โตโยต้าตั้งศูนย์เทคนิคในจีน

โตโยต้า คราวน์ ที่ขายในจีน
โตโยต้าตั้งศูนย์เทคนิคในจีน โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชัน หรือ TMC ประกาศเตรียมก่อสร้างศูนย์เทคนิค หรือ Technical Center แห่งแรกของตัวเองในประเทศจีน เพื่อปรับปรุงผลผลิตให้มีความสอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าในตลาดแห่งนี้อย่างแท้จริง หนังสือพิมพ์ People’s Daily ของจีนรายงานว่า ตอนนี้แผนการก่อสร้างได้รับไฟเขียวแล้ว และทางมาซาฮิโร่ คาตะ ประธานของโตโยต้า ไชน่าเผยว่าทางบริษัทได้เลือกทำเลที่ตั้งของศูนย์เทคนิคแห่งนี้ใกล้ๆ กับเมืองเซี่ยงไฮ้ แต่ก่อนที่จะเริ่มก่อสร้างได้ ทางโตโยต้าจะต้องได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลจีนก่อน และตอนนี้ มีการยื่นเรื่องเข้าไปแล้ว เหลือแต่การอนุมัติเท่านั้น

คาดว่าโตโยต้าจะใช้เงินลงทุนจำนวน 330-440 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 10,230-13,640 ล้านบาทสำหรับการก่อสร้างครั้งนี้ โดยก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคมที่ผ่านมา ทางโตโยต้าเพิ่งประกาศร่วมมือกับพันธมิตรอย่าง FAW ในการก่อสร้างศูนย์เทคนิค แต่สำหรับศูนย์ใหม่แห่งนี้จะไม่เกี่ยวกัน เพราะเป็นโปรเจ็กต์ที่ทางโตโยต้าดำเนินงานตามลำพัง

นอกจากนั้น ทาง People’s Daily เชื่อว่าการก่อตั้งศูนย์เทคนิคใหม่แห่งนี้ขึ้นมาก็เพื่อการปรับปรุงคุณภาพและสร้างความเชื่อมั่นในตัวผลิตภัณฑ์ให้เกิดขึ้นกับลูกค้าชาวจีน หลังจากที่นับจากเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว ทางโตโยต้าต้องรีคอลล์รถยนต์ในจีนกลับมาซ่อมแล้วถึง 700,000 คัน อีกทั้งเดือนเมษายนที่ผ่านมา ทางโตโยต้าได้ตั้งคณะกรรมการชุดพิเศษเพื่อดูแลและควบคุมคุณภาพ หรือ China Quality Special Committee ขึ้นมา

สำหรับยอดขายของโตโยต้าที่ตลาดรถยนต์จีนในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ มียอดขายเพิ่มขึ้น 27% เป็น 360,000 คัน และแม้ว่าโตโยต้าจะเป็นเบอร์ 1 ของอุตสาหกรรมรถยนต์โลก แต่สำหรับตลาดเมืองจีนแล้ว พวกเขาอยู่ในอันดับที่ 10 ของตลาดรถยนต์นั่งในประเทศนี้
ที่มา โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

New Toyota Highlander รุ่นปี 2011 Crossover/SUV ตัวดุ เปิดตัวแล้ววันนี้ ที่ Moscow Motor Show

New Toyota Highlander รุ่นปี 2011 Crossover/SUV ตัวดุ เปิดตัวแล้ววันนี้ ที่ Moscow Motor Show วันนี้ Toyota ได้เปิดตัว Highlander รถ Crossover/SUV รุ่นปี 2011 ที่งาน Moscow International Motor Show ที่ยังไม่มีการปล่อยรายละเอียดออกมานอกจากภาพสวยๆที่เคยปล่อยออกมาเพียงภาพเดียว ภาพสวยทุกมุมจนทำให้ผู้ที่ได้พบเห็นอยากจะได้เป็นเจ้าของ และก็เป็นไปตามสูตรก็คือ มีการปรับเปลี่ยนโฉมในส่วนของด้านหน้าทั้งกระจัง ไฟหน้า และกันชน ในขณะที่บั้นท้ายมีการปรับปรุงในส่วนของไฟท้าย และกันชนหลัง สำหรับส่วนอื่นๆที่เหลือแทบจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
ลูกค้าที่อาศัยอยู่ในรัสเซียและยูเครนจะมีเครื่องยนต์ทางเลือก(ที่เลือกไม่ได้)เพียงรุ่นเดียวคือ เครื่องยนต์เบนซิน V6 3.5 ลิตร ให้กำลัง 273 แรงม้า ขับเคลื่อนผ่านเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ ส่วนรายละเอียดอื่นๆคงต้องติดตามกันต่อไปครับ
New Toyota Highlander รุ่นปี 2011 Crossover
New Toyota Highlander รุ่นปี 2011 Crossover
ที่มา: Toyota,autospinn

Toyota Land Cruiser รุ่นปี 2011 มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซลใหม่ พ่วงชุดแต่ง Executive ให้เลือก


Toyota Land Cruiser รุ่นปี 2011 มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซลใหม่ พ่วงชุดแต่ง Executive ให้เลือก แม้ว่าจะเพิ่งเปิดตัว Land Cruiser เจนเนอเรชั่นล่าสุดไปเมื่อช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่ผ่านมา Toyota กลับเดินหน้าเปิดตัวรุ่นปี 2011 สำหรับตลาดยุโรปและตลาดอื่นๆตามมาติดๆแค่ข้ามปี ข่าวใหม่สำหรับ Land Cruiser ไมเนอร์เชนจ์นี้ก็คือ การเพิ่มเครื่องยนต์ทางเลือกที่เป็นเวอร์ชั่นปรับปรุงใหม่ของเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซล 4 สูบ 3.0 ลิตร ที่ได้รับความนืยมอย่างมากในยุโรป โดยเครื่องยนต์ดังกล่าวไม่เพียงมีกำลังมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังเป็นไปตามข้อกำหนดทางด้านการปล่อยมลพิษ Euro 5 อีกด้วย
เครื่องยนต์ D-4D ที่ได้รับการปรับปรุงขึ้นมาใหม่นี้มาพร้อมระบบกรองอนุภาคดีเซลซึ่งได้รับการพัฒนาใหม่นี้ ให้กำลัง 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 420 นิวตันเมตรที่ 1,600-2,800 รอบ/นาที มีกำลังเพิ่มขึ้นจากรุ่นก่อนหน้านี้ 17 แรงม้า ขณะที่แรงบิดสูงสุดก็เพิ่มขึ้น 10 นิวตันเมตร และแม้ว่ากำลังจะเพิ่มขึ้น แต่ Land Cruiser รุ่นนี้กลับมีอัตราการซดน้ำมันเท่าเดิมคือ 8.1 ลิตร/100 กิโลเมตร
นอกจากนั้น ยังมีของใหม่สำหรับรุ่นปี 2011 นั่นก็คือ ชุดแต่ง Executive ที่มีซันรูฟแก้วเพิ่มเข้ามาด้วย Toyota จะเริ่มจำหน่าย Land Cruiser ใหม่ในเดือนธันวาคมนี้ที่ยุโรปเป็นที่แรกและตามด้วยตลาดอื่นๆครับ

