
สำหรับประเทศไทยโตโยต้าได้มีการแนะนำรถไฮบริด แทรกทำตลาดร่วมกับรุ่นปกติอยู่ 1 โมเดล นั่นก็คือ “โตโยต้า คัมรี่ ไฮบริด” และนับว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างมากเช่นกัน ในระยะเวลากว่าหนึ่งปีที่คัมรี่ไฮบริดเปิดตัวสู่ตลาดไทย มียอดขายไปแล้วกว่า 10,000 คัน
“โตโยต้าให้ความสำคัญกับรถยนต์พลังงานทางเลือก โดยเฉพาะรถยนต์ไฮบริด ซึ่งในไทยโตโยต้าได้ผลิตและทำตลาดรุ่นคัมรี่ไปแล้ว และเรากำลังวางแผนจะผลิต โตโยต้า พริอุส รถยนต์ไฮบริดโมเดลใหม่ในไทย เพื่อรองรับตลาดในประเทศและส่งออกอาเซียน โดยทุกอย่างจะชัดเจนภายในช่วงระยะเวลา 1 ปีนับจากนี้ไป”

เรื่องนี้ “ASTV ผู้จัดการมอเตอริ่ง” ได้รายงานข่าวไปเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาว่า โตโยต้า พริอุส ใหม่ จะเริ่มถูกส่งทำตลาดในไทยช่วงปลายปีนี้ และจะเต็มรูปแบบตั้งแต่ปี 2554 เป็นต้นไป ซึ่งกระแสดังกล่าวล่าสุดมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น เมื่อมีรายงานข่าวจากตัวแทนจำหน่าย หรือดีลเลอร์โตโยต้าว่า ภายในเดือนตุลาคมนี้จะมีการเรียกประชุมดีลเลอร์ทั่วประเทศ เพื่อชี้แจงแผนการทำตลาดรถยนต์ไฮบริดโตโยต้า พริอุสในไทย
“ทางโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ได้มีการเรียกผู้บริหารดีลเลอร์ทั่วประเทศ เพื่อประชุมชี้แจงเกี่ยวกับแผนการทำตลาดโตโยต้า พริอุสในไทย ช่วงวันที่ 19 ตุลาคที่จะถึงนี้ และหลังจากนั้นจึงจะเป็นการอบรมเซลส์ ส่วนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการน่าจะปลายเดือนตุลาคม หรือภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ ซึ่งจากข้อมูลคร่าวๆ ทราบว่าจะมีการส่งมอบรถให้กับลูกค้าล็อตแรกช่วงต้นเดือนธันวาคม และราคาของโตโยต้า พริอุส ไม่น่าจะเกิน 1.2 ล้านบาท”

แน่นอนเรื่องนี้คงต้องพิสูจน์กัน เมื่อแนะนำสู่ตลาดไปแล้ว แต่ต้องยอมรับนับตั้งแต่ โตโยต้า พริอุส รุ่นแรกถูกเปิดตัวออกมาในปี 1997 สร้างความฮือฮาได้ไม่น้อย เพราะว่าเป็นรถยนต์ไฮบริดแบบ Mass production รุ่นแรกของโลก โดยในช่วงแรกจำกัดตลาดอยู่แค่ในญี่ปุ่น ก่อนที่จะขยายตลาดออกสู่สหรัฐอเมริกาในปี 2000 และได้รับการตอบรับจากลูกค้าที่นี่อย่างมาก ต่อมาจึงได้มีการเปิดตัวรุ่นที่ 2 ในปี 2004 พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของตัวถัง ซึ่งพริอุสถูกเปลี่ยนจากซีดาน 4 ประตูมาเป็นแฮทช์แบ็ก 5 ประตู ที่มีขนาดตัวถังใหญ่ขึ้นมาอยู่ในระดับเดียวกับรถคอมแพ็กต์ และตัวระบบไฮบริดก็ได้รับการปรับปรุงให้มีสมรรถนะ ทั้งความแรงและความประหยัดน้ำมันดีขึ้น

ระบบไฮบริดแบบ Hybrid Synergy Drive หรือ HSD ตอบสนองความเร้าใจด้วยการขยับเครื่องยนต์สันดาปภายในจากเดิมแบบ 4 สูบ ทวินแคม 16 วาล์ว พร้อมระบบวาล์วแปรผัน VVT-i ที่มีความจุ 1500 ซีซี มาเป็น 1800 ซีซี 98 แรงม้า ที่ 5,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 14.5 กก.-ม. ที่ 4,000 รอบ/นาที จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าแบบแม่เหล็กถาวร มีกำลังสูงสุด 80 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 21.1 กก.-ม. แต่เมื่อรวมการทำงานของทั้ง 2 ส่วนเข้าด้วยกัน ขุมพลังไฮบริดรุ่นนี้สามารถตอบสนองกำลังสูงสุดได้ 134 แรงม้า ใช้เวลา 9.8 วินาทีในการทำอัตราเร่งจาก 0-96 กิโลเมตร/ชั่วโมง

พริอุสถือเป็นรถยนต์แบบไฮบิดเต็มรูปแบบ ที่เรียกกันว่า Fully Hybrid โดยในบางจังหวะสามารถขับเคลื่อนโดยอาศัยพลังจากเครื่องยนต์ หรือมอเตอร์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวก็ได้ หรือว่าจะให้ทั้ง 2 อย่างทำงานร่วมกันก็ได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับการประมวลผลและการตัดสินใจของกล่องสมองกลที่ควบคุมการทำงาน
สำหรับรุ่นใหม่มีความเหนือชั้นกว่า เพราะโตโยต้าจัดการติดตั้งปุ่ม EV Drive Mode มาให้ สำหรับให้ลูกค้าเลือกขับเคลื่อนโดยอาศัยกระแสไฟฟ้าจากแบตเตอรี่เพียงอย่างเดียว แต่ก็ยังมีข้อจำกัดเนื่องจากสามารถแล่นได้เฉพาะในช่วงความเร็วต่ำ และแล่นได้ไม่เกิน 1 ไมล์ หรือ 1.609 กิโลเมตร ขึ้นอยู่กับกระแสไฟฟ้าที่อยู่ในแบตเตอรี่
นอกจากนี้โตโยต้า พริอุส ยังมีโหมดอื่นให้เลือกใช้งาน เช่น Power Mode สำหรับรีดกำลังจากเครื่องยนต์ ด้วยการเพิ่มความไวในการทำงานของลิ้นปีกผีเสื้อ ที่ตอบสนองได้ทันกับการกดคันเร่ง หรือ Eco Mode สำหรับเน้นความประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง นับว่าเป็นการก้าวไปอีกขั้นของตลาดรถยนต์ในไทย ซึ่งหากเป็นไปตามรายงานข่าว ผู้บริโภคชาวไทยจะได้สัมผัสและได้ใช้งาน “โตโยต้า พริอุส” ก่อนสิ้นปีนี้แน่นอน?!
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น