โตโยต้ารุกหนักรถไฮบริด เปิด‘พริอุส’เขย่าตลาดเก๋ง

ค่ายยักษ์ “โตโยต้า” ก้าวหนีคู่แข่งไปอีกระดับ เดินหน้ารุกหนักรถไฮบริดในไทย หลังจากประสบความสำเร็จทำยอดขายทะลุ 2 ล้านคันทั่วโลก และประกาศนำรถไฮบริดแทรกร่วมกับรุ่นปกติทุกตลาดภายในปี 2010 โดยไทยเป็นฐานการผลิตและทำตลาดหลักในอาเซียน เมื่อขึ้นไลน์ประกอบ “โตโยต้า พริอุส” รถยนต์ไฮบริดเต็มรูปแบบ ล่าสุดเตรียมเปิดตัวสู่ตลาดไทยภายในสิ้นปีนี้ เมื่อเรียกดีลเลอร์ทั่วประเทศประชุม 19 ตุลาคมนี้ เพื่อชี้แจงแผนการทำตลาด คาดว่าจะเปิดตัวทางการปลายตุลาคม หรือภายในพฤศจิกายนนี้ เปิดข้อมูลเบื้องต้นเคาะราคาไม่เกิน 1.2 ล้านบาท ส่งมอบรถต้นเดือนธันวาคมปีนี้ ยันไม่ส่งผลกระทบกับ “โตโยต้า โคโรลล่า อัลติส” และ “โตโยต้า คัมรี่” เชื่อเป็นลูกค้าคนละกลุ่มกัน โดยมุ่งจับคนรุ่นใหม่ทันสมัยและกล้าแตกต่างแม้จะโดมรสุมรีคอลรถกระหน่ำทั้งปี โตโยต้ายังเดินหน้ารุกตลาดไฮบริดอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการประกาศใช้โรงงานในประเทศฝรั่งเศส เป็นฐานผลิตรถไฮบริดขนาดเล็ก และยังประกาศความสำเร็จของรถไฮบริดโตโยต้า สามารถทำยอดขายบรรลุ 2 ล้านคันทั่วโลกไปแล้ว พร้อมกับประกาศแผนภายในปี 2020 จะส่งรถไฮบริดแทรกทำตลาดร่วมกับรถรุ่นปกติในทุกตลาดทั่วโลก

สำหรับประเทศไทยโตโยต้าได้มีการแนะนำรถไฮบริด แทรกทำตลาดร่วมกับรุ่นปกติอยู่ 1 โมเดล นั่นก็คือ “โตโยต้า คัมรี่ ไฮบริด” และนับว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างมากเช่นกัน ในระยะเวลากว่าหนึ่งปีที่คัมรี่ไฮบริดเปิดตัวสู่ตลาดไทย มียอดขายไปแล้วกว่า 10,000 คัน

“โตโยต้าให้ความสำคัญกับรถยนต์พลังงานทางเลือก โดยเฉพาะรถยนต์ไฮบริด ซึ่งในไทยโตโยต้าได้ผลิตและทำตลาดรุ่นคัมรี่ไปแล้ว และเรากำลังวางแผนจะผลิต โตโยต้า พริอุส รถยนต์ไฮบริดโมเดลใหม่ในไทย เพื่อรองรับตลาดในประเทศและส่งออกอาเซียน โดยทุกอย่างจะชัดเจนภายในช่วงระยะเวลา 1 ปีนับจากนี้ไป”
นั่นเป็นคำกล่าวของ “เคียวอิจิ ทานาดะ” กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด หรือทีเอ็มที(TMT) ในการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งชัดเจนรถยนต์ไฮบริดโตโยต้า พริอุส เจนเนอรชั่นที่ 3 จะขึ้นไลน์ผลิตและทำตลาดในประเทศไทยแน่นอน เหลือเพียงคำถามคาใจอย่างเดียวจะเป็นเมื่อไหร่เท่านั้น?