ที่มา: Toyota,autospinn

'อัลติส ไมเนอร์เชนจ์ ใหม่'ยอดจองพุ่ง โตโยต้าโหมกิจกรรม

อัลติส ไมเนอร์เชนจ์
'อัลติส ใหม่'ยอดจองพุ่ง โตโยต้าโหมกิจกรรม โตโยต้าปลื้มยอดจองเก๋ง “โคโรลล่า อัลติส ใหม่” ทะลุ 3,500 คัน หลังจากเปิดตัวลงโชว์รูมไม่ถึงสัปดาห์ พร้อมโหมกิจกรรมเข้าถึงตัวลูกค้าผ่านอีเวนท์ใหญ่ และร่วมมือดีลเลอร์ดันยอดขาย ลั่นขยายโชว์รูม-ศูนย์บริการเพิ่มเป็น 340 แห่งทั่วประเทศ วิเชียร เอมประเสริฐสุข ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า เพียงไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์หลังการเปิดตัวรถยนต์ขนาดคอมแพกต์ “โตโยต้า โคโรลล่า อัลติส ใหม่” ได้รับความสนใจจากลูกค้าเป็นจำนวนมาก ซึ่งปัจจุบันมียอดจองจากโชว์รูมทั่วประเทศกว่า 3,500 คันแล้ว

“เชื่อว่าโคโรลล่า อัลติส ใหม่ จะได้การตอบรับจากผู้บริโภคชาวไทยเป็นอย่างดี ซึ่งรุ่นใหม่นี้ใช้เครื่องยนต์ ดูอัล วีวีที-ไอ (วาล์วแปรผันด้านไอดี และไอเสีย) พร้อมเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT 7 สปีด ให้การขับขี่ยอดเยี่ยมพร้อมการประหยัดน้ำมัน ขณะเดียวกันเพื่อเป็นการสร้างการรับรู้ให้มากขึ้น บริษัทเตรียมจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดร่วมกับดีลเลอร์ทั่วประทศ อย่างต่อเนื่อง”

สำหรับปีนี้โตโยต้าจัดกิจกรรมการตลาดแบบเข้าถึงตัวลูกค้าบ่อยขึ้น หรือเพิ่มกว่า 30% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยสนับสนุนให้ผู้แทนจำหน่ายทั่วประเทศ สร้างสรรค์อีเวนท์ให้สอดคล้องกับวัฒนธรรมในท้องถิ่น เลือกใช้พรีเซ็นที่โดนใจลูกค้าและแตกต่างกันไปในแต่ละภูมิภาค

“เรามีกิจกรรมที่หลากหลายและต่อเนื่องตลอดทั้งปี เช่น โตโยต้ามอเตอร์สปอร์ต 5 สนามที่ เชียงใหม่ อุดรธานี สงขลา กรุงเทพ และริมหาดบางแสน จังหวัดชลบุรี รวมถึงฟุตบอลโตโยต้า ลีกคัพ มวยไทยมาราธอน วีโก้ สมาร์ท จัดตามหัวเมืองใหญ่ทั่วประเทศ ล่าสุดเป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการงานบางกอก มิวสิค เฟสติวัล ระหว่าง11 กันยายน - 24 ตุลาคมนี้ ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย”นายวิเชียร กล่าวและว่า

บริษัทจะทำกิจกรรมการตลาดเพื่อตอบสนองกลุ่มลูกค้าทั้งรถยนต์นั่งและปิกอัพ แต่กระนั้นการสำรวจของบริษัทพบว่าช่วง 1-2ปีหลังพฤติกรรมผู้บริโภคเริ่มเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะต่างจังหวัดที่นิยมรถยนต์นั่งมากขึ้น เนื่องจากถนนหนทางดี ประกอบกับการใช้พลังงานทางเลือกอย่าง CNG มีสถานีบริการคลอบคลุม ตลอดจนซื้อเป็นรถยนต์คันที่สองต่อจากปิกอัพ

ในส่วนของการพัฒนาเครือข่ายผู้แทนจำหน่าย บริษัทได้มอบหมายภาระกิจหลักไว้ 3 อย่าง คือ 1.ต้องทำยอดขายเป็นอันดับหนึ่งในท้องถิ่น 2.สร้างความพอใจสูงสุดให้ลูกค้า ซึ่งบริษัทจะมีดัชนีชี้วัดทุกเดือน และ3.ต้องทำCSR กิจกรรมตอบแทนสังคม รักษาสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ทุกดีลเลอร์ต้องผ่านมาตรฐานการจัดการองค์กรระดับ ISO 14000 ขณะเดียวกันเพื่อรองรับการบริการอย่างทั่วถึง บริษัทเตรียมเพิ่มโชว์รูมศูนย์บริการจาก 320 แห่งเป็น 340 แห่งทั่วประเทศภายในปีนี้

ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

โตโยต้าขานรับกระแสโลก เลิกส่งรถขายอิหร่าน

โตโยต้าขานรับกระแสโลก เลิกส่งรถขายอิหร่าน โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชัน ขานรับกระแสนโยบายของนานาชาติในการคว่ำบาตรต่อประเทศอิหร่าน ที่ยังเดินหน้าพัฒนาโปรแกรมการผลิตนิวเคลียร์เพื่อนำไปใช้เป็นอาวุธ โดยล่าสุดประกาศยกเลิกการส่งรถยนต์โตโยต้าเข้าไปขายในประเทศนี้โดยไม่มีกำหนด

