอีกครั้งช่วงปลายปี แม้จะไม่ยอมเปิดเผยรถรุ่นใหม่ดังกล่าว แต่รายงานข่าวจากสื่อนอกและของรัฐบาลไทย ระบุชัดจะมีการใช้ไทยเป็นฐานผลิตรถตู้ “ไฮเอช” หรือรุ่น“คอมมิวเตอร์” ที่ยึดตลาดรถตู้ไทยเบ็ดเสร็จ<br />
<center><br />
<script type="text/javascript"><!--
google_ad_client = "ca-pub-8193718851842932";
google_ad_host = "pub-1556223355139109";
/* tv/10/54 */
google_ad_slot = "3288802929";
google_ad_width = 336;
google_ad_height = 280;
//-->
</script><br />
<script type="text/javascript"
src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js">
</script><br />
</center><br />
แม้จะยังไม่คลอดโปรเจกต์อีโคคาร์ที่กำลังเป็นที่นิยมในขณะนี้ แต่ความเคลื่อนไหวของยักษ์ใหญ่ “โตโยต้า” ย่อมน่าสนใจและเฝ้าจับตามอง โดยเฉพาะเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา โตโยต้าได้แถลงแผนการลงทุนในไทยเป็นมูลค่ากว่า 8.2 พันล้านบาท เพื่อตั้งโรงงานแห่งใหม่ที่นิคมอุตสาหกรรมเกตุเวย์ รองรับการผลิตอีโคคาร์ในกลางปี 2556 และปรับไลน์การผลิตสำหรับรถรุ่นใหม่ที่โรงงานในสมุทรปราการ ก่อนจะมาล่าสุดทุ่มอีก 6 พันล้านบาท เพิ่มกำลังการผลิตเครื่องยนต์เบนซินตระกูล “ZR” ที่โรงงานสยามโตโยต้าอุตสาหกรรม ขณะเดียวกันได้ตั้งเป้ายอดขายในไทยปีนี้ไว้สูงถึง 4.5 แสนคัน ซึ่งกลยุทธ์บรรลุสู่เป้าหมายโตโยต้าได้เริ่มทยอยปล่อยทีเด็ดออกมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการประเดิมเปิดโฉมใหม่ของ “โตโยต้า อแวนซ่า” จากนั้นแต่งองค์ทรงเครื่องใหม่ให้กับซับคอมแพกต์รุ่น “ยาริส” หรือเวอร์ชั่นปี 2012 ให้โฉบเฉี่ยวสปอร์ตมากขึ้น ยังไม่นับรวมแบรนด์หรูในเครือ “เลกซัส” ที่ได้เปิดรุ่นปรับโฉมใหม่ของรุ่น “จีเอส” สู่ตลาดไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่นั่นเป็นเพียงออร์เดิร์ฟเท่านั้น เพราะปีนี้โตโยต้ายังมีหมัดเด็ดเตรียมส่งรถรุ่นใหม่เขย่าตลาดอย่างต่อเนื่อง…<br />
<br />
โดยเฉพาะไฮไลต์ของเจ้าตลาดในไทยปีนี้ “โตโยต้า คัมรี” โฉมใหม่ ซึ่งกำหนดดีเดย์บุกตลาดเก๋งขนาดกลาง หรือดี(D) เซกเม้นท์อย่างเป็นทางการ ในวันพฤหัสบดีที่ 15 มีนาคมที่จะถึงนี้ เพื่อชิงกวาดยอดจากคู่แข่งอย่าง “ฮอนด้า แอคคอร์ด” และ “นิสสัน เทียน่า” ซึ่งล้วนอยู่ในช่วงปลายโมเดล หรือเหลือเวลาทำตลาดอยู่ประมาณ 1 ปีเท่านั้น<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://1.bp.blogspot.com/-GmOLE9ipZ7Y/T2C0XxAfA3I/AAAAAAAABac/-1hB-9ySugo/s1600/2.JPEG" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="199" src="http://1.bp.blogspot.com/-GmOLE9ipZ7Y/T2C0XxAfA3I/AAAAAAAABac/-1hB-9ySugo/s400/2.JPEG" width="400" /></a></div>โตโยต้า คัมรี ใหม่ เป็นการปรับโฉมใหม่หมด หรือโมเดลเชนจ์ โดยเวอร์ชั่นที่จำหน่ายในไทย จะแตกต่างจากรุ่นทำตลาดในอเมริกาเหนือ ที่เปิดตัวไปเมื่อช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งมีรูปลักษณ์สปอร์ตโฉบเฉี่ยว ขณะที่รุ่นขายในไทยจะดูหรูหรามากกว่า ซึ่งรุ่นมาตรฐานจะอิงเวอร์ชั่นตลาดโลกอย่างในประเทศจีน หรือรัสเซีย รวมถึงรุ่นไฮบริดที่เหมือนกับในญี่ปุ่น ดังนั้นจึงเห็นความแตกต่างชัดเจนกับเวอร์ชั่นอเมริกาเหนือ ไม่ว่าจะเป็นเปลือกกันชนหน้า กระจังหน้า ชุดโคมไฟหน้า และด้านหลัง <br />
<br />
อีกจุดที่แตกต่างชัดเจนของคัมรีโฉมใหม่ กับรุ่นปัจจุบันที่ทำตลาดในไทย เห็นจะเป็นเครื่องยนต์ที่วางบล็อก 2AR-FE แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ขนาด 2500 ซีซี Dual VVT-I ให้กำลัง 181 แรงม้า ขับเคลื่อนด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ แทนขุมพลังเดิม 2AZ-FE 24000 ซีซี พร้อมกับควงคู่มากับรุ่นไฮบริดที่วางเครื่องยนต์ 2500 ซีซี 161 แรงม้า ทำงานผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งถือเป็นระบบไฮบริดที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ จึงมีขุมพลังที่เมื่อรวมกันมากถึง 205 แรงม้า ขณะเดียวกันโตโยต้ายังคงเครื่องยนต์บล็อก 1AZ- FE ขนาด 2000 ซีซี เป็นอีกทางเลือกเช่นเดิม<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://3.bp.blogspot.com/-NGGMRofT-JE/T2C0YFuU87I/AAAAAAAABao/3ad2W85VmgI/s1600/3.JPEG" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="243" src="http://3.bp.blogspot.com/-NGGMRofT-JE/T2C0YFuU87I/AAAAAAAABao/3ad2W85VmgI/s400/3.JPEG" width="400" /></a></div>คัมรี่<br />
<br />
อย่างไรก็ตาม โตโยต้าดูจะเน้นให้ความสำคัญกับรุ่นเครื่องยนต์ 2500 ซีซี และรุ่นไฮบริดเป็นหลัก เพราะได้ลดรุ่นทำตลาดของเครื่องยนต์ 2000 ซีซี และปรับราคาขึ้นประมาณ 5 หมื่นบาท เทียบกับรุ่น 2500 ซีซี และโดยเฉพาะรุ่นไฮบริด ที่มีจำนวนรุ่นให้เลือกครบครันเช่นเดิมแล้ว ถึงจะปรับราคาจากเดิมกว่า 2-6 หมื่นบาท แต่ได้เครื่องยนต์ใหม่ที่มีประสิทธิภาพดีกว่า และเพียบพร้อมด้วยออปชั่นเต็มๆ <br />
<br />
นั่นเป็นตัวไฮไลต์ของโตโยต้าในปีนี้ และจากกลยุทธ์การทำตลาดแล้ว ชัดเจนว่าโตโยต้าได้ให้ความสำคัญกับรถยนต์ไฮบริดอย่างมาก ดังนั้นจึงได้มีการปลุกกระแสให้ร้อนแรงต่อเนื่อง กับรถยนต์ไฮบริดพันธุ์แท้ “โตโยต้า พริอุส” ใหม่ ที่วางคิวเปิดตัวต่อเนื่องในวันที่ 21 มีนาคมที่จะถึงนี้ เพื่อผนึกกำลังกันกวาดยอดขายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2012 ที่จะเปิดเวทีช่วงปลายเดือนมีนาคมนี้<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://3.bp.blogspot.com/-PWum2RQ6hPY/T2C0YJcMCyI/AAAAAAAABa0/9kSyFPoa1D4/s1600/4.JPEG" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="247" src="http://3.bp.blogspot.com/-PWum2RQ6hPY/T2C0YJcMCyI/AAAAAAAABa0/9kSyFPoa1D4/s400/4.JPEG" width="400" /></a></div>โตโยต้า พริอุส ใหม่ เป็นการปรับโฉมแบบไมเนอร์เชนจ์ ซึ่งได้มีการเผยโฉมในต่างประเทศไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมา และถึงคิวของการทำตลาดในไทยแล้ว ด้วยการปรับเปลือกกันชนหน้า-หลังใหม่ กระจังหน้า ไฟหน้า และไฟท้าย รวมถึงไฟตัดหมอกดีไซน์ใหม่ ขณะที่ภายในก็ปรับคอนโซล เบาะนั่งคนขับควบคุมไฟฟ้า 8 ทิศทาง จอดีวีดีปรับปรุงใหม่ให้ความชัดเจนขึ้น รวมถึงชุดลำโพง JBL มากถึง 8 ตัว <br />
<br />
โดยโตโยต้า พริอุส ใหม่ ยังคงวางเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังสูงสุด 134 แรงม้า และมีให้เลือก 3 รุ่นย่อยเช่นเดิม เป็นรุ่นมาตรฐาน และรุ่นท็อป ราคาปรับขึ้นสูงสุดประมาณ 2 หมื่นบาท ส่วนอีกรุ่นเป็นตัวแต่งออปชั่นเต็ม ไม่ว่าจะเป็นมูนรูฟและโซลารูฟที่ปรับปรุงใหม่ เนวิเกเตอร์พร้อมจอดีวีดีแบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว และระบบปรับอากาศควบคุมด้วยรีโมท ทำให้ราคากระโดดไปหลายหมื่นบาทพอสมควร<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://2.bp.blogspot.com/-QuJHTAvjOXk/T2C0Y9ogXZI/AAAAAAAABa8/p8YhPDciuz8/s1600/5.JPEG" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="221" src="http://2.bp.blogspot.com/-QuJHTAvjOXk/T2C0Y9ogXZI/AAAAAAAABa8/p8YhPDciuz8/s400/5.JPEG" width="400" /></a></div>จะเห็นว่าในตลาดเก๋งโตโยต้าได้มีการปรับโฉมและแต่งหน้าทาปากให้กับผลิตภัณฑ์ครอบคลุมทีเดียว ซึ่งในส่วนของรุ่นอื่นๆ อย่าง โตโยต้า วีออส หรือรุ่นอัลติส ย่อมต้องปรุงแต่งเช่นเดียวกัน แต่ตัวธงที่โตโยต้าจะไม่ยอมพลาด เห็นจะเป็นปิกอัพ “โตโยต้า วีโก้ แชมป์” ที่ได้มีการบิ๊กไมเนอร์เชนจ์ไปเมื่อช่วงไตรมาสสามของปีที่ผ่านมา มาปีนี้คงจะไม่มีการขยับอะไรมากนอกจากแต่งนิดแต่งหน่อย <br />
<br />
แน่นอนหากทำเพียงแค่นั้นคงจะหยุดคู่แข่ง ที่ต่างพากันปรับโฉมใหม่หมด และยังใส่เทคโนโลยีใหม่เข้าไปอีก ซึ่งในส่วนของเครื่องยนต์ และรูปลักษณ์ โตโยต้าไม่ถือว่าด้อยกว่าคู่แข่งมาก แต่ในส่วนของระบบขับเคลื่อนเกียร์อัตโนมัติ ที่แทบจะทุกยี่ห้อได้ปรับเป็นแบบ 5 และ 6 จังหวะกันหมดแล้ว เหตุนี้จึงมีกระแสข่าวว่าในช่วงไตรมาส 2 หรือ 3 ของปีนี้ โตโยต้าจะเปลี่ยนเกียร์อัตโนมัติให้เป็นแบบ 5 จังหวะ จากปัจจุบันเป็นแบบ 4 จังหวะ เพื่อให้สามารถแข่งขันกับคู่แข่งได้ <br />
<br />
จากความเคลื่อนไหวดังกล่าว โตโยต้าจึงค่อนข้างมั่นใจจะสามารถแข่งขันกับคู่แข่งได้ในทุกเซกเม้นท์ของตลาด ขณะเดียวกันโตโยต้ายังมีแผนจะรุกตลาดรถตู้ที่ครองอยู่เบ็ดเสร็จ ด้วยการเล็งขึ้นไลน์ผลิตในไทยเสียที ซึ่งสืบเนื่องจากการประกาศทุ่ม 8.2 พันล้านบาทเมื่อต้นปี โดยในเงินลงทุนดังกล่าวจำนวน 1.2 พันล้านบาท จะนำมาทำการปรับและเริ่มเดินสายการผลิตในโรงงานไทยออโตเวิร์ค หรือทีเอดับเบิลยู (TAW) ซึ่งเคยผลิตรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ และต้องปิดไลน์ผลิตไป หลังจากย้ายฟอร์จูนเนอร์ไปยังโรงงานบ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://1.bp.blogspot.com/-iAG9U9t8UDs/T2C0hi-g90I/AAAAAAAABbM/oqW7BfzZg94/s1600/6.JPEG" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="252" src="http://1.bp.blogspot.com/-iAG9U9t8UDs/T2C0hi-g90I/AAAAAAAABbM/oqW7BfzZg94/s400/6.JPEG" width="400" /></a></div>การปรับเริ่มเดินสายการผลิตรถรุ่นใหม่ที่ทีเอดับเบิลยู แม้จะยังไม่ได้รับการเปิดเผยเป็นทางการจากโตโยต้า ซึ่งระบุเพียงว่าเป็นโครงการของบริษัทแม่ที่ญี่ปุ่น เพื่อผลิตรถรุ่นใหม่ที่ไม่เคยทำในไทยมาก่อน คาดว่าจะเริ่มการผลิตได้ในช่วงปลายปีนี้ ด้วยกำลังการผลิตปีละประมาณ 1.8 หมื่นคัน แต่ตามกระแสข่าวชัดเจนว่าจะเป็นรถตู้ “โตโยต้า คอมมิวเตอร์” <br />
<br />
โดยเมื่อปลายปีที่ผ่านมา สำนักข่าวญี่ปุ่น Mainichi ได้รายงานว่า เพื่อตอบสนองความต้องของลูกค้าในอาเซียน และลดปัญหาค่าเงินเยนแข็ง โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่น กำลังพิจารณาสร้างโรงงานประกอบรถยนต์แห่งใหม่ ทั้งในประเทศไทยและอินโดนีเซีย ซึ่งตามรายงานข่าวโตโยต้า ออโต้ บอดี้ บริษัทลูกของโตโยต้าที่ชำนาญในการผลิตรถเพื่อการพาณิชย์ จะเป็นผู้รับผิดชอบโครงการดังกล่าว และแนวโน้มจะทำการผลิตรถตู้รุ่นไฮเอช (HIACE)<br />
<br />
ในที่สุดดูเหมือนจะได้รับการยืนยันมากขึ้น จากการไปเยือนประเทศญี่ปุ่นของนายกรัฐมนตรี “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” และได้เปิดโอกาสให้ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นเข้าพบ เพื่อรับฟังแผนป้องกันอุทกภัยของไทย และบริษัทรถต่างยืนยันที่จะยังคงเข้ามาลงทุนในไทย ตามการรายงานข่าวจากเว็บไซต์ของรัฐบาลไทย ที่มีข้อความส่วนหนึ่งระบุว่า… <br />
<br />
“บริษัทผลิตรถยนต์ตามโครงการ Eco Car จำนวน 5 ราย ได้แก่ นิสสัน ฮอนด้า ซูซูกิ โตโยต้า และมิตซูบิชิ ที่มีแผนการขยายการลงทุนผลิต รวมทั้งแผนการขยายการผลิตรถยนต์ เช่น รถตู้ เป็นต้น” <br />
<br />
แม้ไม่ได้ระบุรายละเอียด แต่หากดูจากแผนการลงทุนและบริษัทรถยนต์ที่มีแนวโน้มขยายการผลิตรถตู้ ย่อมชัดเจนว่าจะเป็นโตโยต้ามากที่สุด…นั่นย่อมหมายความว่า ไทยจะเป็นฐานการผลิตหลักของโตโยต้า ที่มีการผลิตรถยนต์ในประเทศครอบคลุมเซกเม้นท์สำคัญมากที่สุด รวมถึงรถไฮบริดอย่าง “คัมรี” และ “พริอุส” ที่กำลังจะเปิดตัวในเร็วๆ นี้ ซึ่งโตโยต้าได้ชิงปักธงนำค่ายอื่นๆ ไปแล้ว<br />
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์newtoyotahttp://www.blogger.com/profile/13151539341201504178noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-9018618897111238733.post-13798158631048450232012-02-05T05:56:00.000-08:002012-02-05T05:57:41.001-08:00New Toyota Prius C/Aqua : ลดขนาดพริอุสเพื่อตลาดคนเมือง<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://4.bp.blogspot.com/-nHzyAs2v6TM/Ty6J7HHbwlI/AAAAAAAABTo/QbljqfsN2Q8/s1600/01.JPEG" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="242" src="http://4.bp.blogspot.com/-nHzyAs2v6TM/Ty6J7HHbwlI/AAAAAAAABTo/QbljqfsN2Q8/s400/01.JPEG" width="400" /></a></div>New Toyota Prius C/Aqua : ลดขนาดพริอุสเพื่อตลาดคนเมือง<br />
นับจากการเปิดตัวพริอุส พลัส หรือพริอุส วี ที่มีการขยายตัวถังเพื่อทำให้พริอุสสามารถรองรับกับความต้องการในด้านความ อเนกประสงค์ที่มากขึ้น ดูเหมือนว่าโตโยต้ายังจะไม่หยุดในการพัฒนาและขยายทางเลือกใหม่ๆ ให้กับรถยนต์ไฮบริดรุ่นนี้ โดยล่าสุดเปลี่ยนแนวมาเจาะตลาดคนเมือง เอาใจนักขับที่ต้องการความประหยัดบนตัวถังที่กะทัดรัดด้วยรุ่นพริอุส ซี หรือใช้ชื่อว่า อะควอ เมื่อเป็นเวอร์ชันที่ขายในญี่ปุ่น<br />
