ใหม่โตโยต้า พริอุส ไฮบริด เจเนอเรชั่นที่3 สมรรถนะเยี่ยม ประหยัดน้ำมันสุดๆ

ใหม่โตโยต้า พริอุส ไฮบริด เจเนอเรชั่นที่3 สมรรถนะเยี่ยม ประหยัดน้ำมันสุดๆ
หลังจากการเปิดตัว " พริอุส ไฮบริด เจเนอเรชั่นที่3" อย่างเป็นทางการในบ้านเรา เมื่อช่วงต้นเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา ทีมประชาสัมพันธ์ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ได้จัดกิจกรรมการทดสอบ เพื่อเป็นการตอกย้ำถึงสมรรถนะ อันโดดเด่น และเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ของ "พริอุส เจเนอเรชั่นที่3" ยนตรกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง
สัมผัสแรกที่เห็นเจ้า "พริอุส ไฮบริด" ต้องยอมรับว่าดีไซน์ได้โดดเด่นมาก รูปโฉมดูล้ำสมัย เส้นสายลายเส้นสอดรับกันได้อย่างลงตัว ไฟหน้าแบบ LED ลักษณะคล้ายก้ามปู ดูแปลกตาไม่ซ้ำใคร พร้อมระบบทำความสะอาดไฟหน้า ด้วยหัวฉีดน้ำที่สามารถพับซ่อนเก็บได้ ขณะที่ไฟท้ายแบบ LED สไตล์สปอร์ต มองเห็นได้ชัดเจน และเสริมความเท่ห์ด้วย ล้ออัลลอย ขนาด 15 นิ้ว สำหรับการตกแต่งภายในดูเรียบหรู เน้นการใช้งานได้ทุกส่วน เพิ่มความล้ำสมัยด้วยระบบการแสดงผลมาตรวัดความเร็วรถ และระดับการขับขี่ บนกระจกบังลมหน้า (Head-up Display) พร้อมจอแสดงข้อมูลแบบออพตริตรอน ที่ จะช่วยไม่ให้ผู้ขับขี่ต้องละสายตาจากถนน (Advanced Multi-information Display หรือ MID) นอกเหนือจากนี้พวงมาลัยยังเป็นแบบมัลติฟังก์ชั่น สามารถแสดงภาพกราฟฟิกของปุ่มควบคุมต่างๆ บนจอ MID ได้ด้วย
โตโยต้า พริอุส ไฮบริด ใช้เครื่องยนต์ Atkinson Cycle รหัส 2ZR-FXE / 4 สูบแถวเรียง DOHC 16 วาว์ล VVT-i โดยเครื่องยนต์เปลี่ยนจากเดิม 1,500 ซีซี มาเป็นขนาด 1,800 ซีซี แบบฟลูไฮบริด แรงม้าสูงสุด 99 แรงม้าที่ 5,200 รอบต่อนาที แรงบิด 142 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที เพิ่มพลังมากขึ้น ซึ่งทีมวิศวกรการันตีว่า สมรรถนะเทียบเท่าเครื่องยนต์ 2400 ซีซี กันเลยทีเดียว แต่อัตราการสิ้นเปลืองจะช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงมากขึ้น 30% ขณะที่มอเตอร์ไฟฟ้า เป็นแบบมอเตอร์ซิงโครนัสแม่เหล็กถาวร มีแรงดันไฟฟ้าสูงสุด 650 โวลต์ กำลังสูงสุด 82 แรงม้า และแรงบิดสุงสุด 207 นิวตัน-เมตร เมื่อผนวกกับเกียร์ไฟฟ้าอัตโนมัติ ซึ่งระบบคันเกียร์จะกลับคืนสู่ตำแหน่งกลาง โดยอัตโนมัติทุกครั้งหลังการ เข้าเกียร์ ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่มากขึ้น สำหรับแบตเตอรี่ไฮบริดแบบ Nickel-Metal Hydride ได้รับการพัฒนาให้มีน้ำหนักเบา และทนทานมากขึ้น โดยโตโยต้า ให้การรับประกัน 3 ปี หรือ 100,00 กม. ทั้งนี้ วิศวกรได้ การันตีว่าอายุการใช้งานของแบตฯ อย่างน้อย 10 ปีขึ้นไป
สำหรับการทดสอบในครั้งนี้ ใช้เส้นทางในพื้นที่จ.เชียงราย ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นทางลาดชัน สลับกับทางโค้ง เรียกได้ว่าได้ทดสอบสมรรถนะของเจ้าพริอุส ไฮบริด กันเต็มๆ ทั้งมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์ ทำงานร่วมกันได้อย่างไหลลื่น มีประสิทธิภาพมาก ทั้งนี้ พริอุส ไฮบริด จะมีโหมดให้เลือกการใช้งานได้ถึง 3 รูปแบบ คือ การขับขี่แบบเต็มกำลัง (PWR Mode) แบบประหยัดน้ำมัน ( ECO Mode ) และแบบเงียบสนิท ( EV Mode ) ให้เลือกขับขี่ได้ตามความต้องการ ขณะเดียวกันการเปลี่ยนเกียร์ก็เป็นไปอย่างนุ่มนวล พวงมาลัยให้ความแม่นยำสูงมาก ช่วงล่างเกาะถนนดีเยี่ยม แต่ถ้าต้อง ขับขี่ในทางลาดชัน ผู้เขียนลองพลักคันเกียร์มาที่ตำแหน่ง B ตามที่วิศวกรแนะนำ ต้องยอมรับว่าช่วยให้ขับขี่ได้สนุกมากครับ
ด้านความปลอดภัยมีให้ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น โครงสร้างนิรภัย GOA , เบรก ABS พร้อมระบบ EBD ช่วยกระจายแรง เบรก, ถุงลมนิรภัย 7 จุดรอบคัน , ระบบควบคุมการทรงตัว ( VSC ) ที่จะช่วยให้รถทรงตัวได้ในทุกสภาพการขับขี่ และสั่งเครื่องยนต์ให้ลดความเร็วอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังมีระบบสัญญาณไฟเบรกกระพริบ เมื่อเบรกกระทันหัน เพื่อเตือนรถ ที่อยู่ด้านหลัง ช่วยเพิ่มความมั่นใจ และความปลอดภัยได้มากขึ้น

โดยสรุปแล้ว "โตโยต้า พริอุส ไฮบริด เจเนอเรชั่นที่ 3" เป็นยนตรกรรมที่น่าสนใจอีกหนึ่งรุ่น ทั้งด้านสมรรถนะ และความปลอดภัยที่เหนือกว่ารถในเซกเม้นท์เดียวกัน และที่สำคัญยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย สำหรับผู้ที่สนใจทดลองขับได้ที่โชว์รูมโตโยต้าทั่วประเทศ สนนราคาค่าตัวเริ่มต้นที่ 1.19 ล้านบาท
นิติ โมราวรรณ
ที่มา naewna

ไม่มีความคิดเห็น:

รายการบล็อกของฉัน