‘เราติดตามสถานการณ์ของโลกตลอดเวลา และยึดการตัดสินใจดำเนินนโยบายตามความเหมาะสมกับสิ่งที่เกิดขึ้น’ Dion Corbett โฆษกของโตโยต้ากล่าว โดยการประกาศยกเลิกส่งรถยนต์เข้าไปขายในครั้งนี้ไม่มีการระบุช่วงเวลาที่ชัดเจนว่าจะสิ้นสุดลงเมื่อไร อย่างไรก็ตาม แม้ทางทำเนียบข่าวจะสั่งอย่างชัดเจนเกี่ยวกับการลงโทษอย่างรุนแรงต่อบริษัทที่ไม่สนใจต่อนโยบายต่างประเทศ และไม่สนใจกับการคว่ำบาตรในครั้งนี้ แต่ทางหนังสือพิมพ์ Nikkei ของญี่ปุ่นเผยว่า การตัดสินใจในครั้งนี้ของโตโยต้าไม่ได้เกี่ยวข้องกับความถูกต้องทางด้านนโยบายการเมือง แต่เป็นเพราะพวกเขามีเรื่องให้ปวดหัวมากพอแล้ว เกี่ยวกับการ Recall รถยนต์ครั้งใหญ่ตั้งแต่ปลายปี 2009 และไม่ต้องการมีปัญหากับทางรัฐบาลของสหรัฐอเมริกา

โชคดีที่อิหร่านเป็นตลาดรถยนต์ที่ไม่ใหญ่มากสำหรับโตโยต้า เพราะก่อนที่จะมีการประกาศส่งรถยนต์เข้าไปขาย โตโยต้ามียอดขายในประเทศนี้เพียง 222 คันเท่านั้น ส่วนใหญ่จะเป็นเอสยูวีอย่างแลนด์ครูสเซอร์ โดยในปี 2008 โตโยต้ามียอดขายอยู่ที่ 4,000 คันแต่ในปีที่แล้วมียอดขายลดลงมาเหลือแค่ 246 คันเท่านั้น

สำหรับการดำเนินนโยบายครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่โตโยต้าต้องทำเพื่อให้มีความสอดคล้องกับนโยบายทางการเมือง เพราะก่อนหน้านี้ พวกเขาไม่ส่งรถยนต์เข้าไปขายในประเทศเกาหลีเหนือด้วยเช่นกัน

กรณีของอิหร่าน ในปัจจุบันถูกคว่ำบาตรจากทางสหรับอเมริกา, สหภาพยุโรป และสหประชาชาตินับตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา หลังจากที่รัฐบาลของอิหร่านเมินเฉยต่อข้อเรียกร้องให้ยุติโปรแกรมการพัฒนานิวเคลียร์เพื่อนำปไปสู่การพัฒนาเป็นอาวุธ
ที่มา โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

เปิดแนวคิดเก๋งเล็ก “โตโยต้า” ยำรถต้นทุนต่ำบวกอีโคคาร์

เปิดแนวคิดเก๋งเล็ก “โตโยต้า” ยำรถต้นทุนต่ำบวกอีโคคาร์ สะพัด! โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป เดินหน้าพัฒนารถต้นทุนต่ำบุกตลาดจีน และอาเซียน เพื่อทำตลาดในปี 2555 ด้วยราคาไม่เกิน 1 ล้านเยน (ประมาณ 370,000 บาท) ซึ่งใกล้เคียงกับการเปิดตัวอีโคคาร์ของโตโยต้าในไทย และเป็นช่วงที่โตโยต้า ประเทศไทย เตรียมผลักดันไทยเป็นฐานผลิตเก๋งระดับโลก งานนี้ “เซอิ มาเอดะ” ผู้บริหารระดับสูง TMAP ที่คุมการาผลิตและพัฒนารถใหม่ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกแบ่งรับแบ่งสู้ และจะเป็นการพัฒนารถจาก “โตโยต้า วีออส-ยาริส” หรือรถต้นทุนต่ำ “โตโยต้า เอธิออส” จนกระทั่งจับมือบริษัทรถในเครือ “ไดฮัทสุ มอเตอร์” พัฒนาร่วมกันหรือไม่ ยังไม่สรุปและทำเคลย์โมเดลออกมาแต่อย่างใด เพราะอยู่ระหว่าการศึกษาอยู่ แต่ยอมแย้มแนวคิดเก๋งเล็กโมเดลใหม่ เป็นไปได้อยากรวมรถต้นทุนต่ำ กับอีโคคาร์ไว้ในคันเดียวกัน โดยการพัฒนารถยนต์ให้ได้ตามมาตรฐานอีโคคาร์ แต่ขณะเดียวกันก็ต้องพยายามให้ต้นทุนการผลิตไม่สูงมากนัก เพื่อที่ผู้บริโภคจะสามารถเป็นเจ้าของรถคุณภาพมาตรฐานได้ง่าย
โตโยต้า วีออส ถูกระบุจากสื่อญี่ปุ่นว่า จะถูกนำมาพัฒนาเป็นรถต้นทุนต่ำ ราคาไม่เกิน 1 ล้านเยน ขณะที่ "เซอิ มาเอดะ" รองประธานกรรมการบริหาร TMAP โครงการเก๋งเล็กกำลังพัฒนาและศึกษาอยู่
การประกาศยกระดับให้ไทยเป็นฐานการผลิตเก๋ง เพื่อการส่งออกไปทั่วโลกเช่นเดียวกับปิกอัพ ของค่ายยักษ์ “โตโยต้า” นับเป็นร่องรอยบ่งชี้ให้เห็นอะไรบางอย่าง โดยเฉพาะทิศทางก้าวต่อไปของโตโยต้าในอนาคต หลังจากได้ข้อสรุปแนวโน้มตลาดเก๋งในไทยจะขยายตัวอย่างมาก หลังจากได้มีการประเมินว่าสัดส่วนของเก๋งจะปรับเพิ่มเป็นมากกว่า 50% จากเดิมที่มีน้อยกว่าปิกอัพ และได้ขยับมาใกล้เคียงกันในปัจจุบัน นี่จึงน่าจะเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้โตโยต้าต้องปรับบทบาทใหม่ แต่การที่จะเป็นฐานส่งออกเก๋งไปทั่วโลก อันดับแรกตลาดในไทยย่อมจะต้องมีปริมาณมากพอเสียก่อน