<a name='more'></a><br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://4.bp.blogspot.com/-UD5hK5xwl7I/Ty6J7VpiE4I/AAAAAAAABT0/qwIZDuhlMZ8/s1600/2.JPEG" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="251" src="http://4.bp.blogspot.com/-UD5hK5xwl7I/Ty6J7VpiE4I/AAAAAAAABT0/qwIZDuhlMZ8/s400/2.JPEG" width="400" /></a></div>ความจริงแล้วโปรเจกต์นี้ไม่ใช่ของใหม่ที่เพิ่งเกิดขึ้นแบบ ปัจจุบันทันด่วน เพราะก่อนที่คันจริงจะเปิดตัว ทางโตโยต้าได้มีการนำคันต้นแบบมาจัดแสดงชิมลางเพื่อหยั่งเชิงความรู้สึกของ ลูกค้ากันก่อน โดยต้นแบบของพริอุส ซีถูกเปิดตัวครั้งแรกในงานดีทรอยต์ มอเตอร์โชว์ 2011 จากนั้นเมื่อถึงปลายปีเดียวกันก็เป็นรุ่นขายจริงในญี่ปุ่นโดยใช้ชื่ออะควอ และค่อยถึงเวอร์ชันตลาดโลกที่เปลี่ยนมาใช้ชื่อเดียวกับต้นแบบ โดย C ที่ต่อท้ายมีความหมายถึง City หรือพริอุสที่มีขนาดตัวถังเล็กลงเพื่อรองรับกับการใช้งานในเมือง<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://3.bp.blogspot.com/-aLTQzdDUA_A/Ty6J7gvM7bI/AAAAAAAABUA/diYrQ7v36Ws/s1600/3.JPEG" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="241" src="http://3.bp.blogspot.com/-aLTQzdDUA_A/Ty6J7gvM7bI/AAAAAAAABUA/diYrQ7v36Ws/s400/3.JPEG" width="400" /></a></div>จะว่าไปนอกจากชื่อกับการเป็นรถยนต์ไฮบริดแล้ว ดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ระหว่างพริอุส ซี กับพริอุสรุ่นปกติน่าจะเรียกได้ว่าเหินห่างและไม่ได้เกี่ยวข้องกันโดยตรงเลย ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ในเชิงการใช้ชิ้นส่วนตัวถังร่วมกัน หรือแม้แต่ขุมพลังไฮบริด ซึ่งก็เป็นคนละชุด<br />
<br />
สำหรับพริอุส ซี ถือเป็นแฮทช์แบ็กแบบ 5 ประตูที่มีความยาวในระดับ 4,000 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อ 2,550 มิลลิเมตร สั้นกว่าพริอุส 150 มิลลิเมตร โดยงานออกแบบตัวถังถือว่าพลิกโฉมและใหม่จากพริอุส เจนเนอเรชั่นที่ 3 ซึ่งขายอยู่ในปัจจุบัน<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://3.bp.blogspot.com/-pVB-oIW2YK8/Ty6J70oncTI/AAAAAAAABUM/8-MzMppeZYg/s1600/4.JPEG" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="266" src="http://3.bp.blogspot.com/-pVB-oIW2YK8/Ty6J70oncTI/AAAAAAAABUM/8-MzMppeZYg/s400/4.JPEG" width="400" /></a></div>ขณะที่ขุมพลังไฮบริดเป็นชุดใหม่ที่ยกเอาเครื่องยนต์เบนซินใน กลุ่ม 1500 ซีซี มาจับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า ไม่ใช่บล็อก 1800 ซีซี เหมือนกับในพริอุส และพริอุส วี โดยขุมพลังไฮบริดบล็อกนี้เป็นรหัส 1NZ-FXE ซึ่งนำเครื่องยนต์เบนซินในตระกูล NZ มาเป็นต้นกำลัง โดยเครื่องยนต์ 1500 ซีซี ทวินแคม 16 วาล์ว พร้อม VVT-I มีกำลัง 74 แรงม้า ที่ 4,800 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 11.3 กก.-ม. ที่ 3,600 รอบ/นาที และจับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 60 แรงม้า แต่ผลิตกำลังโดยรวมออกมาได้ 99 แรงม้า<br />
<br />
โดยที่ชุดระบบไฮบริดทั้งระบบของพริอุส ซี มีน้ำหนักเบากว่าระบบที่ใช้อยู่ในพริอุสรุ่นฟาสแบ็คต์ถึง 40 กิโลกรัมเลยทีเดียว ซึ่งระบบไฮบริดชุดนี้น่าจะยกมาจากยาริส ไฮบริดที่จะเปิดตัวขายในยุโรปเดือนมีนาคมนี้<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://4.bp.blogspot.com/--FbTJvV2kdc/Ty6J8LdHDxI/AAAAAAAABUU/hupW2NYMLG8/s1600/5.JPEG" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="266" src="http://4.bp.blogspot.com/--FbTJvV2kdc/Ty6J8LdHDxI/AAAAAAAABUU/hupW2NYMLG8/s400/5.JPEG" width="400" /></a></div>ในแง่ของความประหยัดน้ำมัน กับรุ่นอะควอที่ทดสอบโดยโตโยต้าตามโหมดใหม่อย่าง JC-08 ตัวรถตอบสนองความประหยัดน้ำมันได้ในระดับ 35.4 กิโลเมตร/ลิตร และเมื่อเปลี่ยนเป็นโหมดเก่าอย่าง 10-15 ตัวเลขจะอยู่ที่ 37-40 กิโลเมตร/ลิตรเลยทีเดียว<br />
<br />
ในญี่ปุ่นเริ่มทำตลาด มาตั้งแต่เดือนธันวาคมที่ผ่านมา ส่วนสหรัฐอเมริกาจะเริ่มขายเดือนมีนาคมนี้ ก่อนทยอยเปิดตัวในตลาดแห่งอื่นๆ ทั่วโลก โดยราคาขายของพริอุส ซี อยู่ที่ 19,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 570,000 บาท<br />
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์<br />
<br />
<br />
<script type="text/javascript"><!--
google_ad_client = "ca-pub-8193718851842932";
google_ad_host = "pub-1556223355139109";
/* new10/11 */
google_ad_slot = "2472841017";
google_ad_width = 336;
google_ad_height = 280;
//-->
</script><br />
<script type="text/javascript"
src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js">
</script>newtoyotahttp://www.blogger.com/profile/13151539341201504178noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-9018618897111238733.post-58832139427601555822012-02-02T07:08:00.000-08:002012-02-02T07:09:21.508-08:00New Toyota Avanza 2012 พร้อมราคาขาย 3 รุ่น S G และ E<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://3.bp.blogspot.com/-IHYBKCIGxZA/TyqlC7bfjRI/AAAAAAAABRs/CmRTkdVt46s/s1600/1.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="274" src="http://3.bp.blogspot.com/-IHYBKCIGxZA/TyqlC7bfjRI/AAAAAAAABRs/CmRTkdVt46s/s400/1.jpg" width="400" /></a></div>New Toyota Avanza 2012 พร้อมราคาขาย 3 รุ่น S G และ E<br />
ถ้าพูดถึงค่ายรถยนต์ที่ติดตามคนไทยมายาวนานและช้านาน นั้น toyota ดูจะเป็นค่ายรถยนต์ที่ไม่เคยเสื่อมคลายในมนต์ขลังที่ถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น และล่าสุดหลังเปิดรถกระบะปรับโฉมใหญ่ไปเมื่อปีที่แล้ว ปีนี้ ค่ายรถยนต์เจ้านี้ก็ประเดิมศึกด้วย กลุ่มอเนกประสงค์<br />
<br />
เรียกว่าห่างหายไปนานกับตลาดรถยนต์อเนกประสงค์ แต่ในช่วงที่ผ่านมา Toyota Avanza แม้จะไม่โดดเด่นเหมือนรถหลายๆรุ่นที่ทำตลาดในปัจจับน แต่ก็ให้ความน่าสนใจ ด้วยแนวรถอเนกประสงค์ไซส์เล็ก และในปีนี้มันก็ถูกปรุงโฉมใหม่ให้โดนใจ ด้วยรูปลักษณ์ 2012 และพร้อมให้สัมผัสแล้ว ในแนวคิด "เติมสไตล์ล้ำ เต็มสไตล์คุณ"<br />
<a name='more'></a><br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://3.bp.blogspot.com/-LpI4r2Mpwkw/TyqlC5mj1yI/AAAAAAAABR4/n7oA6-oSjmE/s1600/2.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="278" src="http://3.bp.blogspot.com/-LpI4r2Mpwkw/TyqlC5mj1yI/AAAAAAAABR4/n7oA6-oSjmE/s400/2.jpg" width="400" /></a></div>New Toyota Avanza 2012<br />
2012 Toyota Avanza ใหม่กลับมาด้วยทรวดทรงที่แตกต่างจากเดิมแม้จะเพียงเล็กน้อย แต่การถอดสไตล์ดั้งเดิมออกแล้วแทนด้วยเส้นสายทันสมัยก็ทำให้ Toyota Avanza 2012 ใหม่ มีหน้าตาที่น่าคบหายิ่งขึ้นกว่าเดิม ตั้งแต่กระจังหน้าใหม่ ที่ลงตัวกับกันชนหน้า เปลี่ยนไฟหน้าให้ดูทันสมัยขึ้นรับกับโป่งข้างที่ดูดีลงตัว<br />
<br />
แนวคิด compact Multi-Purpose Vehicle ยังเป็นสิ่งที่ Toyota ภูมิใจนำเสนอใน Toyota Avanza ด้วยเรือนร่างขนาดเล็กช่วยให้ความคล่องตัวแต่ยังจุเหมือนเดิมกับ 5 ประตู อำนวยความสะดวก พร้อมรับผู้โดยสารสูงสุด 7 ที่นั่ง ส่วนเส้นสายที่ทันสมัยด้านหน้า ก็ต่อเนื่องยังบั้นท้ายให้ความลงทางด้านการออกแบบ ดูมีความสปอร์ตกลมกลืนมากขึ้น ทั้งไฟท้าย และ กันชนท้าย ที่เสริมมาพร้อมสปอร์ยเลอร์เพิ่มความมั่นใจในการขับขี่<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://1.bp.blogspot.com/--AQ9MHRbTvY/TyqlDS7DFOI/AAAAAAAABSE/T5bxefCG43c/s1600/3.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="300" src="http://1.bp.blogspot.com/--AQ9MHRbTvY/TyqlDS7DFOI/AAAAAAAABSE/T5bxefCG43c/s400/3.jpg" width="400" /></a></div>New Toyota Avanza 2012<br />
ในห้องโดยสาร 2012 Toyota Avanza นำเสนอการออกแบบใหม่ ภายใต้แนวคิด "Dynamic & Spacious" มุ่งเน้นให้พื้นที่ใช้สอยในห้องโดยสารกว้างมากยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับความสะดวกสบายให้ไม่รู้สึกอึดอัด และสอดรับกับแนวคิดการออกแบบทางภายนอกที่ลงตัวกับในห้องโดยสาร<br />
<br />
เรื่องสมรรถนะการขับขี่ Toyota Avanza 2012 ใหม่ มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตรให้กำลังสูงสุด 101 แรงม้า ที่มุ่งเน้นความประหยัดในการขับขี่แถมยังรองรับพลังงานทางเลือก E20 ทั้งยังให้การเดินทางช่วยรักษาสิ่งแวดล้อย ด้วยมาตรฐานไอเสียระดับ Euro IV และในครั้งนี้มีการปรับเรื่องสมรรถนะของระบบกันสะเทือนให้มีความมั่นใจในการขับขี่ยิ่งขึ้น แต่ยังคงความนุ่มนวล<br />
<br />
2012 Toyota Avanza ใหม่ พร้อมให้สัมผัสแล้ววันนี้ที่โชว์รูม toyota ทั่วประเทศ โดยมาพร้อม 3 รุ่น ให้เลือก สามารถดูราคาได้ทางข้างล่างเลย จ้า<br />
<br />
ราคาจำหน่าย 2012 Toyota Avanza<br />
Toyota Avanza 1.5 S เกียร์อัตโนมัติ ราคา 699,000 บาท<br />
Toyota Avanza 1.5 G เกียร์อัตโนมัติ ราคา 659,000 บาท<br />
Toyota Avanza 1.5 E เกียร์ธรรมดา ราคา 569,000 บาท<br />
ที่มา http://auto.sanook.com<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://3.bp.blogspot.com/-PddxgZ6kByE/TyqlDup4UsI/AAAAAAAABSQ/AKwl3rIdWEY/s1600/4.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="300" src="http://3.bp.blogspot.com/-PddxgZ6kByE/TyqlDup4UsI/AAAAAAAABSQ/AKwl3rIdWEY/s400/4.jpg" width="400" /></a></div>New Toyota Avanza 2012<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://3.bp.blogspot.com/-pjR5EhRnfUI/TyqlDz6PTgI/AAAAAAAABSg/8W757S7AUQ0/s1600/5.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="271" src="http://3.bp.blogspot.com/-pjR5EhRnfUI/TyqlDz6PTgI/AAAAAAAABSg/8W757S7AUQ0/s400/5.jpg" width="400" /></a></div>New Toyota Avanza 2012<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://4.bp.blogspot.com/-4fpw0tDRL5o/Tyql0LoH8rI/AAAAAAAABSs/byk0hA7lHxA/s1600/6.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="299" src="http://4.bp.blogspot.com/-4fpw0tDRL5o/Tyql0LoH8rI/AAAAAAAABSs/byk0hA7lHxA/s400/6.jpg" width="400" /></a></div>New Toyota Avanza 2012<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://1.bp.blogspot.com/-BBCX2owLbhw/Tyql0TW3QOI/AAAAAAAABS8/zrbMoTALBYY/s1600/7.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="250" src="http://1.bp.blogspot.com/-BBCX2owLbhw/Tyql0TW3QOI/AAAAAAAABS8/zrbMoTALBYY/s400/7.jpg" width="400" /></a></div>New Toyota Avanza 2012<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://1.bp.blogspot.com/-EZKsMJqFNVQ/Tyql07wBXjI/AAAAAAAABTE/SQ3CS9WSNzQ/s1600/8.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="314" src="http://1.bp.blogspot.com/-EZKsMJqFNVQ/Tyql07wBXjI/AAAAAAAABTE/SQ3CS9WSNzQ/s400/8.jpg" width="400" /></a></div>New Toyota Avanza 2012<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://4.bp.blogspot.com/-ewBQ34Hz9ls/Tyql09akaKI/AAAAAAAABTQ/BNZ_iQcMWqY/s1600/9.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="300" src="http://4.bp.blogspot.com/-ewBQ34Hz9ls/Tyql09akaKI/AAAAAAAABTQ/BNZ_iQcMWqY/s400/9.jpg" width="400" /></a></div>New Toyota Avanza 2012<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://3.bp.blogspot.com/-_rPyA_kNihY/Tyql1N_yOII/AAAAAAAABTc/vufDDasuUoM/s1600/10.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="202" src="http://3.bp.blogspot.com/-_rPyA_kNihY/Tyql1N_yOII/AAAAAAAABTc/vufDDasuUoM/s400/10.jpg" width="400" /></a></div>New Toyota Avanza 2012<br />
<br />
<script type="text/javascript"><!--
google_ad_client = "ca-pub-8193718851842932";
google_ad_host = "pub-1556223355139109";
/* new10/11 */
google_ad_slot = "2472841017";
google_ad_width = 336;
google_ad_height = 280;
//-->
</script><br />
<script type="text/javascript"
src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js">
