New Toyota Prius Hybrid ลูกผสมรุ่นล่าสุด

New Toyota Prius Hybrid ลูกผสมรุ่นล่าสุด โตโยต้า พรีอุส ไฮบริด (Prius Hybrid) รุ่นปี 2010 เป็นแฮทช์แบ็กรุ่นกลางขนาด 5 ที่นั่ง โฉมใหม่เพรียวลง ตัวถังใหญ่ขึ้นเล็กน้อย ขุมพลังน้ำมัน-ไฟฟ้า เจเนอเรชั่นที่ 3 ประหยัดน้ำมันเป็นสถิติใหม่ และมลพิษไอเสียต่ำ
โตโยต้า มอเตอร์เซลส์ ในสหรัฐ เปิดตัวพรีอุส ดีไซน์ใหม่ทั้งหมดเป็นเจเนอเรชั่นที่ 3 ในงานมหกรรมยานยนต์ที่ดีทรอยต์ สหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 17-25 มกราคมนี้

พรีอุสถือเป็นรถยนต์ไฮบริดที่ผลิตขายจำนวนมากรุ่นแรกในโลก ทั้งยังเป็นรุ่นบุกเบิกเทคโนโลยีขุมพลังไฮบริด เรียกว่า Hybrid Synergy Drive System หรือ HSD ซึ่งเป็นการผสมผสานสมรรถนะการขับเคลื่อนระหว่างเครื่องยนต์กับมอเตอร์ไฟฟ้า

ปริมาณยอดขายจนถึงปัจจุบันมากกว่า 1 ล้านคัน หลังเปิดตัวกว่า 10 ปีมาแล้ว พรีอุสได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนถึงเจเนอเรชั่นที่ 3 กระบวนการสร้างสรรค์เน้นการลดมลพิษทุกลำดับวงจรชีวิตของรถยนต์ ตั้งแต่การผลิต การใช้งาน จนถึงการกำจัดหรือนำกลับมาใช้ใหม่
พรีอุสเป็นรถขับเคลื่อนล้อหน้า เครื่องยนต์ขนาดใหญ่ขึ้นแต่ประหยัดน้ำมันมากขึ้น รุ่นเครื่องยนต์เบนซิน Atkinson 4 สูบ 1.8 ลิตร VVT-i 98 แรงม้า ที่ 5,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 105 ปอนด์-ฟุต ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดเพิ่มขึ้นโดยมีแรงบิดรอบต่ำดีกว่าเดิม

ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้าแบบแม่เหล็กถาวร (Permanent magnet synchronous motor) ให้กำลัง 80 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 153 ปอนด์-ฟุต ร่วมกับแบตเตอรี่ชนิด Nickel metal hydride เมื่อผนึกกำลังกับเครื่องยนต์แล้ว ระบบไฮบริดรุ่นใหม่จะมีกำลังสูงสุดรวมกัน 134 แรงม้า

โตโยต้าเสริมประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ด้วยการติดตั้งปั๊มน้ำไฟฟ้าและระบบการไหลเวียนไอเสีย (Exhaust Gas Recirculation-EGR) มีค่ามลพิษในไอเสียต่ำมากจนอยู่ในระดับ SULEV หรือ Super-Ultra-Low-Emission-Vehicle

จากการทดสอบในสหรัฐอเมริกา พรีอุสใหม่มีอัตราบริโภคเชื้อเพลิงต่ำเฉลี่ย 21.17 กม./ล. ดีขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นแรก 17.36 กม./ล. และรุ่นที่สอง 19.47 กม./ล.