เมื่อดูจากจุดนี้ช่องทางที่โตโยต้ายังจะไปได้อีก จึงอยู่ที่เก๋งขนาดเล็ก และรถพลังงานทางเลือกอย่างพวกไฮบริด ซึ่งชัดเจนว่าจะขึ้นไลน์ผลิต “โตโยต้า พรีอุส” ในไทย แต่จุดตัดสินสำคัญน่าจะเป็นรถเล็กมากกว่า และที่แน่ๆ โตโยต้ามีโครงการ “อีโคคาร์” รออยู่แล้ว เพียงแต่อาจจะต้องปรับแผนการทำงานใหม่ให้สอดคล้องกับนโยบายดังกล่าว หรือไม่โตโยต้าก็จะมีโครงการใหม่ๆ ออกมาอีก จากล่าสุดที่มีกระแสข่าวเกี่ยวกับรถต้นทุนต่ำของโตโยต้า เพื่อทำตลาดในจีนและอาเซียนโผล่ออกมา

ทั้งนี้ รอยเตอร์ได้อ้างรายงานข่าวของหนังสือพิมพ์ชุนอิชิ ชิมบุน ประเทศญี่ปุ่นว่า โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น กำลังพัฒนารถยนต์ต้นทุนต่ำ เพื่อทำตลาดในจีนและภูมิภาคอาเซียน ด้วยราคาจำหน่ายไม่เกิน 1 ล้านเยน หรือประมาณ 370,000 บาท และคาดว่าจะสามารถเปิดตัวได้ในปี 2555

โดยในรายงานข่าวระบุว่า โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป จะพัฒนารถต้นทุนต่ำโดยอ้างอิงจากพื้นฐานของรถเล็ก โตโยต้า วีออส และยาริส ซึ่งโตโยต้าตั้งเป้าหมายจะทำให้ต้นทุนการผลิตรถลดลง 30-40% ด้วยการจัดซื้อชิ้นส่วนภายในประเทศจีน และพร้อมกันนี้ ไดฮัทสุ มอเตอร์ บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ขนาดเล็กในเครือของโตโยต้า ได้กำลังพัฒนารถยนต์ขนาดเล็ก สำหรับทำตลาดในภูมิภาคอาเซียนเช่นกัน และอาจจะมีวางจำหน่ายรถยนต์รุ่นนี้ ภายใต้แบรนด์โตโยต้าด้วย

จากการที่ทางโตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธในรายงานข่าวนี้ แนวโน้มจึงมีความเป็นไปได้อย่างยิ่ง เพราะโตโยต้ามีแผนรุกตลาดรถต้นทุนต่ำในตลาดเกิดใหม่ ไม่ว่าจะเป็นจีน บราซิล หรืออินเดีย ที่ได้มีการเผยโฉมรถต้นแบบ “โตโยต้า เอธิออส” (Toyota Etios)ไปแล้ว ซึ่งในบางรายงานข่าวถึงกับระบุว่า รถรุ่นนี้จะถูกนำมาพัฒนาเป็นอีโคคาร์ของไทย ขณะที่กำหนดการทำตลาดรถต้นทุนต่ำจากรายงานข่าวล่าสุด นับเป็นช่วงเวลาใกล้เคียงกันกับโครงการรถประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล หรือ “อีโคคาร์” ของโตโยต้าในไทยเช่นกัน
นอกจาก โตโยต้า วีออส และยาริส ก่อนหน้านี้ได้มีคาดว่ารถต้นทุนต่ำ "โตโยต้า เอธิออส" จะเป็นอีโคคาร์ในไทย
“ยังไม่มีการสรุปเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เพราะอีโคคาร์กำลังอยู่ในระหว่างพัฒนา และศึกษาความต้องการของตลาดอยู่ ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่มีการทำเคลย์โมเดลแต่อย่างใด”

“เซอิ มาเอดะ” รองประธานกรรมการบริหาร และหัวหน้าศูนย์เทคนิค บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ เอเซีย แปซิฟิก เอ็นจิเนียริง แอนด์ แมนูเฟคเจอริ่ง จำกัด หรือ TMAP ซึ่งเป็นสำนักงานใหญ่ที่ดูแลการผลิตและพัฒนารถยนต์รุ่นใหม่ของโตโยต้าในภูมิภาคเอเชีย ตอบคำถามเรื่องดังกล่าวกับ “ASTV ผู้จัดการมอเตอริ่ง”

และเมื่อขอความชัดเจนเกี่ยวกับ รถต้นทุนต่ำ หรือรถราคาประหยัด กับอีโคคาร์ จะเป็นโครงการเดียวกัน หรือเป็นอีกโมเดลของโตโยต้าในภูมิภาคนี้ มาเอดะบอกว่ากำลังศึกษาอยู่ ดังนั้นจึงไม่สามารถตอบรายละเอียดได้

“ถ้าเป็นไปได้เราอยากให้อยู่ในคันเดียวกัน นั่นคือพัฒนารถยนต์ให้ได้ตามมาตรฐานอีโคคาร์ แต่ขณะเดียวกันก็ต้องพยายามให้ต้นทุนการผลิตไม่สูงมากนัก เพื่อที่ผู้บริโภคจะสามารถเป็นเจ้าของรถคุณภาพมาตรฐานได้ง่าย”

ในส่วนของรายงานข่าว โตโยต้าอาจจะใช้รถยนต์ขนาดเล็กที่ไดฮัทสุ มอเตอร์ พัฒนาขึ้นมา ในการนำมาผลิตและทำตลาดในแบรนด์โตโยต้า และก่อนหน้านี้ก็มีการอ้างรถต้นทุนต่ำ "โตโยต้า เอธิออส" จะเป็นอีโคคาร์ในไทย เรื่องนี้มาเอดะบอกว่า แม้ไดฮัทสุจะเป็นบริษัทในเครือโตโยต้า แต่ก็ทำงานแยกกันชัดเจน และโครงการรถเล็กโตโยต้ากำลังศึกษาและพัฒนาอยู่ จึงยังไม่สามารถชี้ชัด หรือสรุปลงไปได้จะเป็นอย่างไร