</script>newtoyotahttp://www.blogger.com/profile/13151539341201504178noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-9018618897111238733.post-1275081135008872222012-01-28T19:52:00.000-08:002012-01-28T19:52:20.299-08:00โตโยต้า อัลฟาร์ด ดีไซน์สำหรับผู้นำ<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://4.bp.blogspot.com/-5McdcEg7z-Y/TyTBk8ViXKI/AAAAAAAABNY/KRcwlgxCwzQ/s1600/1.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="250" src="http://4.bp.blogspot.com/-5McdcEg7z-Y/TyTBk8ViXKI/AAAAAAAABNY/KRcwlgxCwzQ/s400/1.jpg" width="400" /></a></div>โตโยต้า อัลฟาร์ด ดีไซน์สำหรับผู้นำ ถือเป็นผู้นำในตลาดรถตู้เพื่อการพาณิชย์และรถตู้หรูในบ้านเรามายาวนาน สำหรับ โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ก็ยังมีการเปลี่ยนแปลงมาให้ได้ชมอยู่เรื่อย ๆ ล่าสุดกับการแนะนำ "โตโยต้า อัลฟาร์ด" รุ่นใหม่ล่าสุดที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ทั้งภายในและภายนอก สะท้อนภาพลักษณ์รถยนต์หรูสำหรับผู้นำที่มาพร้อมดีไซน์โดดเด่น อุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากมาย ที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองการใช้งานได้อย่างลงตัว สบายตลอดการเดินทาง<br />
<a name='more'></a><br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://3.bp.blogspot.com/-OVJVm-o-9oc/TyTBlBAU25I/AAAAAAAABNk/oa__veaDpFI/s1600/2.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="279" src="http://3.bp.blogspot.com/-OVJVm-o-9oc/TyTBlBAU25I/AAAAAAAABNk/oa__veaDpFI/s400/2.jpg" width="400" /></a></div>รูปลักษณ์ภายนอกที่ได้มีการปรับเปลี่ยนให้สวยงามยิ่งขึ้นด้วยกระจังหน้าโครเมียมใหม่ ที่ดูหรูหรารับกับไฟหน้า สเกิร์ตและกันชนหน้าดีไซน์ใหม่ที่ดูโฉบเฉี่ยว พร้อมไฟข้างและคิ้วขอบป้ายทะเบียนใหม่ หลังคาแบบมูนรูฟคู่ (twin moon roof) ช่วยเพิ่มแสงสว่างภายในห้องโดยสารยามค่ำคืน ส่วนประตูข้างซ้าย-ขวา และประตูหลังเป็นระบบไฟฟ้า เพิ่มความสะดวกสบาย สามารถควบคุมการเปิด-ปิดได้จากบริเวณคนขับ และล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว ดีไซน์ใหม่ พร้อมยางขนาด 215/60 R17<br />
<br />
ภายในห้องโดยสารภายในก็มีความหรูหราและสะดวกสบายกับแผงคอนโซลหน้า คอนโซลกลาง และหัวเกียร์ดีไซน์ใหม่ แผงประตูด้านหน้า แผงประตูผู้โดยสารด้านหลัง และแผงข้างผู้โดยสารด้านหลัง ตกแต่งด้วยลายไม้สีดำ กระจกมองหลังแบบตัดแสงอัตโนมัติ (EC mirror) ลดการสะท้อนของแสงไฟ เพิ่มความปลอดภัยสำหรับการขับขี่ในเวลากลางคืน และมาตรวัดเรืองแสงใหม่ เพิ่มขนาดให้ใหญ่ขึ้นเพื่อสะดวกในการอ่านค่า พร้อมระบบฟอกอากาศแบบนาโนอี (Nanoe) เทคโนโลยีการสร้างโมเลกุลน้ำล้อมรอบประจุลบ ช่วยยับยั้งเชื้อโรค ขจัดกลิ่นและมลพิษในอากาศ รักษาความชุ่มชื้นให้กับผิวหนัง ไม่แห้งกร้า<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://1.bp.blogspot.com/-F17DoOKpmn4/TyTBld49NYI/AAAAAAAABNs/lKX1aiSrWAA/s1600/3.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="250" src="http://1.bp.blogspot.com/-F17DoOKpmn4/TyTBld49NYI/AAAAAAAABNs/lKX1aiSrWAA/s400/3.jpg" width="400" /></a></div>เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหลังแถวที่ 1 ปรับไฟฟ้าแบบเฟิรสต์คลาส พร้อมกับที่รองขา ที่พักเท้า โต๊ะกลางแบบพับได้ และระบบบริหารหลังไฟฟ้า 7 จุด ให้ความสะดวกสบายผ่อนคลายความเมื่อยล้าตลอดการเดินทาง และเบาะนั่ง ผู้โดยสารด้านหลังแถวที่ 2 สำหรับ 3 ที่นั่งพร้อมที่วางแขน พับเก็บแบบแขวนได้ ช่วยเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลัง<br />
<br />
และเพิ่มความบันเทิงเครื่องเล่นดีวีดี, ซีดี, เอ็มพี 3, ดับบลิวเอ็มเอ, ช่องต่อยูเอสบี, ไอพอดและบลูทูท พร้อมจอแอลอีดีระบบสัมผัส ขนาด 7 นิ้วจากอัลไพน์ (ในรุ่น 3.5 V) และจอแอลซีดีระบบสัมผัส ขนาด 6.1 นิ้ว (ในรุ่น 2.4 V)<br />
<br />
มีให้เลือก 3 สี ทั้งสีเงิน (Silver Metallic), สีขาวมุก (White Pearl Crystal) และสีดำ (Black) มีจำหน่าย 2 รุ่นคือ รุ่น 2.4 V (2.4 ลิตร) ราคา 3,239,000 บาท และรุ่น 3.5 V (V6 3.5 ลิตร) ราคา 4,059,000 บาท พร้อมการรับประกันคุณภาพ 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร สนใจเป็นเจ้าของติดต่อและชมอัลฟาร์ดใหม่ได้ที่โชว์รูมผู้แทนจำหน่ายทั้ง 331 แห่งทั่วประเทศ<br />
ที่มา ประชาชาติธุรกิจ<br />
<br />
<br />
<script type="text/javascript"><!--
google_ad_client = "ca-pub-8193718851842932";
google_ad_host = "pub-1556223355139109";
/* new10/11 */
google_ad_slot = "2472841017";
google_ad_width = 336;
google_ad_height = 280;
//-->
</script><br />
<script type="text/javascript"
src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js">
</script>newtoyotahttp://www.blogger.com/profile/13151539341201504178noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-9018618897111238733.post-42463566074572222932012-01-25T22:04:00.000-08:002012-01-25T22:04:01.683-08:00คลิปน่ารักโฆษณารถToyota "โดราเอมอน-โตโยต้า" ตัวใหม่ให้"อัตจัง" เป็น "ไจโกะ"<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://4.bp.blogspot.com/--M02iCuiO3w/TyDrnVdwZCI/AAAAAAAABNM/-jMsol-tKqg/s1600/01.JPEG" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="225" src="http://4.bp.blogspot.com/--M02iCuiO3w/TyDrnVdwZCI/AAAAAAAABNM/-jMsol-tKqg/s400/01.JPEG" width="400" /></a></div>คลิปน่ารักโฆษณารถToyota "โดราเอมอน-โตโยต้า" ตัวใหม่ให้"อัตจัง" เป็น "ไจโกะ"<br />
บริษัทผลิตรถยนต์ "โตโยต้า" ปล่อยภาพยนตร์โฆษณาชุด "โดราเอมอน" ตัวใหม่มาให้ได้ชมกันแล้ว กับการเผยโฉมตัวละคร "ไจโกะ" น้องสาวสุดที่รักของ "ไจแอนท์" ที่ได้ไอดอลสาวคนสวย "อัตซึโกะ มาเอดะ" มารับบทดังกล่าวในโฆษณาตอนที่ 4 ที่มีชื่อว่า “Nobita's What-If World”<br />
<a name='more'></a><br />
อัตซึโกะ มาเอดะ หรือ อัตจัง แห่ง AKB48 กล่าวว่าเธอเป็นแฟนคลับของโดราเอมอนอีกคน และไม่เคยนึกไม่เคยฝันเลยว่าวันหนึ่ง จะได้มีโอกาสร่วมเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวโดราเอมอนแบบนี้<br />
<div style="display:block;float:left;margin: 5px;"><script type="text/javascript"><!--
google_ad_client = "ca-pub-8193718851842932";
/* ส้ม-เงิน */
google_ad_slot = "1449611808";
google_ad_width = 300;
google_ad_height = 250;
//-->
</script><br />
<script type="text/javascript"
src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js">
</script><br />
</div>โฆษณาของ โตโยต้า ตัวที่ 4 ซึ่งหยิบเอาของวิเศษสุดฮิตอีกชิ้นมาเป็นองค์ประกอบสำคัญ เล่าเรื่องที่โนบิตะกำลังคิดเลิกล้มการสอบใบขับขี่เสียทีหลังจากสอบตกมา ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้เขาเองอยากจะขับรถพาชิซูกะไปเที่ยวในการออกเดทด้วยกันมากแท้ ๆ และเริ่มพร่ำเพ้อว่าจะเป็นยังไงถ้าตัวเองได้ใบขับขี่ขึ้นมาจริง ๆ โดราเอมอนจึงช่วยหาทางออกให้ด้วยการใช้ "โทรศัพท์จินตนาการ" แสดงให้เห็นว่าถ้า โนบิตะ ขับรถได้ขึ้นมา จะเกิดอะไรขึ้น แต่สุดท้ายสาวสวยคนหนึ่งก็ทำให้เกิดเรื่องยุ่ง ๆ ขึ้นมาอีกจนได้ ซึ่งสาวคนที่ว่าก็คือ ไจโกะ น้องสาวของ ไจแอนท์ อดีตเด็กสาวผู้อยากเป็นนักเขียนการ์ตูนที่ขณะนี้อายุ 28 ปีแล้วนั่นเอง<br />
<br />
ผลงานโฆษณาในชุด "เมื่อตัวละครของโดราเอมอนอายุ 30 ปี" ได้สร้างความฮือฮามาตั้งแต่ปีก่อน กับการได้นักแสดงดังมากมาย มารับบทเป็นตัวละครจากการ์ตูนซึ่งเป็นที่รักมากที่สุดของชาวญี่ปุ่น<br />
<br />
โดยพระเอกหนุ่ม ซาโตชิ ซึมาบูกิ เป็น โนบิตะ ส่วนตัวละคร โกดะ ทาเคชิ หรือ ไจแอนท์ ได้อดีตนักยูโดเหรียญเงินโอลิมปิก นาโอยะ โอกาวะ มาสวมบทบาท, อาซามิ มิซึคาวะ รับบทเป็น ชิซูกะ, โทโมะฮิสะ ยามาชิตะ เป็น ซูเนโอะ และ นักแสดงชาวฝรั่งเศส ฌอง เรโน เป็นโดราเอมอน แมวหุ่นยนต์จอมกวน<br />
TOYOTA ReBORN 「のび太のもしもな世界」篇 前田敦子<br />
คลิปน่ารักโฆษณารถToyota "โดราเอมอน-โตโยต้า" ตัวใหม่ให้"อัตจัง" เป็น "ไจโกะ"<br />
<iframe allowfullscreen="" frameborder="0" height="285" src="http://www.youtube-nocookie.com/embed/S_D9vGM06PU?rel=0" width="420"></iframe><br />
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ และ youtubenewtoyotahttp://www.blogger.com/profile/13151539341201504178noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-9018618897111238733.post-28020136030720689132012-01-21T18:20:00.000-08:002012-01-21T18:20:51.127-08:00New Toyota Land Cruiser : ปรับโฉมใหม่กระตุ้นตลาด<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://2.bp.blogspot.com/-RpivCbTcdY4/TxtxzDBgXEI/AAAAAAAABIs/8AdnFCVcAfs/s1600/1.JPEG" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="256" src="http://2.bp.blogspot.com/-RpivCbTcdY4/TxtxzDBgXEI/AAAAAAAABIs/8AdnFCVcAfs/s400/1.JPEG" width="400" /></a></div>New Toyota Land Cruiser : ปรับโฉมใหม่กระตุ้นตลาด<br />
สำหรับคอออฟโรดที่ชอบเอสยูวีร่างใหญ่ เครื่องยนต์ซีซีเยอะ งานนี้ไม่น่าพลาด เมื่อโตโยต้าเผยโฉมใหม่ในแบบปรับโฉม หรือไมเนอร์เชนจ์ของ Tog of the line ของตระกูลเอสยูวีอย่างแลนด์ครูสเซอร์ในรหัส 200 Series ออกมาแล้ว เพิ่มความสดใหม่ให้กับรูปลักษณ์รอบคัน พร้อมพลังขับเคลื่อนจากเครื่องยนต์วี8 5,700 ซีซี<br />
<a name='more'></a><br />
งานนี้เรียกว่าค่อนข้างมีความพิเศษสักหน่อย เพราะในรุ่นปรับโฉมนี้ถือว่าเป็นการเฉลิมฉลอง 60 ปีในการทำตลาดของแลนด์ครูสเซอร์ในญี่ปุ่น (ส่วนสหรัฐอเมริกามีขายมานานถึง 50 ปี) ซึ่งความจริงแล้วในตลาดญี่ปุ่น ที่เป็นเวอร์ชัน JDM มีการปรับโฉมเมื่อปลายเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ส่วนที่เห็นอยู่นี้เป็นเวอร์ชันสำหรับขายในเมืองลุงแซม และตลาดแห่งอื่นๆ อีก 188 แห่งทั่วโลกที่โตโยต้าส่งแลนด์ครูสเซอร์เข้าไปกวาดตัวเลขยอดขาย<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://4.bp.blogspot.com/-GVUSMXhhL7g/TxtxzbHxmmI/AAAAAAAABI4/FyTzWRKk748/s1600/2.JPEG" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="261" src="http://4.bp.blogspot.com/-GVUSMXhhL7g/TxtxzbHxmmI/AAAAAAAABI4/FyTzWRKk748/s400/2.JPEG" width="400" /></a></div>ในแง่ของการปรับโฉมนั้น สังเกตได้ตั้งแต่ด้านหน้า เพราะว่ามีการติดตั้งไฟแบบ Daytime Running Light ซึ่งในปัจจุบันเป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับรถยนต์รุ่นใหม่ๆ กันไปแล้ว ขณะที่กระจังหน้า กันชนหน้าและกระจกมองข้าง ก็ได้รับการออกแบบใหม่ เพื่อความสวยสะดุดตา ส่วนด้านท้าย จุดหลักของการเปลี่ยนแปลงอยู่ที่กันชนท้าย ส่วนไฟท้ายยังเป็นทรงเดิม แต่มีการปรับรายละเอียดของการติดตั้งไฟสัญญาณต่างๆ ใหม่<br />
<br />
สิ่งที่ถือว่าเป็นไฮไลต์สำหรับการปรับโฉมในครั้งนี้คื รายละเอียดที่อยู่ภายใน เพราะนอกจากแลนด์ครูสเซอร์จะสามารถรองรับผู้ขับและผู้โดยสารรวม 8 ที่นั่งแล้ว (แต่ก็มีรุ่นแบบ 5 และ 7 ที่นั่งวางขายด้วย) ตัวรถยังมีการติดตั้งฟีเจอร์ใหม่ๆ มากมาย เช่น แผงหน้าจอ MID หรือ Multi-Information Display ที่ได้รับการออกแบบใหม่ พร้อมกับติดตั้งไฟสัญญาณแสดงลักษณะการขับเมื่ออยู่ในเงื่อนไขของ Eco Driving, ที่วงพวงมาลัยติดตั้งระบบอุ่นมือเอาไว้ด้วย, ระบบครูสคอนโทรลแบบปรับความเร็วให้สัมพันธ์กับสภาพถนน หรือ Dynamic Radar Cruise Control <br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://1.bp.blogspot.com/-HHwftAw6T-w/Txtxz9TsevI/AAAAAAAABJE/yOZ9A1zy80Q/s1600/3.JPEG" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="266" src="http://1.bp.blogspot.com/-HHwftAw6T-w/Txtxz9TsevI/AAAAAAAABJE/yOZ9A1zy80Q/s400/3.JPEG" width="400" /></a></div>อีกสิ่งหนึ่งก็คือ หน้าจอแสดงระดับของตัวรถเวลาลุยทางออฟโรด หรือ Multi-terrain Monitor ซึ่งจะแสดงผลความเอียงและลักษณะของตัวรถทั้งด้านหน้าตรง ด้านหลังตรง และทางด้านข้าง โดยจะทำงานร่วมกับระบบเลือกโหมดการขับเคลื่อน 4 ล้อ หรือ Multi-terrain Select system โดยจะเป็นปุ่มเลือกติดตั้งบริเวณฐานคันเกียร์<br />
<br />
เครื่องยนต์ที่ทำตลาดมีแบบเดียวเป็นบล็อกเบนซินวี8 ทวินแคม 48 วาล์ว 5,700 ซีซี พร้อมระบบวาล์วแปรผัน มีกำลังสูงสุด 381 แรงม้า ที่ 5,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 55.3 กก.-ม. จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะในการถ่ายทอดกำลังสู่ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลาที่มีการกระจายกำลังหน้า-หลังในอัตราส่วน 40:60%<br />
