
ปลายปีหน้าลุ้น Toyota New Yaris โฉมใหม่ ตอนแรกนึกว่าปี 2010 จะจบลงแบบไม่มีอะไรให้ติดตามต่อในช่วงปลายปี แต่สุดท้ายโตโยต้าทิ้งใบเด็ดสร้างกระแสก่อนรับปีใหม่ ด้วยการเผยโฉมเจนเนอเรชันที่ 3 ของซับคอมแพ็กต์ยอดนิยมอย่างยาริส/วิตซ์ออกมาแล้ว สดใหม่ในทุกรายละเอียด และพร้อมลุยตลาดญี่ปุ่นเป็นแห่งแรก ก่อนทยอยเปลี่ยนโฉมตามตลาดแห่งต่างๆ ทั่วโลก ซึ่งก็รวมถึงเมืองไทย
ยาริสเป็นผลผลิตที่โตโยต้าเผยโฉมออกมาในปี 1999 โดยตอนแรกมุ่งเน้นเจาะตลาดรถเล็กในยุโรป ก่อนที่จะกลายเป็นรถยนต์รุ่นหลักในการเข้าทำตลาดหลายแห่งทั่วโลก รวมถึงเมืองไทยที่มีโอกาสสัมผัสกับยาริสกับรุ่นเจนเนอเรชันที่ 2 ส่วนรุ่นใหม่นี้เป็นสายพันธุ์ที่ 3 ซึ่งเพิ่งเปิดตัวสดๆ ร้อนๆ ในตลาดญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 22 ธันวาคมที่ผ่านมา

ในแง่ของมิติตัวถังคงความกะทรัดและความคล่องตัวด้วยตัวเลขความยาว 3,885 มิลลิเมตรในรุ่นปกติ แต่ถ้าเป็นรุ่นแต่งสปอร์ตรหัส RS จะยาวขึ้นมาเป็น 3,930 มิลลิเมตร ส่วนความกว้างอยู่ที่ 1,695 มิลลิเมตร ความสูง 1,500 และ 1,530 มิลลิเมตรสำหรับรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้า และ 4 ล้อตามลำดับ ส่วนรหัสตัวถังคือ SP130

เครื่องยนต์ที่ขายในญี่ปุ่นมีแต่แบบเบนซิน แต่มีให้เลือก 3 แบบ คือ รหัส 1KR-FE แบบ 3 สูบ ทวินแคม 12 วาล์ว พร้อมระบบวาล์วแปรผัน VVT-i 1,000 ซีซี รีดกำลังออกมาได้ 69 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 9.4 กก.-ม. ที่ 3,600 รอบ/นาที

นอกจากนั้นรุ่น 1NR-FE ยังเพิ่มความพิเศษด้วยการติดตั้งระบบที่เรียกว่า Smart Stop ซึ่งเป็นการนำแนวคิดของการลดความสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงและการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกสู่สภาพแวดล้อม โดยจะทำการดับเครื่องยนต์อัตโนมัติเมื่อจอดติดอยู่กับที่ อีกทั้งยังติดตั้งปุ่มเพื่อปลดการทำงานของระบบได้ด้วยหากผู้ขับบางคนอาจจะไม่อยากใช้ระบบนี้ ส่วนในแง่ความประหยัดแล้ว ในรุ่นที่ใช้ระบบนี้จะมีความประหยัดถึง 26.5 กิโลเมตร/ลิตรตามการทดสอบในโหมด 10-15 ของญี่ปุ่น ส่วนรุ่นธรรมดามีความสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ยที่ 18-23 กิโลเมตร/ลิตร
สำหรับเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ติดตั้งในวิตซ์/ยาริสรุ่นนี้ เช่น ระบบควบคุมการทรงตัวและป้องกันการลื่นไถล หรือ VSC/TRC ไฟหน้าแบบเปิด-ปิดอัตโนมัติเมื่อขับเข้าที่มืด เช่น อุโมงค์ ถุงลมนิรภัยที่ติดตั้งมาครบครันทั้งคู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย
บุกตลาดญี่ปุ่นแล้ว กับราคา 1,060,000-1,790,000 เยน หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 390,000-662,000 บาท ส่วนบ้านเราน่าจะต้องรออีกสักระยะ อย่างเร็วน่าจะเป็นช่วงปลายปี 2011
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น