ทั้งนี้เป็นที่ทราบกันว่า โตโยต้าไม่ได้เตรียมพัฒนารถใหม่รองรับโครงการอีโคคาร์ โดยเบื้องต้นโตโยต้าต้องการจะนำโตโยต้า วีออส และยาริส มาสวมเป็นอีโคคาร์ แต่ตามเงื่อนไขที่ทางคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอ กำหนดไว้นั่นไม่สามารถทำได้ โตโยต้าจึงต้องปรับแผนหันมาพัฒนารถใหม่ขึ้นมาอีก 1 รุ่น

ดังนั้น เมื่อโตโยต้าได้เปิดตัว รถต้นทุนต่ำ หรือรถราคาประหยัด “โตโยต้า เอธิออส” ทั้งแบบซีดานและแฮตช์แบ็กในงานออโต เอ็กซ์โป 2010 หรืองานนิวเดลี มอเตอร์โชว์ ที่ประเทศอินเดีย สื่อสำนักต่างๆ จึงเชื่อกันว่ารถรุ่นนี้จะถูกนำมาพัฒนาเป็นอีโคคาร์ในไทย แต่ผ่านมาจนถึงขณะนี้เริ่มไม่แน่นอนแล้ว

อย่างไรก็ตาม จากการชี้แจงของมาเอดะ แม้จะยังไม่ชัดเจนถึงรายละเอียดของรถต้นทุนต่ำ และอีโคคาร์ แต่เมื่อพิจารณาดูจากคำอธิบายถึงแนวคิดของโตโยต้า รถขนาดเล็กรุ่นใหม่ที่จะทำตลาดภูมิภาคนี้ในปี 2555 คงจะมีเพียงแค่โมเดลเดียว ซึ่งเป็นการรวมจุดเด่นของรถต้นทุนต่ำและอีโคคาร์มาไว้ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นพัฒนาจากโตโยต้า วีออส หรือร่วมพัฒนากับไดฮัทสุ หรือใช้พื้นฐานร่วมกับรุ่นเอธิออสก็ตาม

ปัญหาจึงอยู่ที่ว่าวิธีไหน? ที่จะทำให้อีโคคาร์ของโตโยต้า ถูกส่งลงทำตลาดได้เร็วภายในปี 2555 เพื่อยกระดับให้ไทยเป็นฐานการผลิตเก๋งระดับโลก ตามที่ประธานคนใหม่ “เคียวอิจิ ทานาดะ” วาดฝันไว้!

ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

Toyota เปิดภาพ Highlander รุ่นปี 2011 ก่อนเปิดตัวที่ Moscow Motor Show ปลายเดือนนี้


Toyota เปิดภาพ Highlander รุ่นปี 2011 ก่อนเปิดตัวที่ Moscow Motor Show ปลายเดือนนี้
ก่อนที่จะทำการเปิดตัวที่งาน Moscow Motor Show ปลายเดือนนี้ Toyota ถือโอกาสปล่อยภาพ Highlander รุ่นปี 2011 กระตุ้นความอยากของสาวกซึ่งภาพที่ปล่อยออกมามีเพียงภาพเดียวเท่านั้นแต่ด้วย การที่เปิดให้เห็นด้านหน้าแบบเต็มๆก็ทำให้ความอยากรู้อยากเห็นในโฉมของ Highlander ตัวใหม่ลดลงไปได้มาก โดย SUV รุ่นนี้เป็นเวอร์ชั่นที่จะทำตลาดในประเทศรัสเซีย ยูเครน และประเทศในยุโรปตะวันออก ซึ่งคาดกันว่าจะมีหน้าตาใกล้เคียงกับรุ่นไมเนอร์เชนจ์ที่จะเปิดตัวในอเมริกา ครับ
ที่มา: Autoblog

New toyota วางแผนการพัฒนาเฉพาะแบบไฮบริดขนาดเล็ก


รายงานข่าวมีโรงงานโตโยต้าที่ญี่ปุนวางแผนการพัฒนาเฉพาะแบบไฮบริดขนาดเล็กเพื่อใช้ในลูกผสม Insight ฮอนด้าที่เพิ่งไปจัดจำหน่ายในประเทศสหรัฐอเมริกา หัวหน้าวิศวกรบอกกับนักข่าวหนังสือพิมพ์ธุรกิจของญี่ปุ่น Nikkei Akihiko Otsuka, วิศวกรหัวหน้าของรุ่นที่สาม Toyota Prius พบว่าโตโยต้าใหม่ต้นทุนต่ำโดยเฉพาะลูกผสมจะขึ้นอยู่กับแพลตฟอร์มของtoyota Yaris เหตุผลว่าทำไมโตโยต้ามีการวางแผนแบบนั้นเป็นเพราะฮอนด้า Insight อย่าง undercuts Prius ใหม่ในราคาต้นทุนต่ำ "เรามีการพัฒนารถไฮบริดราคาต่ำเช่นฮอนด้า Insight"Otsuka หัวหน้าวิศวกรบอกกับนักข่าวหนังสือพิมพ์ธุรกิจของญี่ปุ่นว่า "เราจะไปแข่งขันด้วยการขยาย lineup รถไฮบริดของเราเป็นแบบลูกผสมขนาดเล็กลักษณะเหมือนในชั้นเรียนของ Vitz และ Yaris.

แม้ว่า Otsuka ไม่เปิดเผยรายละเอียดในวันเปิดตัว แต่จากรายงานของประเทศญี่ปุ่นแนะนำว่าToyotaลูกผสมขนาดเล็กคาดว่าเตรียมเปิดตัวลงตลาดในต่างประเทศภายในปี 2011 แน่นอนครับ

New Toyota Corolla Altis โฉมใหม่ ไมเนอร์เชนจ์ BEYOND DEFINITION เปิดราคาเริ่มต้น 7.44 แสนบาท


New Toyota Corolla Altis โฉมใหม่ ไมเนอร์เชนจ์ BEYOND DEFINITION เปิดราคาเริ่มต้น 7.44 แสนบาท มร.เคียว อิจิ ทานาดะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด พร้อมด้วย มร.เซอิ มาเอดะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ด้านวิจัยและพัฒนากลุ่มงานเทคนิคอลเซ็นเตอร์ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ เอเซีย แปซิฟิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ แมนูเเฟคเจอริ่ง จำกัด และนายวิเชียร เอมประเสริฐสุข ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ร่วมแถลงข่าวแนะนำ “โคโรลล่า อัลติส” ใหม่ เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2553 ที่ โรงแรมพลาซ่า แอทธินี กรุงเทพฯ