<br />
ในส่วนของการขับเคลื่อน 4 ล้อนั้น ทางโตโยต้ามีการปรับอัตราทดเกียร์โดยใช้อัตราทดต่ำในระดับ2.618 : 1 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการลุยวิบาก แถมยังมีโหมด CRAWL Control รับหน้าที่ในการช่วยปรับอัตราทดให้สัมพันธ์กับสภาพเส้นทาง โดยสามารถปรับการกระจายแรงบิดจากห้องเกียร์ไปยังล้อขับเคลื่อนทั้ง 4 ในถึง 5 ระดับด้วยกัน<br />
<br />
สำหรับระบบกันสะเทือนเป็นแบบปีกนก 2 ชั้นที่ได้รับการออกแบบให้มีจุดยึดอยู่ในระดับที่สูงเพื่อประสิทธิภาพในการลุยวิบาก ซึ่งนั่นทำให้ตัวรถมีมุมไต่ หรือ Approach Angle อยู่ที่ 30 องศา และมุมจากหรือ Departure Angle อยู่ที่ 20 องศา แถมด้วยการติดตั้งระบบ Kinetic Dynamic Suspension System (KDSS) สามารถปรับระดับของช่วงล่างให้สอดคล้องกับสภาพการขับขี่ ตอบสนองทั้งความนุ่มนวลและการยึดเกาะเวลาอยู่บนออนโรด และให้ความมั่นใจในการลุยวิบากเมื่ออยู่บนเส้นทางออฟโรด<br />
<br />
แม้ตลาดญี่ปุ่นจะมีวางขายแล้ว แต่สำหรับต่างแดนยังต้องรออีกสักระยะ เพราะว่าโตโยต้าจะเปิดตัวแลนด์ครูสเซอร์ ไมเนอร์เชนจ์ในงานดีทรอยต์ มอเตอร์โชว์ 2012 และจากนั้นก็จะเริ่มทยอยทำตลาดตามภูมิภาคทั่วโลกนับจากเดือนมีนาคมนี้เป็นต้นไป<br />
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์<br />
<br />
<script type="text/javascript"><!--
google_ad_client = "ca-pub-8193718851842932";
google_ad_host = "pub-1556223355139109";
/* new10/11 */
google_ad_slot = "2472841017";
google_ad_width = 336;
google_ad_height = 280;
//-->
</script><br />
<script type="text/javascript"
src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js">
</script>newtoyotahttp://www.blogger.com/profile/13151539341201504178noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-9018618897111238733.post-42275940905649171762012-01-13T23:42:00.000-08:002012-01-13T23:42:07.418-08:00new toyota alphard โตโยต้าเติมความทันสมัย“อัลพาร์ด ใหม่”สนนราคารุ่นท็อป 4 ล.<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://1.bp.blogspot.com/-QnvUZDmdvBA/TxEwbMTtruI/AAAAAAAAA8A/cjQU1-A5TwM/s1600/1.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="260" src="http://1.bp.blogspot.com/-QnvUZDmdvBA/TxEwbMTtruI/AAAAAAAAA8A/cjQU1-A5TwM/s400/1.jpg" width="400" /></a></div>new toyota alphard โตโยต้าเติมความทันสมัย“อัลพาร์ด ใหม่”สนนราคารุ่นท็อป 4 ล. หลังจากเปิดตัว โตโยต้า อแวนซา ต้อนรับปีมะโรงกันไปแล้ว ล่าสุด บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด แต่งองค์ทรงเครื่องให้กับ โตโยต้า อัลพาร์ด ใหม่ ด้วยการปรับเปลี่ยนทั้งภายในและภายนอก เพื่อสะท้อนภาพลักษณ์ของยนตรกรรมระดับหรูสำหรับผู้นำ อีกทั้งยังมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองการใช้งานได้อย่างลงตัว สะดวกสบายตลอดการเดินทาง<br />
<a name='more'></a><br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://1.bp.blogspot.com/-zd2pUxeGcTg/TxEwbemkazI/AAAAAAAAA8M/GZ7xpmJ-k64/s1600/2.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="248" src="http://1.bp.blogspot.com/-zd2pUxeGcTg/TxEwbemkazI/AAAAAAAAA8M/GZ7xpmJ-k64/s400/2.jpg" width="400" /></a></div>สำหรับภายนอกที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ของโตโยต้า อัลพาร์ด ประกอบด้วย กระจังหน้าโครเมี่ยมใหม่ ,หลังคาแบบมูนรูฟคู่ (Twin Moon Roof) , ประตูข้างซ้าย - ขวา และประตูหลังระบบไฟฟ้าเพื่อความสะดวกสบายในการเปิด-ปิด ได้จากบริเวณคนขับ , สเกิร์ตและกันชนหน้าดีไซน์ใหม่ ,ไฟข้างและคิ้วขอบป้ายทะเบียนใหม่ และล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว ดีไซน์ใหม่พร้อมยางขนาด 215/60R17<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://1.bp.blogspot.com/-_LzK9MTnbRg/TxEwbvfnPvI/AAAAAAAAA8c/xJN-Rao8V2o/s1600/3.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="340" src="http://1.bp.blogspot.com/-_LzK9MTnbRg/TxEwbvfnPvI/AAAAAAAAA8c/xJN-Rao8V2o/s400/3.jpg" width="400" /></a></div>ขณะที่ภายในเน้นความหรูล้ำ ทันสมัย เพื่อความสะดวกสะบายตลอดการเดินทาง เริ่มจาก กระจกมองหลังแบบตัดแสงอัตโนมัติ ลดการสะท้อนของแสงไฟ เพิ่มความปลอดภัยสำหรับการขับขี่ในเวลากลางคืน ,มาตรวัดเรืองแสงใหม่ เพิ่มขนาดให้ใหญ่ขึ้น เพื่อสะดวกในการอ่านค่า, ระบบฟอกอากาศแบบนาโนอี (Nanoe) เทคโนโลยีการสร้างโมเลกุลน้ำล้อมรอบประจุลบ ช่วยยับยั้งเชื้อโรค ขจัดกลิ่นและมลพิษในอากาศ ,แผงคอนโซลหน้า คอนโซลกลาง และ หัวเกียร์ดีไซน์ใหม่ ภูมิฐานด้วยลายไม้สีดำ ,แผงประตูด้านหน้า แผงประตูผู้โดยสารด้านหลัง และแผงข้างผู้โดยสารด้านหลัง ตกแต่งด้วยลายไม้สีดำ<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://1.bp.blogspot.com/-C2l7CMlMf-w/TxEwcL1VMgI/AAAAAAAAA8k/W8eL1Z9fl5U/s1600/4.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="161" src="http://1.bp.blogspot.com/-C2l7CMlMf-w/TxEwcL1VMgI/AAAAAAAAA8k/W8eL1Z9fl5U/s400/4.jpg" width="400" /></a></div>เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหลังแถวที่ 1 ปรับไฟฟ้าแบบเฟิร์สท์คลาส พร้อมกับที่รองขา ที่พักเท้า โต๊ะกลางแบบพับได้ และระบบบริหารหลังไฟฟ้า 7 จุด ให้ความสะดวกสบายผ่อนคลายความเมื่อยล้าตลอดการเดินทาง ,เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหลังแถวที่ 2 สำหรับ 3 ที่นั่งพร้อมที่วางแขน สามารถพับเก็บแบบแขวนได้ ช่วยเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลัง ,ครบครันด้วยความบันเทิงสมบูรณ์แบบ ด้วยเครื่องเล่น DVD / CD / MP3 / WMA / ช่องต่อ USB / iPod / Bluetooth พร้อมจอ LED ระบบสัมผัส 7 นิ้ว จาก Alpine (ในรุ่น 3.5 V) และจอ LCD ระบบสัมผัสขนาด 6.1 นิ้ว (ในรุ่น 2.4V)<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://2.bp.blogspot.com/-BheuQweWZIc/TxEwcP66_0I/AAAAAAAAA8s/6yGs72yZ_Mo/s1600/5.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="275" src="http://2.bp.blogspot.com/-BheuQweWZIc/TxEwcP66_0I/AAAAAAAAA8s/6yGs72yZ_Mo/s400/5.jpg" width="400" /></a></div>โตโยต้า อัลพาร์ด มีให้เลือก3 สี สีเงิน (Silver Metallic สีขาวมุก (White Pearl Crystal) สีดำ (Black)<br />
<br />
ส่วนราคา (รวมเครื่องปรับอากาศและภาษีมูลค่าเพิ่ม) รุ่น 2.4 V (2.4 ลิตร) 3,239,000 บาท รุ่น 3.5 V (V6 3.5 ลิตร)4,059,000 บาท พร้อมการรับประกันคุณภาพ 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://1.bp.blogspot.com/-2TPdGHvZv40/TxEwn-ECmaI/AAAAAAAAA88/ET4-4m84bHg/s1600/6.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="303" src="http://1.bp.blogspot.com/-2TPdGHvZv40/TxEwn-ECmaI/AAAAAAAAA88/ET4-4m84bHg/s400/6.jpg" width="400" /></a></div>new toyota alphard โตโยต้าเติมความทันสมัย“อัลพาร์ด ใหม่”สนนราคารุ่นท็อป 4 ล.<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://4.bp.blogspot.com/-_uieKu85-Js/TxEwoIwACEI/AAAAAAAAA9M/_3UpRwQmBEE/s1600/7.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="302" src="http://4.bp.blogspot.com/-_uieKu85-Js/TxEwoIwACEI/AAAAAAAAA9M/_3UpRwQmBEE/s400/7.jpg" width="400" /></a></div>new toyota alphard โตโยต้าเติมความทันสมัย“อัลพาร์ด ใหม่”สนนราคารุ่นท็อป 4 ล.<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://2.bp.blogspot.com/-W7L9kTxfZCI/TxEwoQblPJI/AAAAAAAAA9U/1pGGyjtQPzw/s1600/8.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="281" src="http://2.bp.blogspot.com/-W7L9kTxfZCI/TxEwoQblPJI/AAAAAAAAA9U/1pGGyjtQPzw/s400/8.jpg" width="400" /></a></div>new toyota alphard โตโยต้าเติมความทันสมัย“อัลพาร์ด ใหม่”สนนราคารุ่นท็อป 4 ล.<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://4.bp.blogspot.com/-iNt7JKvKtN8/TxEwosf-XqI/AAAAAAAAA9g/pmPROQPp8P8/s1600/9.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="204" src="http://4.bp.blogspot.com/-iNt7JKvKtN8/TxEwosf-XqI/AAAAAAAAA9g/pmPROQPp8P8/s400/9.jpg" width="400" /></a></div>new toyota alphard โตโยต้าเติมความทันสมัย“อัลพาร์ด ใหม่”สนนราคารุ่นท็อป 4 ล.<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://3.bp.blogspot.com/-6Yy1un6eNRQ/TxEwo77siVI/AAAAAAAAA9s/7m03WSoBjuQ/s1600/10.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="279" src="http://3.bp.blogspot.com/-6Yy1un6eNRQ/TxEwo77siVI/AAAAAAAAA9s/7m03WSoBjuQ/s400/10.jpg" width="400" /></a></div>new toyota alphard โตโยต้าเติมความทันสมัย“อัลพาร์ด ใหม่”สนนราคารุ่นท็อป 4 ล.<br />
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์<br />
<br />
<br />
<script type="text/javascript"><!--
google_ad_client = "ca-pub-8193718851842932";
google_ad_host = "pub-1556223355139109";
/* new10/11 */
google_ad_slot = "2472841017";
google_ad_width = 336;
google_ad_height = 280;
//-->
</script><br />
<script type="text/javascript"
src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js">
</script>newtoyotahttp://www.blogger.com/profile/13151539341201504178noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-9018618897111238733.post-45686205372128013082012-01-10T01:27:00.000-08:002012-01-10T01:29:11.701-08:00New Toyota อแวนซ่าปรับโฉมเริ่มต้น5.69แสน<table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto; text-align: center;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="http://3.bp.blogspot.com/-2UGIGVF_v90/TwwD6IygSfI/AAAAAAAAA74/dNSR0sM6xwA/s1600/1.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" height="263" src="http://3.bp.blogspot.com/-2UGIGVF_v90/TwwD6IygSfI/AAAAAAAAA74/dNSR0sM6xwA/s400/1.jpg" width="400" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;">New Toyota อแวนซ่าปรับโฉมเริ่มต้น5.69แสน</td></tr>
</tbody></table>New Toyota อแวนซ่าปรับโฉมเริ่มต้น5.69แสน<br />
บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด แนะนำ “อแวนซา” ใหม่ “Smart in Style....เติมสไตล์ล้ำ เต็มสไตล์คุณ” รถยนต์นั่งอเนกประสงค์ 5 ประตู 7 ที่นั่ง เหมาะกับการใช้งานในเมืองด้วยรูปแบบรถอเนกประสงค์ พัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด “Dynamic & Spacious” ด้วยการออกแบบพื้นที่ภายในห้องโดยสารให้มีความกว้างขวางมากขึ้น เพื่อความสะดวกสบายในการเดินทาง ภายนอกได้รับการดีไซน์ให้มีความทันสมัย<br />
<a name='more'></a><br />
ภายในห้องโดยสารดีไซน์สปอร์ต หรูหรา และ กว้างขวางยิ่งขึ้น เครื่องยนต์ขนาด 1500 ซีซี ได้รับการพัฒนาให้มีสมรรถนะดียิ่งขึ้น พร้อมด้วยระบบวาล์วอัจฉริยะ VVT-i ให้กำลังสูงสุด 101 แรงม้า ตอบสนองการใช้งานคล่องตัว ประหยัดน้ำมัน สามารถใช้น้ำมันแก๊ซโซฮอล์ E20 รวมถึงผ่านมาตรฐานไอเสียที่เข้มงวด ยูโร ระดับ4 ก่อนการบังคับใช้จริงถึง 1 ปี นอกจากนี้ยังได้ปรับปรุงช่วงล่างใหม่เพื่อตอบสนองการขับขี่ที่นุ่มนวล และการทรงตัวที่ดียิ่งขึ้น<br />
<table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto; text-align: center;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="http://3.bp.blogspot.com/-6-CEr1rzAd4/TwwD53NNvWI/AAAAAAAAA7o/9EcEwfgkjV0/s1600/2.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" height="249" src="http://3.bp.blogspot.com/-6-CEr1rzAd4/TwwD53NNvWI/AAAAAAAAA7o/9EcEwfgkjV0/s400/2.jpg" width="400" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;">New Toyota อแวนซ่าปรับโฉมเริ่มต้น5.69แสน</td></tr>
</tbody></table>นายวิเชียร เอมประเสริฐสุข รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า กลุ่มลูกค้าหลักของอแวนซา ได้แก่ คนหนุ่มสาว ช่วงอายุประมาณ 25-35 ปี หรือเพิ่งเริ่มต้นชีวิตครอบครัว ใช้เหตุผลในการใช้จ่าย ซึ่งเรามั่นใจว่า อแวนซา ใหม่ จะเป็นรถยนต์อเนกประสงค์ 5 ประตู 7 ที่นั่ง ที่มีความคุ้มค่าและง่ายแก่การเป็นเจ้าของ ทั้งในด้านของราคาและความเปี่ยมอรรถประโยชน์ใช้สอย สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี โดยมีเป้าหมายการขายในช่วงแนะนำ 3 เดือนแรกประมาณเดือนละ 500 คัน<br />