เรื่องนี้ “ASTV ผู้จัดการมอเตอริ่ง” ได้รายงานข่าวไปเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาว่า โตโยต้า พริอุส ใหม่ จะเริ่มถูกส่งทำตลาดในไทยช่วงปลายปีนี้ และจะเต็มรูปแบบตั้งแต่ปี 2554 เป็นต้นไป ซึ่งกระแสดังกล่าวล่าสุดมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น เมื่อมีรายงานข่าวจากตัวแทนจำหน่าย หรือดีลเลอร์โตโยต้าว่า ภายในเดือนตุลาคมนี้จะมีการเรียกประชุมดีลเลอร์ทั่วประเทศ เพื่อชี้แจงแผนการทำตลาดรถยนต์ไฮบริดโตโยต้า พริอุสในไทย

“ทางโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ได้มีการเรียกผู้บริหารดีลเลอร์ทั่วประเทศ เพื่อประชุมชี้แจงเกี่ยวกับแผนการทำตลาดโตโยต้า พริอุสในไทย ช่วงวันที่ 19 ตุลาคที่จะถึงนี้ และหลังจากนั้นจึงจะเป็นการอบรมเซลส์ ส่วนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการน่าจะปลายเดือนตุลาคม หรือภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ ซึ่งจากข้อมูลคร่าวๆ ทราบว่าจะมีการส่งมอบรถให้กับลูกค้าล็อตแรกช่วงต้นเดือนธันวาคม และราคาของโตโยต้า พริอุส ไม่น่าจะเกิน 1.2 ล้านบาท”
รายงานข่าวจากตัวแทนจำหน่ายโตโยต้ายังระบุว่า ราคาของพริอุสไม่สูงมากนัก เนื่องจากได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีสรรพสามิต และเมื่อเร็วๆ นี้ ยังได้รับยกเว้นภาษีนำเข้าอุปกรณ์ชิ้นส่วนเพิ่มอีก 6 รายการ ส่วนราคาที่ใกล้เคียงกับโตโยต้า โคโรลล่า อัลติส และต่ำกว่าโตโยต้า คัมรี่ ไฮบริด ไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อกัน เพราะผู้ที่ยังนิยมรถแบบอัลติส ส่วนใหญ่จะไม่เปลี่ยนใจมาซื้อพริอุส หรือลูกค้าที่ซื้อคัมรี่ก็จะไม่ลงมาเล่นรถที่มีขนาดเล็กลงมาแน่นอน โดยกลุ่มลูกค้าโตโยต้า พริอุส จะเป็นคนรุ่นใหม่ทันสมัย ต้องการสิ่งที่แตกต่างมากกว่า

แน่นอนเรื่องนี้คงต้องพิสูจน์กัน เมื่อแนะนำสู่ตลาดไปแล้ว แต่ต้องยอมรับนับตั้งแต่ โตโยต้า พริอุส รุ่นแรกถูกเปิดตัวออกมาในปี 1997 สร้างความฮือฮาได้ไม่น้อย เพราะว่าเป็นรถยนต์ไฮบริดแบบ Mass production รุ่นแรกของโลก โดยในช่วงแรกจำกัดตลาดอยู่แค่ในญี่ปุ่น ก่อนที่จะขยายตลาดออกสู่สหรัฐอเมริกาในปี 2000 และได้รับการตอบรับจากลูกค้าที่นี่อย่างมาก ต่อมาจึงได้มีการเปิดตัวรุ่นที่ 2 ในปี 2004 พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของตัวถัง ซึ่งพริอุสถูกเปลี่ยนจากซีดาน 4 ประตูมาเป็นแฮทช์แบ็ก 5 ประตู ที่มีขนาดตัวถังใหญ่ขึ้นมาอยู่ในระดับเดียวกับรถคอมแพ็กต์ และตัวระบบไฮบริดก็ได้รับการปรับปรุงให้มีสมรรถนะ ทั้งความแรงและความประหยัดน้ำมันดีขึ้น
สำหรับโตโยต้า พริอุส ที่ทำตลาดในปัจจุบัน เป็นเจนเนอเรชันที่ 3 เปิดตัวเมื่อต้นปี 2009 แต่ทำตลาดเต็มที่ในปี 2010 โดยตัวถังยังเหมือนเดิมเป็นแบบแฮทช์แบ็ก 5 ประตูที่มีรูปทรงคล้ายเดิมอย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อมองจากทางด้านท้าย แต่ความจริงเป็นรุ่นเปลี่ยนโฉมใหม่หมดทั้งคัน พร้อมกับการออกแบบให้มีความเพรียวลม ด้วยค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน หรือ Cd เพียง 0.25 ตัวถังมีความยาว 4,460 มิลลิเมตร กว้าง 1,744 มิลลิเมตร สูง 1,490 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อเท่าเดิมที่ 2,700 มิลลิเมตร