“โคโรลล่า” รถยนต์นั่งยอดนิยม

บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด แนะนำรถยนต์นั่ง “โคโรลล่า” เข้าสู่ตลาดเมืองไทยครั้งแรก ด้วยเจนเนอเรชั่นที่ 1 ในปี พ.ศ. 2509 และเจนเนอเรชั่นที่ 2 ในปี พ.ศ.2513 จากโรงงานผลิตของ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น ต่อมาเจนเนอเรชั่นที่ 3 ในปี พ.ศ.2517 จึงได้เริ่มสายการผลิตโคโรลล่าเป็นครั้งแรกที่ โรงงานประกอบรถยนต์สำโรง จ.สมุทรปราการ นับเป็นรถยนต์รุ่นสำคัญที่สุดรุ่นหนึ่งของ โตโยต้า ในประเทศไทย ซึ่งได้รับการตอบรับจากลูกค้าในฐานะ “รถยนต์นั่งยอดนิยมของคนไทย” จนกระทั่งล่าสุด ในปี 2551 ได้พัฒนา “โคโรลล่า” เจนเนอเรชั่นที่ 10 พร้อมยกระดับมาตรฐานรถยนต์นั่งขนาดเล็กระดับบน ตลอดระยะเวลากว่า 44 ปีที่ “โคโรลล่า” ได้รับการแนะนำในประเทศไทยสามารถครองความนิยมในฐานะรถยนต์นั่ง ที่เคียงคู่สังคมไทยมาโดยตลอด ครองความเป็นอันดับ 1 ด้วยยอดขายสะสมมากกว่า 520,000 คัน และมีส่วนสำคัญในการผลักดันให้โตโยต้า ครองความเป็นหนึ่งในตลาดรถยนต์นั่งของไทยจวบจนปัจุบัน

มร.เคียวอิจิ ทานาดะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “โคโรลล่า อัลติส ใหม่ เป็นผลิตภัณฑ์ ที่สำคัญที่สุดอีกรุ่นหนึ่งในกลุ่มรถยนต์นั่งของ โตโยต้าซึ่งแนะนำเข้าสู่ตลาดประเทศไทยมาเป็นเวลากว่า 44 ปี ซึ่งได้รับการตอบรับจากลูกค้าในฐานะ“รถยนต์นั่งยอดนิยมของคนไทย” ด้วย ยอดขายรวม กว่า 520,000 คัน และ ยังได้รับความนิยมจากลูกค้าทั่วโลกด้วยยอดขายสูงกว่า 36 ล้านคันทั่วโลก ความสำเร็จทางด้านการขายมากมายเช่นนี้เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่า โคโรลล่า ได้รับการยอมรับเป็นอย่างดี ทั้งด้านคุณภาพ และความคุ้มค่า สามารถครองใจลูกค้าทั้งชาวไทย และต่างประเทศ
และวันนี้ เรามีความยินดีที่จะแนะนำโคโรลล่า อัลติส ใหม่ ภายใต้แนวคิด “Beyond Definition” กล่าวคือ การเปลี่ยนแปลงของ อัลติส ใหม่ นี้ เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญโดยนำเครื่องยนต์ระบบ Dual VVT-i ที่มาพร้อมกับระบบส่งกำลังใหม่ Super CVT-i ที่ให้สมรรถนะการขับขี่ ที่ยอดเยี่ยมและประหยัดน้ำมัน ตลอดจนคุณภาพการผลิตที่ได้มาตรฐานระดับโลก ผมมั่นใจว่า โคโรลล่า อัลติส ใหม่ จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ดังเช่นที่ผ่านมา”

โคโรลล่า อัลติส ใหม่ Beyond Definition : Smooth,Power,Save
เหนือกว่าที่เคยล้ำหน้า มากกว่าที่เคยสมบูรณ์แบบ
สัมผัสความล้ำหน้าที่หลอมรวมการขับเคลื่อน
ทุกห้วงความเร็วนุ่มนวลทรงพลัง
สู่ความประหยัดน้ำมัน ที่มอบอิสระแห่งการขับขี่

เครื่องยนต์ Beyond Definition of Power

ขุมพลังใหม่ เครื่องยนต์ระบบวาล์วอัจฉริยะ Dual VVT-i (Variable Valve Timing-intelligent) ที่ปรับจังหวะเปิด-ปิดวาล์วไอดีและไอเสียแบบแปรผัน สอดคล้องกับการทำงานของเครื่องยนต์ ซึ่งจะช่วยควบคุมปริมาณไอดีให้เหมาะสมกับการจุดระเบิดในทุกจังหวะความเร็ว รอบเครื่องยนต์ และการปรับจังหวะของวาล์วไอเสียจะสัมพันธ์กับการปล่อยไอเสียของเครื่องยนต์ ช่วยให้การปล่อยไอเสียมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ทั้งหมดนี้ส่งผลให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบ ให้มีอัตราเร่งที่ดี ประหยัดน้ำมัน และช่วยลดมลพิษ ผ่านมาตรฐานไอเสีย ยูโร 4

ใหม่ …เครื่องยนต์ 2000 ซีซี 3ZR-FE ACIS (Acoustic Control Induction System)
แบบ 4 สูบแถวเรียง DOHC Dual VVT-I พร้อมระบบ ACIS ซึ่งปรับเปลี่ยนความยาวท่อไอดีให้เหมาะสมกับการทำงานของเครื่องยนต์ เพื่อสร้างกำลัง และแรงบิด อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ในทุกรอบความเร็วตั้งแต่รอบความเร็วต่ำจนถึงรอบความเร็วสูง
ความจุกระบอกสูบ 1,987 ซีซี
แรงม้าสูงสุด 107 กิโลวัตต์ (145ps) / 6,200 รอบต่อนาที
แรงบิดสูงสุด 187 นิวตัน-เมตร / 3,600 รอบต่อนาที

ใหม่…เครื่องยนต์ 1800 ซีซี 2ZR-FE ACIS (Acoustic Control Induction System)
แบบ 4 สูบแถวเรียง DOHC Dual VVT-I พร้อมระบบ ACIS ซึ่งปรับเปลี่ยนความยาวท่อไอดีให้เหมาะสมกับการทำงานของเครื่องยนต์ เพื่อสร้างกำลัง และแรงบิด อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ในทุกรอบความเร็วตั้งแต่รอบความเร็วต่ำจนถึงรอบความเร็วสูง
ความจุกระบอกสูบ 1,798 ซีซี
แรงม้าสูงสุด 103 กิโลวัตต์ (140ps) / 6,400 รอบต่อนาที
แรงบิดสูงสุด 173 นิวตัน-เมตร / 4,000 รอบต่อนาที