<table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto; text-align: center;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="http://4.bp.blogspot.com/-Xwst7HXi0FY/TwwD5TrQNnI/AAAAAAAAA7c/Sj3GDVWrrrs/s1600/3.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" height="300" src="http://4.bp.blogspot.com/-Xwst7HXi0FY/TwwD5TrQNnI/AAAAAAAAA7c/Sj3GDVWrrrs/s400/3.jpg" width="400" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;">New Toyota อแวนซ่าปรับโฉมเริ่มต้น5.69แสน</td></tr>
</tbody></table>อแวนซ่าเปิดตัวสู่ตลาดเมืองไทยครั้งแรก เมื่อเดือนกรกฎาคม ปี พ.ศ. 2547 ในรูปแบบรถยนต์นั่งแนวใหม่ “Compact Multi - Purpose Vehicle” มียอดขายสะสมนับจากการเปิดตัวจนกระทั่งปัจจุบัน 24,133 คัน* (* ยอดจำหน่ายตั้งแต่เปิดตัวปี 2547 - เดือนพฤศจิกายน 2554) อแวนซ่ามีจำหน่าย 3 รุ่นคือ 1.5 S เกียร์อัตโนมัติ ราคา 699,000 บาท 1.5 G เกียร์อัตโนมัติ ราคา 659,000 บาท และ 1.5 E เกียร์ธรรมดา ราคา 569,000 บาท<br />
<table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto; text-align: center;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="http://4.bp.blogspot.com/-Ep-j1vfGzfw/TwwD5d64QiI/AAAAAAAAA7M/n7NZ7rjB72g/s1600/4.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" height="300" src="http://4.bp.blogspot.com/-Ep-j1vfGzfw/TwwD5d64QiI/AAAAAAAAA7M/n7NZ7rjB72g/s400/4.jpg" width="400" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;">New Toyota อแวนซ่าปรับโฉมเริ่มต้น5.69แสน</td></tr>
</tbody></table><table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto; text-align: center;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="http://2.bp.blogspot.com/-gfAY23Ei82E/TwwD5b5-9EI/AAAAAAAAA7E/rUWIEHJpRdI/s1600/5.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" height="278" src="http://2.bp.blogspot.com/-gfAY23Ei82E/TwwD5b5-9EI/AAAAAAAAA7E/rUWIEHJpRdI/s400/5.jpg" width="400" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;">New Toyota อแวนซ่าปรับโฉมเริ่มต้น5.69แสน</td></tr>
</tbody></table>ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์<br />
<br />
<br />
<script type="text/javascript"><!--
google_ad_client = "ca-pub-8193718851842932";
/* new10/11 */
google_ad_slot = "2472841017";
google_ad_width = 336;
google_ad_height = 280;
//-->
</script><br />
<script type="text/javascript"
src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js">
</script>newtoyotahttp://www.blogger.com/profile/13151539341201504178noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-9018618897111238733.post-9334699242939461852012-01-05T21:45:00.000-08:002012-01-05T21:45:43.681-08:00โตโยต้าโชว์นวัตกรรมล้ำยุค ในงานบีโอไอแฟร์2011<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://4.bp.blogspot.com/-UsAxfi2Rey0/TwaJCxdEUYI/AAAAAAAAA64/8bOO08H9sQ4/s1600/1.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="267" src="http://4.bp.blogspot.com/-UsAxfi2Rey0/TwaJCxdEUYI/AAAAAAAAA64/8bOO08H9sQ4/s400/1.jpg" width="400" /></a></div>โตโยต้าโชว์นวัตกรรมล้ำยุค ในงานบีโอไอแฟร์2011 ยักษ์ใหญ่ “โตโยต้า” ที่ทุ่มงบสร้างพาวิลเลียนสะท้อนความทันสมัยและอนุรักษ์พลังงาน แสดงความเป็นผู้นำนวัตกรรมการขับเคลื่อนสู่อนาคตที่ยั่งยืน พัฒนาคุณภาพชีวิตควบคู่ไปกับการปฏิวัติเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ภายใต้แนวคิด Toyota Leads The Way Towards Better Sustainable Mobility for Society<br />
<a name='more'></a><br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://4.bp.blogspot.com/-GsAhLJxhpB8/TwaJCkZZURI/AAAAAAAAA6s/6AyENN-YiPU/s1600/2.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="311" src="http://4.bp.blogspot.com/-GsAhLJxhpB8/TwaJCkZZURI/AAAAAAAAA6s/6AyENN-YiPU/s400/2.jpg" width="400" /></a></div>บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เข้าร่วมจัดแสดงในงาน บีโอไอแฟร์ เป็นครั้งที่ 3 โดยในครั้งนี้จัดแสดงบนพื้นที่ขนาด 2,000 ตารางเมตร ริมทะเลสาบเมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 5 - 20 มกราคม 2555 ภายใต้แนวคิด “Toyota Leads The Way Towards Better Sustainable Mobility Society” เพื่อต้องการสื่อถึง การสร้างสมดุลระหว่างมนุษย์ เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อมอย่างกลมกลืนและก่อให้เกิดสังคมแห่งความยั่งยืน ที่ได้รับการออกแบบ โดยคำนึงถึงการใช้พลังงานอย่างคุ้มค่า ควบคู่กับความล้ำสมัย เริ่มจากรูปลักษณ์ภายนอกของพาวิลเลี่ยนที่ได้แรงบันดาลใจมาจากการผสมผสานระหว่างธรรมชาติและความทันสมัยเข้าไว้ด้วยกัน ให้ความ รู้สึกที่กลมกลืนของเทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อมที่อยู่เคียงคู่กัน สะท้อนถึงความทันสมัยควบคู่ไปกับการอนุรักษ์พลังงานด้วยผนังลายฉลุรอบอาคารเพื่อปกป้องความร้อนจากแสงอาทิตย์ พร้อมกระจกม่านน้ำขนาดใหญ่ด้าน หน้าอาคาร ที่มีคุณสมบัติทั้งสามารถช่วยลดปริมาณความร้อนและลดการใช้พลังงาน พร้อมพื้นที่เพื่อการพักผ่อนด้วยสวนสีเขียว เพิ่มความร่มรื่นท่ามกลางนวัตกรรมอันทันสมัยในโตโยต้าพาวิลเลี่ยน ทั้งนี้ผู้เข้าร่วมชมโตโยต้าพาวิลเลี่ยนจะได้พบกับเรื่องราวจากปัจจุบันสู่อนาคต กับเทคโนโลยีของโตโยต้า โดยแบ่งออกเป็น 3 โซน<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://4.bp.blogspot.com/-MLCH3Rd5Byg/TwaJCXuCqDI/AAAAAAAAA6c/iiQ1VUM1KPg/s1600/3.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="273" src="http://4.bp.blogspot.com/-MLCH3Rd5Byg/TwaJCXuCqDI/AAAAAAAAA6c/iiQ1VUM1KPg/s400/3.jpg" width="400" /></a></div>ภายในอาคารของโตโยต้า นอกมีจุดผักผ่อนในสวนสีเขียว ยังได้แบ่งออกเป็น 3 โซน แสดงเรื่องราวจากปัจจุบันสู่อนาคต กับการพัฒนาเทคโนโลยีของโตโยต้า โดยโซนแรกแสดงการมีส่วนร่วมด้านความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กร ซึ่งอีกโซนจะพบกับหุ่นยนต์แห่งโลกอนาคต “Partner Robot” ที่พัฒนาเป็นผู้ช่วยมนุษย์ มาแสดงความสามารถพิเศษให้ผู้เข้าชมอย่างใกล้ชิด รวมถึงยานพาหนะไฟฟ้าเคลื่อนที่แบบพกพา “Whee” พร้อมสัมผัสความล้ำสมัยไปกับรถต้นแบบ “Prius C” ที่สะท้อนความเป็นผู้นำนวัตกรรมยานยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://2.bp.blogspot.com/-6rUC909docc/TwaJCBG9-hI/AAAAAAAAA6U/Kl9KAUYaFr8/s1600/4.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="400" src="http://2.bp.blogspot.com/-6rUC909docc/TwaJCBG9-hI/AAAAAAAAA6U/Kl9KAUYaFr8/s400/4.jpg" width="267" /></a></div>โซนที่ 1. การอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขกับโตโยต้า (Happy Living With Toyota)<br />
<br />
จัดแสดงการมีส่วนร่วมด้านความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กรตลอดห่วงโซ่ธุรกิจ ทั้งในด้านสิ่งแวดล้อมและชุมชน และด้านความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนในโครงการ “ถนนสีขาว” ซึ่งผู้เข้าชมทุกท่านจะได้พบกับด้านสิ่งแวดล้อมและชุมชน รวมถึงด้านความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://2.bp.blogspot.com/-dBOzwpisfqk/TwaJBx-2GnI/AAAAAAAAA6I/A0_8p5mSEa8/s1600/5.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="246" src="http://2.bp.blogspot.com/-dBOzwpisfqk/TwaJBx-2GnI/AAAAAAAAA6I/A0_8p5mSEa8/s400/5.jpg" width="400" /></a></div>โซนที่ 2. ก้าวไปกับเทคโนโลยีอันล้ำสมัยกับโตโยต้า (Advanced Technology With Toyota)<br />
<br />
นอกจากรถยนต์ที่ประหยัดพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โตโยต้าได้พัฒนาหุ่นยนต์ Partner Robot เพื่อให้เป็นผู้ช่วยของมนุษย์ ที่มีทั้งความฉลาดและอ่อนโยน โดยได้นำวิทยาการของอุตสาหรรมหุ่นยนต์มาผสานกับสุดยอดเทคโนโลยีจากอุตสาหกรรมยานยนต์ และอุตสาหกรรมไอที โดยแบ่งแนวทางการพัฒนาออกเป็น 4 ด้าน ด้านการแพทย์ (Medical and Welfare support) ด้านการเดินทาง (Mobility support) ด้านงานบ้าน(Housework support) และด้านโรงงาน(Manufacture support) เพื่อเน้นพัฒนาความสามารถเฉพาะทางให้ดีที่สุด<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://3.bp.blogspot.com/-cK5rXzia-tY/TwaId3UH9EI/AAAAAAAAA58/eTdE74GTcw8/s1600/6.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="266" src="http://3.bp.blogspot.com/-cK5rXzia-tY/TwaId3UH9EI/AAAAAAAAA58/eTdE74GTcw8/s400/6.jpg" width="400" /></a></div>โตโยต้าโชว์นวัตกรรมล้ำยุค ในงานบีโอไอแฟร์2011<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://4.bp.blogspot.com/-eBgfUHive08/TwaIdWEOTqI/AAAAAAAAA5w/FSaLdGLzuPI/s1600/7.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="267" src="http://4.bp.blogspot.com/-eBgfUHive08/TwaIdWEOTqI/AAAAAAAAA5w/FSaLdGLzuPI/s400/7.jpg" width="400" /></a></div>โซนที่ 3. การใช้ชีวิตอย่างมีความสุขที่ยั่งยืนในอนาคตกับโตโยต้า (Sustainable Future Living With Toyota)<br />
<br />
สัมผัสรูปแบบการใช้ชีวิตและการเชื่อมต่อของเทคโนโลยีในโลกอนาคตที่มีระบบการจัดสรรการใช้พลังงานสำหรับการดำเนินชีวิต เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าจากการใช้พลังงานมากที่สุด<br />
<br />
1. Smart Grid ระบบโครงข่ายพลังงานอัจฉริยะ ที่จัดสรรการนำพลังงานไฟฟ้าที่ผลิตจากแสงอาทิตย์และลม มาใช้รวมกับพลังงานไฟฟ้าที่ผลิตจากโรงไฟฟ้า <br />
2. Prius Plug - in รถยนต์ไฮบริดที่สามารถเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จไฟฟ้าได้ มาพร้อมกับระบบแบตเตอรีไฮบริดที่มีประสิทธิสูงขึ้น ทำให้รถสามารถวิ่งได้ ระยะทางมากขึ้น ในโหมดที่ใช้พลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว (EV mode) <br />
3. 3D Theatre จำลองบรรยากาศของโลกอนาคตแบบ 3 มิติ ให้ความรู้สึกเสมือนเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตในโลกอนาคตที่มีการนำระบบ Smart Grid มาใช้ร่วมกับ รถยนต์ Prius Plug-in และระบบโตโยต้า สมาร์ท จีบุ๊ค ที่ใช้เทคโนโลยี เทเลเมทิกส์ในการสื่อสารและรับส่งข้อมูลต่างๆ<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://2.bp.blogspot.com/-b79J1NL3aL8/TwaIdGAtSvI/AAAAAAAAA5o/3Ru2iacFyeQ/s1600/8.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="267" src="http://2.bp.blogspot.com/-b79J1NL3aL8/TwaIdGAtSvI/AAAAAAAAA5o/3Ru2iacFyeQ/s400/8.jpg" width="400" /></a></div>โตโยต้าโชว์นวัตกรรมล้ำยุค ในงานบีโอไอแฟร์2011<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://2.bp.blogspot.com/-rVaa8HYq9OQ/TwaIc3vG9gI/AAAAAAAAA5U/qtGxnoSHvn8/s1600/9.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="267" src="http://2.bp.blogspot.com/-rVaa8HYq9OQ/TwaIc3vG9gI/AAAAAAAAA5U/qtGxnoSHvn8/s400/9.jpg" width="400" /></a></div>โตโยต้าโชว์นวัตกรรมล้ำยุค ในงานบีโอไอแฟร์2011<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://2.bp.blogspot.com/-Mkit3r4tCAk/TwaIc-oeVpI/AAAAAAAAA5M/TbTcg2Fo8lY/s1600/10.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="267" src="http://2.bp.blogspot.com/-Mkit3r4tCAk/TwaIc-oeVpI/AAAAAAAAA5M/TbTcg2Fo8lY/s400/10.jpg" width="400" /></a></div>โตโยต้าโชว์นวัตกรรมล้ำยุค ในงานบีโอไอแฟร์2011<br />
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์<br />
<br />
<br />
<script type="text/javascript"><!--
google_ad_client = "ca-pub-8193718851842932";
/* new10/11 */
google_ad_slot = "2472841017";
google_ad_width = 336;
google_ad_height = 280;
//-->
</script><br />
<script type="text/javascript"
src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js">