ระบบไฮบริดแบบ Hybrid Synergy Drive หรือ HSD ตอบสนองความเร้าใจด้วยการขยับเครื่องยนต์สันดาปภายในจากเดิมแบบ 4 สูบ ทวินแคม 16 วาล์ว พร้อมระบบวาล์วแปรผัน VVT-i ที่มีความจุ 1500 ซีซี มาเป็น 1800 ซีซี 98 แรงม้า ที่ 5,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 14.5 กก.-ม. ที่ 4,000 รอบ/นาที จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าแบบแม่เหล็กถาวร มีกำลังสูงสุด 80 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 21.1 กก.-ม. แต่เมื่อรวมการทำงานของทั้ง 2 ส่วนเข้าด้วยกัน ขุมพลังไฮบริดรุ่นนี้สามารถตอบสนองกำลังสูงสุดได้ 134 แรงม้า ใช้เวลา 9.8 วินาทีในการทำอัตราเร่งจาก 0-96 กิโลเมตร/ชั่วโมง
ระบบส่งกำลังของพริอุส เป็นเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง หรือ CVT สู่การขับเคลื่อนแบบล้อหน้า และมีระดับการปลดปล่อยไอเสียออกสู่อากาศตามมาตรฐาน SULEV หรือ Super Ultra Low Emission Vehicle โดยมีค่าความประหยัดน้ำมันเฉลี่ยที่ 20.3 กิโลเมตร/ลิตร สำหรับการขับแบบผสมจากการทดสอบของ EPA ซึ่งตัวเลขดีกว่า 2 เจนเนอเรชันที่ผ่านมา

พริอุสถือเป็นรถยนต์แบบไฮบิดเต็มรูปแบบ ที่เรียกกันว่า Fully Hybrid โดยในบางจังหวะสามารถขับเคลื่อนโดยอาศัยพลังจากเครื่องยนต์ หรือมอเตอร์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวก็ได้ หรือว่าจะให้ทั้ง 2 อย่างทำงานร่วมกันก็ได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับการประมวลผลและการตัดสินใจของกล่องสมองกลที่ควบคุมการทำงาน

สำหรับรุ่นใหม่มีความเหนือชั้นกว่า เพราะโตโยต้าจัดการติดตั้งปุ่ม EV Drive Mode มาให้ สำหรับให้ลูกค้าเลือกขับเคลื่อนโดยอาศัยกระแสไฟฟ้าจากแบตเตอรี่เพียงอย่างเดียว แต่ก็ยังมีข้อจำกัดเนื่องจากสามารถแล่นได้เฉพาะในช่วงความเร็วต่ำ และแล่นได้ไม่เกิน 1 ไมล์ หรือ 1.609 กิโลเมตร ขึ้นอยู่กับกระแสไฟฟ้าที่อยู่ในแบตเตอรี่

นอกจากนี้โตโยต้า พริอุส ยังมีโหมดอื่นให้เลือกใช้งาน เช่น Power Mode สำหรับรีดกำลังจากเครื่องยนต์ ด้วยการเพิ่มความไวในการทำงานของลิ้นปีกผีเสื้อ ที่ตอบสนองได้ทันกับการกดคันเร่ง หรือ Eco Mode สำหรับเน้นความประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง นับว่าเป็นการก้าวไปอีกขั้นของตลาดรถยนต์ในไทย ซึ่งหากเป็นไปตามรายงานข่าว ผู้บริโภคชาวไทยจะได้สัมผัสและได้ใช้งาน “โตโยต้า พริอุส” ก่อนสิ้นปีนี้แน่นอน?!
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

ไม่มีความคิดเห็น:

รายการบล็อกของฉัน