ใหม่…เครื่องยนต์ 1600 ซีซี 1ZR-FE แบบ 4 สูบแถวเรียง DOHC Dual VVT-i
ความจุกระบอกสูบ 1,598 ซีซี
แรงม้าสูงสุด 90 กิโลวัตต์ (122ps) / 6,000 รอบต่อนาที
แรงบิดสูงสุด 154 นิวตัน-เมตร / 5,200 รอบต่อนาที

เครื่องยนต์ 1600 ซีซี CNG 3ZZ-FE แบบ 4 สูบแถวเรียง DOHC VVT-i
ความจุกระบอกสูบ 1,598 ซีซี
แรงม้าสูงสุด 80 กิโลวัตต์ (109ps) / 6,000 รอบต่อนาที
แรงบิดสูงสุด 145 นิวตัน-เมตร / 4,400 รอบต่อนาที

ภายในใหม่ Beyond Definition of Comfort

- แผงคอนโซลลายใหม่ เสริมภาพลักษณ์ที่มีสไตล์โดดเด่นยิ่งขึ้น
- วิทยุเพิ่มฟังก์ชั่น AUX ตอบสนองทุกความบันเทิงสมัยใหม่ (เฉพาะรุ่น 2.0V 2.0G 1.8ทุกรุ่น 1.6G และ 1.6E)
- พวงมาลัยสไตล์สปอร์ตพร้อมสวิทช์ควบคุมเครื่องเสียงและจอแสดงข้อมูลการ ขับขี่ เพิ่มความสะดวกสบายและปลอดภัยขณะขับขี่ (เฉพาะรุ่น 2.0 ทุกรุ่น)
- มาตรวัดเรืองแสง ชัดเจน ตลอดการเดินทาง (เฉพาะรุ่น 2.0 ทุกรุ่น และ 1.8G)
- เบาะหนังชิ้นกลางเจาะรูแบบสปอร์ต เพิ่มความสบายขณะขับขี่ (เฉพาะรุ่น 2.0 ทุกรุ่น 1.8 ทุกรุ่น และ 1.6G)

อุปกรณ์ความปลอดภัย Beyond Definition of Protection ความปลอดภัยแบบป้องกัน

- ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) ป้องกันล้อล็อกขณะเบรกกระทันหันหรือเบรกบนถนนลื่น (เฉพาะรุ่น 2.0 ทุกรุ่น 1.8 ทุกรุ่น 1.6G และ 1.6E)
- ระบบกระจายแรงเบรก (EBD) ช่วยกระจายแรงเบรกในแต่ละล้อให้ทำงานได้อย่างสมดุล เพื่อ ให้ควบคุมรถได้ดีแม้เบรกในขณะเข้าโค้ง (เฉพาะรุ่น 2.0 ทุกรุ่น 1.8 ทุกรุ่น 1.6G และ 1.6E)
- ระบบเสริมแรงเบรก (BA) จะช่วยเพิ่มแรงเบรกมากขึ้น ในกรณีเบรกกระทันหัน เพื่อให้หยุดรถได้ในระยะที่สั้นกว่า (เฉพาะรุ่น 2.0 ทุกรุ่น 1.8 ทุกรุ่น 1.6G และ 1.6E)
- ระบบควบคุมการทรงตัว (VSC) ควบคุมรถให้ทรงตัวอย่างมั่นคง แม้ในทางโค้งหรือบนถนนที่เปียกลื่น โดยระบบ VSC จะสั่งการให้เครื่องยนต์ ลดความเร็วอัตโนมัติและเพิ่มแรงดันน้ำมันเบรกไปยังล้อที่ลื่นไถลเพื่อดึงรถ กลับเข้าสู่สมดุล (เฉพาะรุ่น 2.0V Navi และ 2.0V)
- ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (TRC) ควบคุมและป้องกันการเกิดอาการล้อหมุนฟรี ซึ่งเป็นสาเหตุของการลื่นไถลทำให้รถเสียการทรงตัว (เฉพาะรุ่น 2.0V Navi และ 2.0V)

ระบบส่งกำลัง Beyond Definition of Smoothness

ใหม่…เกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i 7 สปีด อีกขั้นแห่งเทคโนโลยีที่ทำให้การเปลี่ยนเกียร์ต่อเนื่อง ให้อัตราเร่งที่นุ่มนวล ราบรื่น เร้าใจทุกการเดินทาง พร้อมปรับระดับความเร็วรอบของเครื่องยนต์ให้คงอยู่ในรอบต่ำ แม้ในขณะเร่งความเร็ว จึงประหยัดน้ำมันได้มากกว่า (เฉพาะรุ่น 2.0 และ 1.8 ทุกรุ่น)
ใหม่…เกียร์ธรรมดา 6 สปีด ให้ทุกการเปลี่ยนเกียร์ ไหลลื่น ต่อเนื่อง ในทุกสภาพถนน และประหยัดน้ำมัน (เฉพาะรุ่น 1.6J M/T)

ภายนอกดีไซน์ใหม่ Beyond Definition of Styling

- กันชนหน้าและกันชนหลัง ดีไซน์สวยเข้ม สะท้อนตัวตนที่มีระดับ
- กระจังหน้า โดดเด่น คมเข้มยิ่งกว่า
- ไฟหน้าและไฟหลัง ดีไซน์ เฉียบคม สะดุดตา
- ล้ออัลลอยด์ขนาด 16 นิ้ว ดีไซน์ใหม่แบบ 5 ก้าน สปอร์ตทุกมุมมอง (เฉพาะรุ่น 2.0 ทุกรุ่น และ 1.8G)