</script>newtoyotahttp://www.blogger.com/profile/13151539341201504178noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-9018618897111238733.post-23961303860159075552011-12-20T18:45:00.000-08:002011-12-20T18:45:22.235-08:00โตโยต้า ฟัน ทู ไดรฟ์ อะเกน ในโตเกียว มอเตอร์ โชว์ 2011 ที่ประเทศญี่ปุ่น<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://3.bp.blogspot.com/-2ub0LMiuwP0/TvFH7jK9--I/AAAAAAAAA5A/cIH09GxRs1E/s1600/toyota.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="266" src="http://3.bp.blogspot.com/-2ub0LMiuwP0/TvFH7jK9--I/AAAAAAAAA5A/cIH09GxRs1E/s400/toyota.jpg" width="400" /></a></div>โตโยต้า ฟัน ทู ไดรฟ์ อะเกน ในโตเกียว มอเตอร์ โชว์ 2011 ที่ประเทศญี่ปุ่น<br />
"โตโยต้า" นำรถยนต์ต้นแบบรุ่นต่างๆ และรถรุ่นใหม่ ที่เตรียมเปิดขายในปี 2555 มาจัดแสดงในงานโตเกียว มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 42 ภายใต้คอนเซปต์ "ฟัน ทู ไดรฟ์ อะเกน" <br />
<a name='more'></a><br />
คุณคิดว่ายนตรกรรมในอนาคตของโตโยต้าจะเป็นอย่างไร? ผมคิดว่าเราคงไม่ต้องมาโต้แย้งอยู่เพียงแค่ว่ายานยนต์ในอนาคตจะเป็นรถไฟฟ้าหรือรถยนต์ปลั๊กอิน ไฮบริดเท่านั้น สิ่งที่สำคัญกว่าคือการตัดสินใจของลูกค้า ซึ่งก็ดูเหมือนว่าคงไม่ได้มีทางเลือกอยู่แค่เพียงทางเดียว<br />
<br />
นั่นเป็นคำกล่าวของ อากิโอะ โตโยดะกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น ที่เกิดขึ้นในงานโตเกียว มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 42 สำหรับปีนี้ทางโตโยต้า ประเทศไทย ได้เชิญสื่อมวลชนกว่า 40 ชีวิต เข้าร่วมสัมผัสความก้าวหน้าของอุตสาหกรรมยานยนต์<br />
<br />
สำหรับปีนี้บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ได้นำรถยนต์ต้นแบบรุ่นต่าง ๆ และรถรุ่นใหม่ ที่เตรียมเปิดขายในปี 2555 ซึ่งถือเป็นไฮไลต์ของการจัดแสดงนวัตกรรมยานยนตร์ครั้งนี้ โดยมาพร้อมกับวลีเด็ด “ฟัน ทู ไดรฟ์ อะเกน” ที่จะกลับมากระตุ้นความรู้สึกให้ผู้คนอยากจะขับรถอีกครั้งเช่นเดียวกับยุคทศวรรษ 1980<br />
<br />
สำหรับรถยนต์ที่นำมาโชว์ประกอบด้วย รถต้นแบบที่สื่อถึงนิยามของอนาคตที่เชื่อมต่อผู้คน ยานยนต์ และสังคมเข้าไว้ด้วยกัน รวมทั้งรถสปอร์ต ขับเคลื่อนล้อหลัง ขนาดเล็กที่ตอกย้ำถึงความสนุกสนานในการขับขี่ นอกจากนี้ยังมีรถอีโคคาร์แห่งอนาคตอันแสนประหยัด โดยรถที่เป็นไฮไลต์ คือโตโยต้า ฟัน-วี รถต้นแบบสุดไฮเทค ที่สามารถเชื่อมต่อระบบการสื่อสารของโลกได้อย่างเหลือเชื่อ<br />
<br />
86 รถสปอร์ตขับเคลื่อนล้อหลัง ขนาดเล็กที่โตโยต้าร่วมกับซูบารุพัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคได้อย่างดี รถ 86 ประกอบไปด้วยเครื่องยนต์ D-4S แบบกระบอกสูบแนวราบทำงานตรงข้ามกัน (Horizontally Opposed) เครื่องแรกของโลก ซึ่งเป็นการผสมผสานกันระหว่างเทคโนโลยีเครื่องยนต์ของรถซูบารุกับเทคโนโลยีหัวฉีดแบบฉีดตรงของโตโยต้า เป็นรถสปอร์ต ขนาดเล็กที่มีน้ำหนักเบา จุดศูนย์ถ่วงต่ำ เกาะถนนเป็นเลิศ<br />
<br />
พริอุส ปลั๊กอิน ไฮบริด ยานยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่ผสมผสานคุณลักษณะของรถยนต์ไฟฟ้าขนานแท้ กับรถยนต์ไฮบริดที่ใช้พลังงานจากน้ำมันเชื้อเพลิง โดยติดตั้งแบตเตอรี่ลิเธียมอิออนศักยภาพสูงรุ่นใหม่ที่สามารถชาร์จไฟบ้านได้โดยตรง ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเพียง 57 กม./ลิตร คาดว่ารถยนต์รุ่นนี้จะเป็นอีโคคาร์ชั้นนำแห่งอนาคตแน่นอน โดยเริ่มขายจริงช่วงต้นปี 2555<br />
<br />
เอฟซีวี-อาร์ รถซีดานต้นแบบแห่งอนาคตที่ใช้พลังงานจากเซลล์เชื้อเพลิง โดยใช้แหล่งพลังงานจากไฮโดรเจน ซึ่งถือเป็นแหล่งพลังงานที่สะอาด ทั้งยังง่ายต่อการจัดเก็บและขนย้าย แท่งเซลล์เชื้อเพลิงประกอบด้วยถังใส่ไฮโดรเจนแรงดันสูง 70 เมกะปาสคาล สามารถวิ่งได้ 700 กม. หรือมากกว่านั้น แหล่งข่าวแจ้งว่ารถรุ่นนี้จะเปิดตัวในปี 2558<br />
<br />
เอฟที-อีวี 3 นวัตกรรมยานยนต์อีโคคาร์พลังงานไฟฟ้าที่ปราศจากการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อย่างสิ้นเชิง ขนาดกะทัดรัด ตัวถังมีน้ำหนักเบาเหมาะกับการเดินทางระยะสั้น ใช้แบตเตอรี่ลิเธียมอิออน เมื่อชาร์จเต็มสามารถวิ่งได้ถึง 105 กม. ซึ่งโตโยต้าตั้งใจจะปล่อยสู่ตลาดในปี 2555<br />
<br />
อะควา ยานพาหนะขนาดกะทัดรัดราคาปานกลางที่พัฒนาขึ้นเพื่อตอบสนองผู้พิสมัยรถยนต์ไฮบริด โดยผสมผสานคุณลักษณะของรถคอมแพ็กกับรถไฮบริด เครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร ทำให้ประหยัดเชื้อเพลิง มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเพียง 35.4 กม./ลิตร<br />
<br />
นอกจากร่วมชมรถในฝันแล้ว โตโยต้ายังนำสื่อมวลชนร่วมสัมผัสการขับขี่อย่างปลอดภัยที่ศูนย์อบรมของโมบิลิตัส ซึ่งอยู่ในบริเวณสนามฟูจิสปีดเวย์ปิดท้ายการเดินทางครั้งนี้.<br />
<br />
พานิช บัณฑราภิวัตน์<br />
ที่มาเดลินิวส์newtoyotahttp://www.blogger.com/profile/13151539341201504178noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-9018618897111238733.post-39290179594936285332011-12-18T10:37:00.000-08:002011-12-18T10:37:14.424-08:00New Toyota Camry : สำหรับทำตลาดที่ออสเตรเลีย<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://2.bp.blogspot.com/--nfwPJLgwtE/Tu4x95Je8SI/AAAAAAAAA40/zniAqDUG2SQ/s1600/1.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="266" src="http://2.bp.blogspot.com/--nfwPJLgwtE/Tu4x95Je8SI/AAAAAAAAA40/zniAqDUG2SQ/s400/1.jpg" width="400" /></a></div>New Toyota Camry : สำหรับทำตลาดที่ออสเตรเลีย หลังจากมีการเปิดตัวออกมาให้สัมผัสในตลาด 3 แห่ง ทั้งสหรัฐอเมริกา ยูเครน และญี่ปุ่นแล้ว ในตอนนี้ โตโยต้ามีการเผยอีกเวอร์ชันของคัมรี่ออกมาอีก กับรุ่น AU Version หรือรุ่นสำหรับขายในตลาดออสเตรเลียด้วยภาพลักษณ์ที่ดูสวยสปอร์ตขึ้น <br />
<a name='more'></a>โดยจะมีขาย 2 แบบ คือ รุ่นธรรมดา และตัวแรงมาดสปอร์ตที่มีคำว่า Atara ต่อท้ายชื่อคัมรี่<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://2.bp.blogspot.com/-9Zqeg2j-73I/Tu4x9AmtyTI/AAAAAAAAA4o/68x0qaTQjW0/s1600/2.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="266" src="http://2.bp.blogspot.com/-9Zqeg2j-73I/Tu4x9AmtyTI/AAAAAAAAA4o/68x0qaTQjW0/s400/2.jpg" width="400" /></a></div>สำหรับเวอร์ชันออสเตรเลียจะอิงหน้าตาหลักร่วมกับรุ่นที่ขายในตลาดอเมริกาเหนือ แต่จะมีการปรับเปลี่ยนเล็กน้อยตรงที่กระจังและกันชนหน้า ซึ่งออกแบบให้เน้นความสปอร์ต และดูโฉบเฉี่ยวมากขึ้น ส่วนด้านท้ายยึดรายละเอียดหลักร่วมกัน โดยเดวิด บัตต์เนอร์ บอสใหญ่ของโตโยต้า ออสเตรเลียที่ดูแลในด้านงานขายเปิดเผยว่า รถยนต์รุ่นนี้จะได้รับการผลิตที่โรงงานของโตโยต้าในเมืองเมลเบิร์น และจะมีการส่งออกไปขายในตลาดตะวันออกกลาง รวมถึงอีก 12 ประเทศทั่วโลกด้วย<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://2.bp.blogspot.com/-MV5VfLaLJu8/Tu4x9JTNl4I/AAAAAAAAA4U/bA5yf98lF2o/s1600/3.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="266" src="http://2.bp.blogspot.com/-MV5VfLaLJu8/Tu4x9JTNl4I/AAAAAAAAA4U/bA5yf98lF2o/s400/3.jpg" width="400" /></a></div>“นอกจากการขายในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์แล้ว ตลาดหลักของคัมรี่รุ่นนี้คือ ประเทศต่างๆ ในตะวันออกกลาง เช่น ซาอุดิอาระเบีย ซึ่งคาดว่ายอดรายได้จากการส่งออกคัมรี่ไปขายยังตลาดเหล่านี้จะมีมากกว่า 1 พันล้านเหรียญออสเตรเลีย (31,000 ล้านบาท)” บัตต์เนอร์ กล่าว<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://4.bp.blogspot.com/-HPsmu60VRjY/Tu4x8wIALII/AAAAAAAAA4M/7pmZngr46do/s1600/4.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="266" src="http://4.bp.blogspot.com/-HPsmu60VRjY/Tu4x8wIALII/AAAAAAAAA4M/7pmZngr46do/s400/4.jpg" width="400" /></a></div>ในแง่รายละเอียดทางเทคนิคไม่แตกต่างจากคัมรี่ใหม่ที่เปิดตัวขายในตลาดอื่นๆ ซึ่งเครื่องยนต์หลักเป็นขุมพลัง 4 สูบ 2500 ซีซี รุ่นใหม่ โดยถ้าเป็นเวอร์ชันปกติที่เรียกว่า Altise จะมีกำลังอยู่ที่ 178 แรงม้า และ 23.5 กก.-ม. สำหรับแรงบิด <br />
<br />
ส่วนอีกรุ่นเป็นรหัสแรงที่เรียกว่า Atara ขยับความเร้าใจด้วยชุดปลายท่อไอเสียแบบคู่เพื่อช่วยในการระบายไอเสียได้ดีขึ้น ทำให้มีกำลังขยับขึ้นมาเป็น 181 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 23.9 กก.-ม. โดยเพิ่มขึ้นจากรุ่นเดิม 15% สำหรับแรงม้า และ 8% สำหรับแรงบิด<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://1.bp.blogspot.com/-Km9v1RvASOQ/Tu4x81qlDfI/AAAAAAAAA4E/feAHKebA8zE/s1600/5.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="266" src="http://1.bp.blogspot.com/-Km9v1RvASOQ/Tu4x81qlDfI/AAAAAAAAA4E/feAHKebA8zE/s400/5.jpg" width="400" /></a></div>ทั้ง 2 รุ่นส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ และมีอัตราความสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย 12.8 กิโลเมตรต่อลิตร ส่วนเครื่องยนต์ไฮบริดจะมีขายเช่นกัน แต่จะต้องรอกลางปี 2012<br />
<br />
สำหรับราคาขายของคัมรี่ ออสเตรเลียน เวอร์ชั่น จะอยู่ที่ 30,940-39,940 เหรียญออสเตรเลีย หรือคิดเป็นเงินไทยก็อยู่ระหว่าง 950,000-1,200,000 บาท ขณะที่บ้านเราการเปิดตัวน่าจะอยู่ที่งานบางกอก มอเตอร์โชว์ 2012 ที่จะมีขึ้นในวันที่ 28 มีนาคมปีหน้า<br />
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์newtoyotahttp://www.blogger.com/profile/13151539341201504178noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-9018618897111238733.post-70953745392201418132011-12-13T01:17:00.000-08:002011-12-13T01:18:18.628-08:00โตโยต้า และโดราเดม่อน ในงานโตเกียว มอเตอร์โชว์ 2011ครั้งที่ 42<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://4.bp.blogspot.com/-x7aFNx735aQ/TucWw4AXJcI/AAAAAAAAA3o/exNqda1Cm3I/s1600/1.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="200" src="http://4.bp.blogspot.com/-x7aFNx735aQ/TucWw4AXJcI/AAAAAAAAA3o/exNqda1Cm3I/s400/1.jpg" width="400" /></a></div>โตโยต้า และโดราเดม่อน ในงานโตเกียว มอเตอร์โชว์ 2011ครั้งที่ 42 “โตโยต้า-โดราเอมอน” และของวิเศษ เป็นการเปรียบเทียบโรงงานผลิตรถยนต์ของโตโยต้ากับโดราเอมอน สะท้อนถึงความช่วยเหลือในการหยิบยื่นของวิเศษให้กับเพื่อนในยามยากเสมอ <br />
<a name='more'></a>คำกล่าวเปิดบูธในงานโตเกียว มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 42 ของบอสใหญ่ค่ายยักษ์ อาคิโอะ โตโยดะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น โดยเน้นการขยายความแนวคิด Reborn และ “Fun to Drive, Again” หรือการเกิดใหม่เพื่อสนุกกับการขับขี่อีกครั้ง ตลอดจนประเด็นสำคัญที่เกี่ยวข้องกับประเทศไทย ในด้านแผนการลงทุนหลังได้รับผลกระทบจากมหาอุทกภัยที่เกิดขึ้น<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://2.bp.blogspot.com/-tluJnOa01Sc/TucWwpcmQmI/AAAAAAAAA3Y/XhAga1g-YNw/s1600/2.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="266" src="http://2.bp.blogspot.com/-tluJnOa01Sc/TucWwpcmQmI/AAAAAAAAA3Y/XhAga1g-YNw/s400/2.jpg" width="400" /></a></div>อาคิโอะ โตโยดะ สร้างขวัญและกำลังใจให้กับพนักงานและผู้ประสบชะตากรรมจากภัยธรรมชาติได้อย่างน่าประทับใจ <br />
รูปแบบยนตรกรรมในอนาคต<br />
<br />
โดยทายาทค่ายผู้ผลิตรถยนต์ที่ทรงอิทธิพลที่สุดในแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์ระดับโลก เริ่มต้นด้วยประโยคคำถามว่า คุณคิดว่ายนตรกรรมในอนาคตของโตโยต้าจะเป็นอย่างไร? ผมคิดว่าเราคงไม่ต้องมาโต้แย้งอยู่เพียงแค่ว่ายานยนต์ในอนาคตจะเป็นรถไฟฟ้าหรือรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดเท่านั้น สิ่งที่สำคัญกว่า คือ การตัดสินใจของลูกค้า ซึ่งก็ดูเหมือนว่าคงไม่ได้มีทางเลือกอยู่แค่เพียงทางเดียว ผมเชื่อว่าจะมียนตรกรรมหลากหลายรูปแบบ ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อมุ่งเน้นถึงประโยชน์การใช้งานสูงสุดตามลักษณะการใช้แต่ละรูปแบบ<br />
<br />
รถยนต์คือความสนุก<br />
<br />