จุดเด่นของพรีอุสไฮบริดที่แตกต่างจากคู่แข่งส่วนใหญ่คือ การใช้ระบบไฮบริดเต็มรูปแบบมาตั้งแต่เปิดตัวหนแรก สามารถเลือกขับเคลื่อนเฉพาะเครื่องยนต์เบนซินหรือมอเตอร์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว หรือจะเลือกขับแบบผสมทั้ง 2 ประเภทก็ได้ มีการชาร์จแบตเตอรี่ขณะรถวิ่ง

ระบบไฮบริด HSD ของพรีอุสใหม่ได้รับการพัฒนาใหม่ประมาณ 90% เพลามีน้ำหนักเบากว่าเดิมจึงสูญเสียแรงบิดน้อยลง 20% จากรุ่นก่อน และใช้ระบบเบรกชาร์จพลังงานพัฒนาใหม่

นอกจากจะมีสมรรถนะการขับเคลื่อนที่ดี ซึ่งส่งผลต่ออัตราประหยัดเชื้อเพลิงแล้ว โตโยต้ายังเสนอโหมดขับให้เลือกอีก 3 โหมด คือ EV-Drive Mode ขับด้วยแบตเตอรี่เพียงอย่างเดียวที่ความเร็วต่ำ 1.6 กม./ชม. หรือ Power Mode ให้ความรู้สึกแบบสปอร์ตมากขึ้น หรือ Eco Mode ขับประหยัดพลังงาน ทำให้วิ่งระยะทางไกลกว่าเดิม
โฉมภายนอกรูปทรงเพรียวขึ้น มีแอโร่ไดนามิกสูง ช่วยขับเน้นตัวถังรูปลิ่มซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของพรีอุส เสา A-Pillar ขยับไปด้านหน้าสะท้อนพลังและความแรง ดีไซน์ท้ายรถกว้างขึ้น เน้นอารมณ์สปอร์ตมากขึ้น ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านทานอากาศ 0.25 ดีกว่าระดับ 0.26 ในรุ่นก่อน

มิติใหม่ยาวขึ้นเล็กน้อยเป็น 175.6 นิ้ว ความกว้าง 68.7 นิ้ว ความสูงคงเดิม 58.7 นิ้ว แต่ไลน์หลังคาเฉียงขึ้นด้านท้าย 3.9 นิ้ว ขับเน้นตัวถังรูปลิ่มเด่นชัด ดูปราดเปรียวเมื่อมองจากด้านข้างและเพิ่มเนื้อที่เหนือศีรษะให้ผู้โดยสารเบาะด้านหลัง ฐานล้อขนาดเดิม 106.3 นิ้ว

พรีอุสผลิตจากแพลตฟอร์มใหม่ที่มีการปรับปรุงด้านเสถียรภาพการทรงตัวและยึดเกาะถนนดีขึ้น ลดเสียงรบกวนในห้องโดยสาร เพิ่มความแข็งแกร่งและความปลอดภัยต่อการชนดีขึ้น ใช้ล้ออัลลอย 15 นิ้ว คู่กับยางขนาด 195/65 มีออพชั่นล้ออัลลอย 17 นิ้ว และยางขนาด 215/45
ห้องโดยสารกว้างและเงียบขึ้น ห้องเก็บสัมภาระใหญ่ขึ้น ให้อุปกรณ์มาตรฐานคุณภาพสูง การควบคุมเครื่องเสียงหรือสวิตช์ข้อมูลต่าง ๆ เป็นระบบจอสัมผัส Touch Sensor อยู่บนพวงมาลัย ซึ่งเชื่อมโยงกับระบบ Touch Tracer ที่แสดงสถานะการใช้งานบนแผงหน้าปัด มีให้เป็นรุ่นแรกในโลก จอแสดงข้อมูลการขับขี่แสดงข้อมูลความสิ้นเปลืองน้ำมันเมื่อขับโหมด Eco
อีกทั้งยังเสนอออพชั่นพิเศษสุดอย่างหลังคามูนรูฟพร้อมแผงโซลาร์เหนือเบาะด้านหลัง หลอดไฟ LED สำหรับไฟหน้า ไฟท้ายและไฟเบรก มีระบบช่วยจอด (Intelligent Parking Assist- IPA) เป็นส่วนหนึ่งในระบบความปลอดภัยที่ดีระดับแถวหน้าในโลก

โตโยต้าจะเผยราคาของพรีอุสใหม่ใกล้วันจำหน่ายในสหรัฐราวเดือนมิถุนายน

Credit : http://www.ecareasy.com/www/show_carnews.php?news_id=2659
ที่มา oknation

ไม่มีความคิดเห็น:

รายการบล็อกของฉัน