ความปลอดภัยแบบปกป้อง

- โครงสร้างนิรภัย GOA พร้อมคานนิรภัย โครงสร้างตัวถังนิรภัยได้รับการพัฒนาให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซับและกระจายแรงกระแทกได้อย่างดีเยี่ยม
- ถุงลมเสริมความปลอดภัยคู่หน้า SRS ปกป้องทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารโดยช่วยลดแรงกระแทกจากการชน (เฉพาะรุ่น 2.0 ทุกรุ่น 1.8 ทุกรุ่น และ 1.6G)
- โครงสร้างเบาะนั่งแบบ WIL (Whiplash Injury Lessening) สำหรับเบาะนั่งด้านหน้า เพื่อลดการบาดเจ็บของกระดูกต้นคอ เมื่อเกิดการชนจากด้านหลัง
- เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าพร้อมระบบกลไกดึงกลับและผ่อนแรงดึงอัตโนมัติ ช่วยรั้งร่างกายผู้ขับขี่และผู้โดยสารให้แนบกับเบาะเมื่อเกิดการชนและลดการ บาดเจ็บจากการรัดดึง ของระบบเข็มขัดนิรภัย (เฉพาะรุ่น 2.0 ทุกรุ่น 1.8 ทุกรุ่น และ 1.6G)

ในส่วนของราคา Toyota Corolla Altis รุ่นใหม่มีดังนี้

Toyota Corolla Altis CNG 744,000 บาท
Toyota Corolla Altis 1.6 E A/T 799,000 บาท
Toyota Corolla Altis 1.6 G A/T 834,000 บาท
Toyota Corolla Altis 1.8 E A/T 864,000 บาท
Toyota Corolla Altis 1.8 G A/T 919,000 บาท
Toyota Corolla Altis 2.0 G A/T 969,000 บาท
Toyota Corolla Altis 2.0 V A/T 1,054,000 บาท
Toyota Corolla Altis 2.0 V Navi 1,194,000 บาท

New Toyota Corolla Altis โฉมใหม่ ไมเนอร์เชนจ์ BEYOND DEFINITION เปิดราคาเริ่มต้น 7.44 แสนบาท
พบกับ การเปิดตัวอย่างเป็นทางการเหนือทุกคำจำกัดความ ของ
โคโรลล่า อัลติส ใหม่….ในงาน Life Beyond Definition
ที่ สกาย ฮอลล์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลลาดพร้าว
วันที่ 14-15 สิงหาคม 2553
และที่โชว์รูมโตโยต้า 311 แห่งทั่วประเทศ
ที่มา: Toyota , www.autospinn.com

ด่วน!เผยโฉม-สเปก“อัลติส ใหม่”

ด่วน!เผยโฉม-สเปก“อัลติส ใหม่” ก่อนที่โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จะเปิดตัว “โคโรลล่า อัลติส ไมเนอร์เชนจ์” อย่างเป็นทางการ 5 สิงหาคมนี้ รูปร่างหน้าตาหลังปรับโฉมมาให้พิจารณาแบบรวดเร็วทันใจ

รุ่น 2.0 ลิืตรมาพร้อมชุดแต่งสปอร์ตรอบคัน
หลัง โคโรลล่า อัลติส เจเนอเรชันที่ 10 เปิดตัวทำตลาดในไทยต้นปี 2551 ล่าสุดโตโยต้าได้ฤกษ์ไมเนอร์เชนจ์เก๋งคอมแพกต์คู่บุญ ซึ่งนอกจากรูปลักษณ์ภายนอกที่โฉบเฉี่ยวยิ่งขึ้นแล้ว ยังปรับสมรรถนะให้เร้าใจ ด้วยการเสริมระบบ Dual VVT-i หรือเพิ่มวาล์วแปรผันด้านไอเสีย ให้เครื่องยนต์ 1.6 และ 1.8 ลิตร (เว้นรุ่นใช้แก็ส CNG ยังใช้ VVT-i 109 แรงม้าเท่าเดิม) ส่วนเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ที่เดิมเป็นวาล์วแปรผันฝั่งไอดี และไอเสียอยู่แล้ว ก็ปรับจูนแรงม้า-แรงบิดให้เนียนยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ยังยกชุดระบบส่งกำลัง จากเดิมเป็นเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ ก็เปลี่ยนเป็น 6 จังหวะ ส่วนเกียร์อัตโนมัติ ก็หันมาใช้แบบอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง CVT 7 สปีด แถมเล่นเปลี่ยนเกียร์เองได้ (เฉพาะรุ่น 1.8และ 2.0 ลิตร ส่วนเกียร์อัตโนมัติของรุ่น 1.6 ลิตร ยังใช้แบบเฟือง 4 สปีดเหมือนเดิม)


ขนาดเครื่องยนต์ รุ่นเดิม ให้กำลังสูงสุด-แรงบิดสูงสุด/รตน. รุ่นไมเนอร์เชนจ์ ให้กำลังสูงสุด-แรงบิดสูงสุด/รตน.
1.6 ลิตร VVT-i
109 แรงม้า/6,000
145 นิวตันเมตร/4,400 Dual VVT-i
122 แรงม้า/6,000
154 นิวตันเมตร/5,200

1.8 ลิตร VVT-i
132 แรงม้า/6,000
170 นิวตันเมตร/4,200
Dual VVT-i
140 แรงม้า/6,400
173 นิวตันเมตร/4,000
2.0 ลิตร Dual VVT-i
141แรงม้า/5,600
189 นิวตันเมตร/4,400
Dual VVT-i
145 แรงม้า/6,200
187 นิวตันเมตร/3,600
รุ่น 1.6 และ 1.8 ลิตร


โฉมภายนอกปรับเปลี่ยนกันชน ลายกระจังหน้า และกรอบไฟตัดหมอก ด้านหลังไฟท้ายออกแบบให้ดูทันสมัยมากขึ้น และตั้งแต่รุ่น 1.8G จะใช้ล้ออัลลอยด์ 16 นิ้วลายใหม่

ภายในปรับสีลายไม้-สีเมเทลิก ที่แปะบริเวณแผงคอนโซล และประตูข้าง เครื่องเสียงเพิ่มช่องต่อ AUX ตามสมัยนิยม ส่วนรุ่นท็อป 2.0 ลิตร เปลี่ยนวงพวงมาลัยให้ดูสปอร์ตคล้ายรถแข่ง

หลังเปิดตัวกับสื่อมวลชนวันที่ 5 สิงหาคมนี้ “โคโรลล่า อัลติส ใหม่” พร้อมลงโชว์รูม 292แห่งทั่วประเทศทันที สนนราคาเพิ่มขึ้นจากรุ่นเดิม 10,000 - 20,000 บาท
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

รายการบล็อกของฉัน