ส่วนตัวแล้วผมรักในกลิ่นของน้ำมันเบนซินและเสียงของเครื่องยนต์ ซึ่งผมหวังว่ายานพาหนะในรูปแบบนี้จะไม่สูญหายไป และยานพาหนะที่ใช้เครื่องยนต์จะสร้างฝันและแรงบันดาลใจให้กับคนทุกยุคทุกสมัย ผมคิดว่าถ้ามันไม่สนุก มันก็ไม่ใช่รถยนต์ ขณะเดียวกัน มีหลากหลายวิธีสำหรับการเดินทางจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง ซึ่งความแตกต่างระหว่างรถยนต์กับยานพาหนะชนิดอื่น คือ อิสระของผู้ขับ ซึ่งคุณสามารถเลือกเส้นทางของคุณเองได้ว่าคุณอยากไปทางไหน อยากจะแวะพักตรงไหน หรืออีกนัยหนึ่ง รถยนต์ต้องสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ขับรู้สึกสนุกกับความอิสระ<br />
<br />
เมื่อไรที่คุณคิดจะซื้อรถคันใหม่หรือเปลี่ยนแทนคันเก่า คุณคาดหวังทันทีว่าเมื่อตอนที่มือของคุณกุมพวงมาลัยและขับออกไปมันจะต้องให้ความตื่นเต้นแน่นอน ซึ่งผมเชื่อว่าต่อให้เทคโนโลยียานยนต์จะล้ำหน้าแค่ไหน ความรู้สึกเหล่านี้มันจะยังต้องคงไว้<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://2.bp.blogspot.com/-uJsOjJfUx9g/TucWwdfntII/AAAAAAAAA3Q/UXmbD2pIvzc/s1600/3.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="217" src="http://2.bp.blogspot.com/-uJsOjJfUx9g/TucWwdfntII/AAAAAAAAA3Q/UXmbD2pIvzc/s400/3.jpg" width="400" /></a></div>แผนผังบูธโตโยต้าในงานโตเกียว มอเตอร์โชว์ 2011 <br />
<br />
เกิดใหม่เพื่อสนุกกับการขับขี่<br />
<br />
โตโยต้าได้สร้างวลี “Fun to Drive” ขึ้นในช่วงกลางยุค 80 (คำขวัญ “สนุกกับการขับขี่” โตโยต้าเคยใช้เป็นคำโฆษณาในประเทศญี่ปุ่นระหว่างปี 2527-2530) แต่ในปัจจุบันคนหนุ่มสาวมีความสนใจในรถยนต์น้อยลง เนื่องจากมีสิ่งอื่นที่น่าสนใจมากกว่า ในฐานะผู้ผลิตรถยนต์ ผมคิดว่านี้เป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจมาก และด้วยเหตุนี้ ทำให้เรามุ่งมั่นที่จะผลิตรถยนต์ที่กระตุ้นความรู้สึก “Fun to Drive, Again” ขึ้นมาอีกครั้ง และนี้ถือเป็นการประกาศเจตนารมย์อันแน่วแน่ของโตโยต้า<br />
<br />
ร่วมทุกข์-สุข สร้างอนาคตใหม่<br />
<br />
ทุกท่านคงทราบดีว่าเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ของญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา ได้สร้างผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อประเทศญี่ปุ่นเพียงใด ซึ่งปัจจุบันยังคงมีประชาชนที่ได้รับผลกระทบและต้องดำเนินชีวิตอยู่อย่างสิ้นหวัง และในขณะที่ประเทศญี่ปุ่นเพิ่งจะเริ่มฟื้นจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ประเทศไทยก็มาประสบกับกับเหตุการณ์มหาอุทกภัยที่สร้างความเสียหายเป็นอย่างมาก และเมื่อเร็วๆ นี้ ผมได้เดินทางไปประเทศไทย ท่ามกลางความไม่แน่นอนว่าน้ำจะท่วมมากขึ้นอีกหรือไม่แต่ผมรู้สึกประทับใจมากเมื่อผมพบว่าไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นเช่นไรคนไทยยังคงมีทัศนคติที่ดี <br />
<br />
หลังจากทั้ง 2 เหตุการณ์นี้ ผมได้ถามตัวเองว่าโตโยต้าสามารถทำอะไรได้บ้าง และผมก็มีคำตอบว่าเราจะร่วมทุกข์ร่วมสุขไปด้วยกันกับผู้คนในท้องถิ่นนั้นๆ ในการร่วมสร้างอนาคตใหม่ ผ่านอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ไปด้วยกัน<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://1.bp.blogspot.com/-cSE6_nTu488/TucWwH5T6RI/AAAAAAAAA3A/k-93d5Xklv8/s1600/4.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="266" src="http://1.bp.blogspot.com/-cSE6_nTu488/TucWwH5T6RI/AAAAAAAAA3A/k-93d5Xklv8/s400/4.jpg" width="400" /></a></div>“โตโยต้า ฟัน-วีไอไอ” หนึ่งในดาวเด่นที่มาอวดโฉมในงานโตเกียว มอเตอร์โชว์ 2011ครั้งที่ 42 <br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://1.bp.blogspot.com/-2HglAI0hTn8/TucWvxW8JXI/AAAAAAAAA24/ryOy0s-7qMw/s1600/5.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="286" src="http://1.bp.blogspot.com/-2HglAI0hTn8/TucWvxW8JXI/AAAAAAAAA24/ryOy0s-7qMw/s400/5.jpg" width="400" /></a></div>“GT-86” พระเอกในบูธของโตโยต้าที่กลับมาเกิดใหม่เพื่อสนุกกับการขับขี่อย่างแท้จริง <br />
<br />
ยืนยันไม่ย้ายการลงทุนจากไทย<br />
<br />
โตโยต้าไม่มีความคิดที่จะถอนฐานการผลิตออกจาก Tohoku (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศญี่ปุ่น) และประเทศไทย ในทางกลับกันเราหวังว่าสิ่งนี้จะเป็นแรงผลักดันในการทำงานร่วมกับคนในท้องถิ่นในการบูรณะและฟื้นฟู ซึ่งผมเชื่อว่ามันเป็นไปได้เพราะโตโยต้ามีความมั่นใจและเชื่อมั่นในศักยภาพของ ท้องถิ่น บุคลากรและเทคโนโลยี ที่ได้พัฒนาผ่านการผลิตรถยนต์ทั้งในประเทศญี่ปุ่น ประเทศไทย และ ประเทศอื่นๆ ทั่วโลก<br />
<br />
“โตโยต้า-โดราเอมอน” และของวิเศษ<br />
<br />
ในประเทศญี่ปุ่น เราได้นำ “โดราเอมอน” เข้ามาอยู่ในภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ของเรา เพราะโดราเอมอนจะใช้อุปกรณ์วิเศษที่ทันสมัยต่างๆ เพื่อช่วยเหลือเพื่อนของเขาในยามที่เพื่อนประสบปัญหา ซึ่งผมเชื่อว่า โดราเอมอน ตัวจริงนั้นเปรียบเสมือนโรงงานผลิตของเรา ไม่ว่าเหตุการณ์ธรรมชาติจะท้าทายการผลิตแค่ไหน จะมีอุปสรรคให้ฝ่าฟันมากเท่าไร เราจะยังคงความเชื่อมั่นใน ศักยภาพการผลิต และการก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคงทีละก้าว โดยคำนึงถึงสังคมภายใต้วิสัยทัศน์ยนตรกรรมแห่งอนาคต<br />
<br />
สุดท้ายนี้ผมขอแรงสนับสนุนจากทุกท่านให้กับสโลแกนของเรา “Fun to Drive, Again” หรืออีกครั้งกับความสนุกในการขับขี่ และ “Never Give up” สำหรับการไม่เคยที่จะยอมแพ้<br />
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์newtoyotahttp://www.blogger.com/profile/13151539341201504178noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-9018618897111238733.post-60640609758555532452011-12-10T06:59:00.000-08:002011-12-10T06:59:44.796-08:00โตโยต้า พริอุส พลั๊ก-อิน(Toyota PriusPHV)ขายต้นปีหน้า เคาะราคาขาย3.2ล้านเยน(หรือ 1.27 ล้านบาท)<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://1.bp.blogspot.com/-6tBaHJoxO0A/TuNx3xSEhHI/AAAAAAAAA2o/fOzYgqSw9e8/s1600/1.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="263" src="http://1.bp.blogspot.com/-6tBaHJoxO0A/TuNx3xSEhHI/AAAAAAAAA2o/fOzYgqSw9e8/s400/1.jpg" width="400" /></a></div>โตโยต้า พริอุส พลั๊ก-อิน(Toyota PriusPHV)ขายต้นปีหน้า เคาะราคาขายอยู่ที่ 3.2ล้านเยน(หรือประมาณ 1.27 ล้านบาท) บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปของประเทศญี่ปุ่นเปิดเผยว่า บริษัทเริ่มเปิดให้มีการสั่งจองรถยนต์ไฮบริด พริอุส (PriusPHV) ผ่านดีลเลอร์ทั่วประเทศแล้วซึ่งสามารถเสียบปลั๊กชาร์จแบตเตอรี่จากไฟบ้านและเตรียมออกวางตลาดที่ญี่ปุ่นในเดือนมกราคม 2012 ปีหน้า<br />
<a name='more'></a><br />
โตโยต้าระบุว่า รถรุ่นดังกล่าวจะนำออกวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 30 มกราคม 2012 จะมีราคาอยู่ที่คันละ3.2 ล้านเยน หรือประมาณ 1.27 ล้านบาท โดยในตลาดสหรัฐฯตั้งราคาขายไว้ที่32,000 เหรียญ ขณะที่ในตลาดยุโรป ตั้งราคาขายไว้ที่ 37,000 ยูโรโดยตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 35,000-40,000 คันในญี่ปุ่น และ 60,000คันทั่วโลก ซึ่งเริ่มเปิดให้สั่งจองตั้งแต่วันนี้ และมีกำหนดส่งมอบเฉพาะในญี่ปุ่นในเดือนมกราคมนี้เช่นกันแต่ไม่ได้เปิดเผยราคาและวันเวลาที่จะนำรถรุ่นนี้ออกวางจำหน่ายในต่างประเทศ <br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://4.bp.blogspot.com/-GkBu4rTkuQU/TuNx3sk0KyI/AAAAAAAAA2U/maur7fuZ394/s1600/3.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="256" src="http://4.bp.blogspot.com/-GkBu4rTkuQU/TuNx3sk0KyI/AAAAAAAAA2U/maur7fuZ394/s400/3.jpg" width="400" /></a></div>โตโยต้ากล่าวว่ารถรุ่นนี้ตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการบางอย่างที่เป็นนวัตกรรมมากกว่ารถไฮบริดที่ใช้กันอยู่ทั่วไปแต่ก็มีความกังวลว่ารถจะตายกลางทางเหมือนกับที่จะเกิดขึ้นกับรถที่ใช้ไฟฟ้าแต่เพียงอย่างเดียว ด้านนายทาเคชิ อูชิยามาดะรองประธานบริหารโตโยต้ามอเตอร์ เปิดเผยว่ารถรุ่นดังกล่าวจะเป็นรุ่นเพื่อสิ่งแวดล้อมต้นแบบของรถยนต์ในอนาคตตามหลังเทคโนโลยีไฮบริด<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://1.bp.blogspot.com/-q2Z_H3XJ-Ek/TuNx3p49TeI/AAAAAAAAA2c/8pMHxxTtmgc/s1600/2.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="301" src="http://1.bp.blogspot.com/-q2Z_H3XJ-Ek/TuNx3p49TeI/AAAAAAAAA2c/8pMHxxTtmgc/s400/2.jpg" width="400" /></a></div>โตโยต้า พริอุส PHVจะใช้ชุดแบตเตอรี่ลิเธี่ยมไอออนขนาดเล็กที่รองรับการชาร์จไฟแบบพลั๊ก-อินซึ่งแบตเตอรี่ชนิดนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและขยายระยะทางทำการให้กับรถไฮบริดรุ่นนี้ถึง 21 กิโลเมตร ที่ระดับความเร็วรถ 100กิโลเมตร/ชั่วโมง ซึ่งทันที่ที่แบตเตอรี่หมดระบบจะเปลี่ยนไปสู่โหมดการทำงานแบบไฮบริดและทำงานในแบบพริอุสทั่วไปการชาร์จไฟให้กับรถรุ่นนี้จนเต็มความจุแบตเตอรี่จะใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงจากการใช้ไฟบ้านในยุโรปที่ระดับแรงดัน 110 โวลท์ และลดเหลือ 90 นาทีหากแรงดันไฟฟ้าขนาด 220 โวลท์<br />
<br />
Toyota เผยว่า อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงตามมาตรฐานของยุโรปของโตโยต้าพริอุส PHV อยู่ที่ 2.2 ลิตร/100 กิโลเมตร (45.45 กิโลเมตร/ลิตร)ส่วนอัตราการคายคาร์บอนไดอ็อกไซด์ อยู่ที่ 49 กรัม/กิโลเมตรหรือประมาณครึ่งหนึ่งของรุ่นมาตรฐาน<br />
ที่มาหนังสือพิมพ์ประชาติธุรกิจnewtoyotahttp://www.blogger.com/profile/13151539341201504178noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-9018618897111238733.post-39178743748768286712011-12-08T07:20:00.000-08:002011-12-08T07:20:49.518-08:00New Toyota GT-86 เปิดตัวในงานมอเตอร์โชว์ ที่โตเกียว<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://2.bp.blogspot.com/-fyd5dIP78X8/TuDUsHe_EJI/AAAAAAAAA2I/5c87C1cgd_0/s1600/1.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="245" src="http://2.bp.blogspot.com/-fyd5dIP78X8/TuDUsHe_EJI/AAAAAAAAA2I/5c87C1cgd_0/s400/1.jpg" width="400" /></a></div>New Toyota GT-86 เปิดตัวในงานมอเตอร์โชว์ ที่โตเกียว Toyota GT-86 : เปลี่ยนชื่อ สปอร์ตขับหลังขุมพลังบ็อกเซอร์ ได้ข้อสรุปแล้วสำหรับรถสปอร์ตขับเคลื่อนล้อหลังที่เกิดจากโครงการความร่วมมือระหว่างโตโยต้ากับซูบารุ เมื่อแบรนด์ดังของญี่ปุ่นเผยโฉมคันจริงของผลผลิตจากโปรเจ็กต์ FT-86 ออกมาแล้ว โดยใช้ชื่อในการขายว่า GT-86 สำหรับเจาะตลาดทั่วโลก ซึ่งการเปิดตัวมีขึ้นที่งานโตเกียว มอเตอร์โชว์ 2011 ต้นเดือนธันวาคมนี้<br />
<a name='more'></a><br />
ต้องบอกว่าตรงนี้ถือเป็นช่วงเวลาแห่งความพิเศษ เพราะ GT-86 ถูกเปิดตัวออกมาในช่วงของการฉลองครบรอบ 50 ปีในการเจาะตลาดรถสปอร์ตขับเคลื่อนล้อหลังของโตโยต้านับจากรุ่นแรกคือ 2000GT ในปี 1962 ส่วนผลผลิตที่เหลือซึ่งโด่งดังตามยุคสมัยของตัวเองก็มีทั้งเซลิก้า (ก่อนเปลี่ยนเป็นแบบขับเคลื่อนล้อหน้า หรือ 4 ล้อในเวลาต่อมา) ตามด้วย MR2 หรือ MR-S, โซลเรอร์ และซูปรา<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://2.bp.blogspot.com/-dJB0T80UKvI/TuDUq9z40oI/AAAAAAAAA1Y/c_AWvrIa9Ls/s1600/5.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="241" src="http://2.bp.blogspot.com/-dJB0T80UKvI/TuDUq9z40oI/AAAAAAAAA1Y/c_AWvrIa9Ls/s400/5.jpg" width="400" /></a></div>โปรเจ็กต์นี้มีจุดเริ่มต้นในปี 2009 เมื่อโตโยต้าเผยโฉม FT-86 ในงานโตเกียว มอเตอร์โชว์ เพื่อปลุกกระแสรถสปอร์ตขับเคลื่อนล้อหลังที่เคยโด่งดังในอดีตให้กลับมาอีกครั้งหนึ่ง และยึดเอาหมายเลข 86 มาเป็นชื่อรุ่นเพราะความโด่งดังของสปอร์ตรุ่นเลวิน/ทรูโน AE86 ในยุคทศวรรษที่ 1980<br />
<br />
โครงการนี้มีเป้าหมายในการผลิตรถสปอร์ตที่ขับสนุกในราคาที่ไม่แพงจนเกินไป เพราะในปัจจุบันรถสปอร์ตแบบขับเคลื่อนล้อหลังแบบบ้านๆ ได้สูญพันธุ์ไปจากตลาดแล้ว เหลือเพียงแต่พวกระดับไฮเอนด์ที่คนกลุ่มใหญ่ไม่สามารถเอื้อมถึงได้ นี่ก็เลยเป็นที่มาของโครงการรถสปอร์ตราคาเป็นมิตร (กับกระเป๋า) หรือ Affordable Sport Car <br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://4.bp.blogspot.com/-JDrdQklI2pU/TuDUrE_NPuI/AAAAAAAAA1g/NThxIVejpnk/s1600/4.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="306" src="http://4.bp.blogspot.com/-JDrdQklI2pU/TuDUrE_NPuI/AAAAAAAAA1g/NThxIVejpnk/s400/4.jpg" width="400" /></a></div>อย่างไรก็ตาม งานนี้โตโยต้าเดินเดี่ยวไม่ได้หากไม่มีพันธมิตรมาช่วยในเรื่องของการแชร์เทคโนโลยีเพื่อลดต้นทุนในการผลิต นั่นก็เลยทำให้ซูบารุ บริษัทในเครือ FHI หรือฟูจิเฮฟวี่ อินดัสตรี้ที่โตโยต้าถือหุ้นอยู่ 16.7% เข้ามามีส่วนร่วมด้วย โดยเฉพาะในการแชร์พื้นตัวถังซึ่งรถยนต์ของซูบารุแม้ว่าจะเป็นเก๋งแบบขับเคลื่อนล้อหน้า (และ 4 ล้อตลอดเวลาในบางรุ่น) แต่จากวางเครื่องยนต์และเกียร์ของเครื่องยนต์บ็อกเซอร์จะต้องเป็นในแนวยาวตามตัวรถเหมือนกับรถยนต์ขับเคลื่อนล้อหลัง ก็เลยง่ายในการดัดแปลงให้เป็นสปอร์ตแบบขับเคลื่อนล้อหลัง ดีกว่าสร้างพื้นตัวถังขึ้นมาใหม่ทั้งชุด สะดวกทั้งงบประมาณและเวลาในการพัฒนา<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://1.bp.blogspot.com/-Y6ifhOpYX2M/TuDUrftxlHI/AAAAAAAAA1w/vn6n148TF9E/s1600/3.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="274" src="http://1.bp.blogspot.com/-Y6ifhOpYX2M/TuDUrftxlHI/AAAAAAAAA1w/vn6n148TF9E/s400/3.jpg" width="400" /></a></div>ดังนั้น โครงการนี้ก็เลยมีชื่อเรียกเล่นๆ ของชาวเน็ตว่า Toyobaru และนอกจากเวอร์ชันของโตโยต้าแล้ว ทางซูบารุเองก็มีแผนในการพัฒนาผลผลิตของตัวเองออกมาเช่นกัน และก็ได้เห็นหน้าเห็นตากันไปแล้วกับชื่อ BRZ ที่งานแอลเอ มอเตอร์โชว์ 2011 กลางเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา<br />
<br />
โตโยต้าต้องการให้สปอร์ตรุ่นนี้เข้าถึงความต้องการของลูกค้าทั่วโลกเหมือนกับชื่อ 86 ที่อยู่ในใจของบรรดานักขับทั่วโลก โดยเฉพาะพวกที่ชื่นชอบความแรงและความเร็ว พอหลังจากเปิดตัวต้นแบบเวอร์ชันแรกก็เลยมีการเปิดตัวเวอร์ชันต่างๆ ออกมาให้สัมผัสกันอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งมาถึงรุ่นจำหน่ายจริง<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://2.bp.blogspot.com/-dkMThm_xD2g/TuDUrmSJH5I/AAAAAAAAA2A/qivKHSXlR_Y/s1600/2.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="206" src="http://2.bp.blogspot.com/-dkMThm_xD2g/TuDUrmSJH5I/AAAAAAAAA2A/qivKHSXlR_Y/s400/2.jpg" width="400" /></a></div>GT-86 ถูกพัฒนาภายใต้แนวคิดและสไตล์การออกแบบที่ดัดแปลงมาจากต้นแบบรุ่นล่าสุดคือ FT-86 II ที่เปิดตัวในแฟรงค์เฟิร์ต มอเตอร์โชว์ 2011 เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ตัวรถเป็นแบบสปอร์ต 2+2 ที่นั่งซึ่งมีความยาว 4,240 มิลลิเมตร สูง 1,285 มิลลิเมตร พร้อมอัตราส่วนการกระจายน้ำหนักด้านหน้าและหลัง 53-47%<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://2.bp.blogspot.com/-bf4CWvNaigo/TuDUSRpiERI/AAAAAAAAA1I/JVUr1uC25SU/s1600/6.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="279" src="http://2.bp.blogspot.com/-bf4CWvNaigo/TuDUSRpiERI/AAAAAAAAA1I/JVUr1uC25SU/s400/6.jpg" width="400" /></a></div>ส่วนความกว้างไม่กล้าใส่ เพราะเอกสารที่แจกออกมาบอกว่า 2,570 มิลลิเมตร ซึ่งดูแล้วยังไงก็ไม่น่าใช่ และตัวเลขนี้น่าจะเป็นระยะฐานล้อมากกว่าความกว้าง ซึ่งโดยปกติแล้วถึงจะรวมกระจกมองข้างเข้าไปด้วยตัวเลขก็น่าจะอยู่ที่ 2,000 กว่าๆ เท่านั้นเอง<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://4.bp.blogspot.com/-0qsojcgxUZI/TuDURpV7TFI/AAAAAAAAA0Y/5-tY06I4_0o/s1600/10.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="239" src="http://4.bp.blogspot.com/-0qsojcgxUZI/TuDURpV7TFI/AAAAAAAAA0Y/5-tY06I4_0o/s400/10.jpg" width="400" /></a></div>หน้าที่ในการขับเคลื่อนเป็นเครื่องยนต์บ็อกเซอร์รุ่นใหม่แบบ 4 สูบที่มีการติดตั้งระบบไดเร็กต์อินเจ็กชั่น หรือ D4-S เข้าไป ส่วนความจุกระบอกสูบจริงๆ ที่อยู่ที่ 1,998 ซีซี มีอัตราส่วนการอัดอยู่ที่ 12.5 :1 รีดกำลังออกมาได้ 197 แรงม้า ที่ 7,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 20.9 กก.-ม. ที่ 6,600 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา หรืออัตโนมัติ 6 จังหวะ โดยที่ระบบกันสะเทือนด้านหน้าเป็นแบบแม็คเฟอร์สันสตรัท และด้านหลังแบบปีกนก 2 ชั้น<br />
<br />
ใครที่สนใจก็เตรียมเงินเอาไว้ได้เลย เพราะปีหน้าจะเริ่มวางขายในตลาดทั่วโลก ซึ่งหนึ่งในนั้นน่าจะมีเมืองไทยรวมอยู่ด้วย<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://3.bp.blogspot.com/-JhZZKW6xhlE/TuDURsRa3NI/AAAAAAAAA0k/WQwik8C0Gh0/s1600/9.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="246" src="http://3.bp.blogspot.com/-JhZZKW6xhlE/TuDURsRa3NI/AAAAAAAAA0k/WQwik8C0Gh0/s400/9.jpg" width="400" /></a></div>New Toyota GT-86 เปิดตัวในงานมอเตอร์โชว์ ที่โตเกียว <br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://4.bp.blogspot.com/-QUDY8p5btLE/TuDURwOGElI/AAAAAAAAA0w/c7xEymBTwoQ/s1600/8.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="263" src="http://4.bp.blogspot.com/-QUDY8p5btLE/TuDURwOGElI/AAAAAAAAA0w/c7xEymBTwoQ/s400/8.jpg" width="400" /></a></div>New Toyota GT-86 เปิดตัวในงานมอเตอร์โชว์ ที่โตเกียว <br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://4.bp.blogspot.com/-jel2uF54zbE/TuDUSJDJUBI/AAAAAAAAA04/uYU8Cm7BsNA/s1600/7.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="230" src="http://4.bp.blogspot.com/-jel2uF54zbE/TuDUSJDJUBI/AAAAAAAAA04/uYU8Cm7BsNA/s400/7.jpg" width="400" /></a></div>New Toyota GT-86 เปิดตัวในงานมอเตอร์โชว์ ที่โตเกียว <br />
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์newtoyotahttp://www.blogger.com/profile/13151539341201504178noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-9018618897111238733.post-81164469490362739222011-12-06T00:00:00.000-08:002011-12-06T00:00:56.489-08:00New Toyota (AQUA )Prius C เปิดตัวในงาน Tokyo Motor Show 2012<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://3.bp.blogspot.com/-qRC9OGum_kE/Tt3CIErXfxI/AAAAAAAAAx4/JeeYI4P0l-Q/s1600/Toyota-Aqua-1.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="266" src="http://3.bp.blogspot.com/-qRC9OGum_kE/Tt3CIErXfxI/AAAAAAAAAx4/JeeYI4P0l-Q/s400/Toyota-Aqua-1.jpg" width="400" /></a></div>New Toyota (AQUA)หรือ toyota Prius C เปิดตัวในงาน Tokyo Motor Show 2012 ครั้งที่ 42 ในประเทศญี่ปุ่น toyota AQUA เป็นชื่ออย่างเป็นทางการในงาน Tokyo Motor Show 2012 ที่ประเทศญี่ปุ่น และใช้ชื่อว่า Toyota Prius C เพื่อใช้สำหรับในการทำตลาดนอกประเทศญี่ปุ่น รูปทรงดูคล้ายกับ Yaris รุ่น 5 ประตูตัวล่าสุดแต่มีขนาดที่ใหญ่กว่าเล็กน้อย คือมีความยาวขนาด 3,995 ม.ม. กว้าง 1,695 ม.ม. และสูง 2,550 ม.ม<br />
<a name='more'></a><br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://2.bp.blogspot.com/-RGxGZKG17FY/Tt3CHcFFcJI/AAAAAAAAAxg/8IzJJIGucHU/s1600/Toyota-Aqua.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="267" src="http://2.bp.blogspot.com/-RGxGZKG17FY/Tt3CHcFFcJI/AAAAAAAAAxg/8IzJJIGucHU/s400/Toyota-Aqua.jpg" width="400" /></a></div>Toyota (AQUA )หรือ Prius C นั้นเป็นรถในตะกูลไฮบริดที่ผสมระหว่างไฟฟ้าและเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบแถวเรียงขนาด 1.5 ลิตรในการขับเคลื่อนและให้แรงม้า 74 ตัว สูงสุดที่ 4800 รอบต่อนาที เช่นเดียวกับแรงบิด111 นิวตันเมตร ที่ 4800 รอบต่อนาที และชุดมอเตอร์ไฟฟ้าที่สร้างกำลังสุงสุดได้ถึง 61 แรงม้า ให้แรงบิด 169 นิวตันเมตร และเมื่อขับเคลื่อนผสานกันล็อกพละกำลังสูงถึง 100 แรงม้า ส่งผ่านชุดเกียร์ CVT<br />
Toyota Prius C เปิดตัวด้วยเรือนร่างยาว 3,995 ม.ม. กว้าง 1,695 ม.ม. และสูง 2,550 ม.ม ที่จะว่าไปมันเสียบกลางระหว่างคอมแพ็คและซับคอมแพ็คคาร์นั่นเอง อัตราประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 40 กิโลเมตร/ลิตร<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://1.bp.blogspot.com/-lq4gjmGzPaM/Tt3CHvTrZLI/AAAAAAAAAxw/Dskc0o10wZY/s1600/Toyota-Aqua-3.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="267" src="http://1.bp.blogspot.com/-lq4gjmGzPaM/Tt3CHvTrZLI/AAAAAAAAAxw/Dskc0o10wZY/s400/Toyota-Aqua-3.jpg" width="400" /></a></div>ทางบริษัทโตโยต้าจะทำตลาดในญี่ปุ่นก่อนในชื่อ toyota AQUA ประมาณสิ้นปีนี้(2011) และจะใช้ชื่อ Toyota Prius C เพื่อใช้สำหรับในการทำตลาดนอกประเทศต่อไม่รู้ว่าอาจจะเป็นเพราะเกิดจากปัญหาน้ำท่วนในประเทศไทยหรือเปล่าทำให้ต้องเปิดทำตลาดในต่างประเทศต้องล่าช้าออกไป(ขนาดงานMotor Show ในไทย toyota ยังงดสั่งจองเลย)<br />
คลิป NEW 2012 TOYOTA AQUA(Prius C )<br />
<iframe allowfullscreen="" frameborder="0" height="285" src="http://www.youtube-nocookie.com/embed/k5wPe5Tj7-M" width="410"></iframe>newtoyotahttp://www.blogger.com/profile/13151539341201504178noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-9018618897111238733.post-32104783788868203852011-12-02T22:01:00.000-08:002011-12-02T22:01:43.050-08:00บริษัทโตโยต้าจับมือกับยามาฮ่า เปิดตัวแนวคิดจักรยานเชื่อมต่อไฟฟ้า e-bike<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://1.bp.blogspot.com/-HsAqwl-pSdU/Ttm6skInh4I/AAAAAAAAAxQ/JqTWMfWzQ84/s1600/1.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="300" src="http://1.bp.blogspot.com/-HsAqwl-pSdU/Ttm6skInh4I/AAAAAAAAAxQ/JqTWMfWzQ84/s400/1.jpg" width="400" /></a></div>บริษัทโตโยต้าจับมือกับยามาฮ่า เปิดตัวแนวคิดจักรยานเชื่อมต่อไฟฟ้า e-bike แนวความคิดรถจักรยานสองล้อและสามล้อไฟฟ้าที่สามารถเชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์ต่างๆ อย่างเช่น สมาร์ทโฟน, ระบบเครือข่ายเน็ตเวิร์กภายในบ้าน และบริการแชร์ต่างๆ กำลังจะถูกทำให้เป็นความจริงแล้วด้วยฝีมือจากทีมงานคุณภาพของโตโยต้าและยามาฮ่า<br />
<a name='more'></a><br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://2.bp.blogspot.com/-jx_DpJhadJ8/Ttm6sVWZdLI/AAAAAAAAAxI/nxuvcMmQh20/s1600/2.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="300" src="http://2.bp.blogspot.com/-jx_DpJhadJ8/Ttm6sVWZdLI/AAAAAAAAAxI/nxuvcMmQh20/s400/2.jpg" width="400" /></a></div>โดยประชากรในเมืองหลวงคาดหวังที่จะได้เห็นแนวความคิดดังกล่าวเกิดขึ้นจริงในทศวรรษถัดๆไป เหล่าผู้ผลิตรถยนต์ต่างก็กำลังมองหาหนทางเพื่อระดมประชากรให้ไม่ต้องพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลมากนัก โดยโตโยต้าได้ร่วมทีมกับยามาฮ่า เปิดตัวคู่หูแนวความคิดจักรยานไฟฟ้าในงาน 2011 Tokyo Motor Show ซึ่งถึงแม้พวกเขาจะไม่ได้เป็นผู้ผลิตรายแรกที่สนใจในการพัฒนา e-bike แต่พวกเขาจะเป็นเจ้าแรกที่แสดงให้เห็นถึงวิธีการพัฒนาที่แตกต่างไปจากเดิม ในการทำให้ EVs สามารถเชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์สมัยใหม่ได้ โดยจักรยานไฟฟ้าสามล้อ EC-Miu และจักรยานถีบสองล้อพลังงานไฟฟ้า Pas ได้ถูกออกแบบขึ้นมาเพื่อทำงานร่วมกับ Toyota Smart Center ระบบจัดการพลังงานขั้นสูงอันชาญฉลาดที่ออกแบบมาสำหรับใช้ในที่อยู่อาศัย, องค์กรธุรกิจ และบริษัท นั่นสื่อให้เห็นถึงว่า e-bike ของคุณ จะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆที่ให้คุณสามารถจัดการออนไลน์ได้ โดยผู้ใช้งาน จะสามารถเติมพลังงานให้กับ e-bike ได้ โดยใช้สถานีชาร์จไฟ G-Station เดียวกันกับที่ใช้ในยานพาหนะไฟฟ้าอื่นๆ นอกจากนี้ จะมีการฝังความสามารถไวไฟที่จะให้ผู้ขับขี่สามารถตรวจสอบเส้นทางได้ โดยอาศัยบริการระบบนำทางจากสมาร์ทโฟนของตน โดยแนวคิดจักรยานไฟฟ้านี้ จะช่วยให้มีทางเลือกในการใช้ยานพาหนะแบบสองล้อหรือสามล้อแทนสี่ล้อที่แออัดกันอยู่บนท้องถนน แต่ทั้งนี้ พวกเขายังคงมีปัญหาในการจัดการเรื่องการสร้างหมวกกันน็อค สำหรับข้อมูลรายละเอียดในตอนนี้ ยังไม่มีเพิ่มเติม ทั้งเรื่องช่วงของความเร็ว หรือเวลาในการชาร์จพลังงาน(ไฟฟ้า) แต่จากการเปรียบเทียบกับ Smart eBike จะมีช่วงของความเร็วอยู่ที่ 62 ไมล์ และมีความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 15 ไมล์ต่อชั่วโมง<br />
บริษัทโตโยต้าจับมือกับยามาฮ่า เปิดตัวแนวคิดจักรยานเชื่อมต่อไฟฟ้า e-bike<br />
ที่มา <a href="http://www.pantip.com/tech/newscols/news/011211g.shtml">pantip</a>newtoyotahttp://www.blogger.com/profile/13151539341201504178noreply@blogger.com0